
คุณพ่อ คุณแม่ ท่านผู้ปกครอง ต่างมีความรัก ความห่วงใยลูกหลาน อยากจะมอบสิ่งที่ดีๆ ให้แก่ลูกหลาน อยากให้พวกเขามีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี
"ศาสนา" เอาไว้เรียนตอนโตก็ได้ จริงหรือ ?
คุณพ่อ คุณแม่ ท่านผู้ปกครอง ต่างมีความรัก ความห่วงใยลูกหลาน อยากจะมอบสิ่งที่ดีๆ ให้แก่ลูกหลาน อยากให้พวกเขามีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี อยากให้ได้รับการศึกษาที่ดี อยากให้เป็นคนดี อยากให้เป็นคนเก่ง อยากให้พวกเขาเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่มีเกียรติ มีฐานะ มียศถาบรรดาศักดิ์ มีตำแหน่งหน้าที่ มีการงานที่ดี ... คุณพ่อ คุณแม่ ท่านผู้ปกครอง จึงส่งเสริม สนับสนุนให้พวกเขา ได้เข้าโรงเรียนที่คิดว่าดี มีชื่อเสียง ในขณะเดียวกัน ก็อยากให้ลูกหลาน เป็นคนที่อยู่ในศาสนา แต่กลับไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุนให้ลูก ได้เรียนรู้ในเรื่องของศาสนา โดยคิดว่า ... "เรื่องศาสนาเอาไว้เรียนตอนโต" ก็แล้วกันนะลูก !
อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสไว้ในอัลกุรอาน คัมภีร์ของพระองค์ ในซูเราะฮฺ อัซซาริยาต อายะฮฺที่ 56 ว่า
وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ
“และข้ามิได้สร้าง ญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อ เคารพอิบาดะฮฺต่อข้า”
นั่น ก็หมายความว่า อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงต้องการให้ทุกคน ที่เกิดมาบนโลกนี้ เคารพอิบาดะฮฺ ต่อพระองค์เพียงองค์เดียวเท่านั้น ไม่ให้มีหุ้นส่วน ไม่ให้มีภาคีใดๆ ต่อพระองค์ พระองค์ทรงมอบอัลกุรอาน มาให้เป็นธรรมนูญในการดำเนินชีวิต พร้อมกับทรงส่ง ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้มาเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ ทั้งทางพฤติกรรม และจริยธรรม
พระองค์ทรงบอกว่า หากเราดำเนินชีวิตไปตาม ครรลองของอัลกุรอาน ประพฤติ ปฏิบัติตาม แบบอย่างจริยวัตรของ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เราก็จะพบกับความสุข พบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง ทั้งในโลกดุนยานี้ และโลกอาคิเราะฮฺ ได้พบกับ วันแห่งความเร้นลับ ด้วยรางวัลการตอบแทนที่ดี ตลอดไป
ด้วยเหตุนี้ ชีวิตของคนเราทุกคน ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเติบโต ไปจนถึงวันสิ้นลมหายใจ ตั้งแต่ตื่นนอน ไปจนกระทั่งเวลานอนหลับพักผ่อน ในทุกๆ ย่างก้าวของทุกวัน จึงต้องดำเนินชีวิตไปตาม ครรลองแห่งอิสลาม ใช้ชีวิตอยู่ในขอบเขต ที่อิสลามกำหนด แต่ถ้าหาก เราไม่รู้เรื่องของศาสนา ว่าศาสนาบอกอะไร สั่งใช้ให้เราทำอะไร สั่งห้ามเราจากการกระทำอะไร แล้วเราจะดำเนินชีวิต ไปตามที่ศาสนากำหนดได้อย่างไร ?
ดังนั้น การที่เราบอกว่า ... ศาสนาเอาไว้เรียนตอนโต มันจึงไม่ใช่ เพราะ ทันทีที่เราเกิดมา ชีวิตของเราก็เริ่มย่างก้าว เข้าสู่ความตายไปทุกขณะ เราไม่สามารถจะรู้ว่า เราจะตายเมื่อไร ? ถ้าหากตัวเรา ลูกหลานของเรา เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้เรียนรู้เรื่องของศาสนา เสียชีวิตก่อนที่จะได้ปฏิบัติ สะสมอามัล การงานที่ศอลิฮฺ เคยถามตัวเราเองบ้างไหมว่า ตัวเรา ลูกหลานของเรา จะกลับไปพบกับอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในสภาพเช่นไร ?
เรามักจะอบรม สั่งสอนลูกหลานของเรา ว่า เมื่อเวลาที่มีใคร มาให้สิ่งของแก่เรา ให้ความช่วยเหลือเรา ให้รู้จักขอบคุณ สอนให้ไหว้ สอนให้กล่าว ญะซากัลลอฮุค็อยร็อน แต่ครั้นที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมอบลูกหลานที่ดีให้แก่เรา ทรงโปรดให้เรามีลูกหลานที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง รูปร่างหน้าตาสวยงาม หล่อเหลา น่ารักน่าใคร่ อันนับเป็นมหากรุณา เป็นริสกีที่ดี ที่พระองค์ทรงมอบแก่เรา แต่เรากลับลืมขอบคุณต่อพระองค์ ... !
หรือ เพราะเราไม่ได้ส่งเสริมให้ ลูกหลานของเรารู้จักพระองค์ ไม่ได้สนับสนุนให้ลูกหลานของเรา เรียนรู้ในเรื่องศาสนา ไม่ได้อบรม ไม่ได้สั่งใช้ ให้ลูกหลานของเราปฏิบัติในเรื่องของศาสนา เป้าหมายของการเรียนรู้เรื่องศาสนา ก็เพื่อนำความรู้นั้น มาหล่อหลอม ให้อยู่ในความรู้สึก นึกคิด แล้วนำมาสู่การประพฤติ ปฏิบัติ ในสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงสั่งใช้ สั่งห้าม เพื่อนำชีวิตของเรา ไปสู่ความพึงพอพระทัย ของพระองค์ ออกดอก ออกผลผลิต เป็นการงาน เป็นอามัล-อิบาดะฮฺ ที่ศอลิฮฺ อันจะนำเราไปสู่ ความสุขอันสถาพร ทั้งในโลกดุนยานี้ และโลกอาคิเราะฮฺ
ความรู้ในเรื่อง ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา และเรื่องศาสนาของพระองค์นั้น เป็นความรู้ที่นักวิชาการมุสลิม ผู้รู้ ผู้เรียนศาสนา ใช้เวลาศึกษามาหลายปี เรียนมามากมาย ยังต่างพูดกันว่า เรื่องของศาสนาให้เรียนตั้งแต่เล็กจนกระทั่งโต จนแม้ตายไปก็ยังเรียนไม่หมด ดังนั้น การเรียนรู้ในเรื่องของศาสนานั้น จึงต้องดำรงอยู่ตลอดเวลา ตลอดทุกช่วงของอายุ ไม่สามารถขาดตอนได้เลย
คุณพ่อ คุณแม่ ท่านผู้ปกครองผู้ชาญฉลาด จึงต้องคิดหาวิธีการที่จะบริหารจัดการ กำจัดความเสี่ยงที่จะทำให้ ตัวเรา ลูกหลานของเรา ต้องไปพบกับ การได้รับการทรมานในหลุมฝังศพ ได้รับการลงโทษในไฟนรก อย่าให้ตัวเรา ลูกหลานของเรา ต้องได้รับความขาดทุน ในวันกิยามะฮฺ
เพราะเป็นคนหนึ่ง ในบรรดาผู้ที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ในอัลกุรอาน คัมภีร์ของพระองค์ เช่นใน ซูเราะฮฺอัซซุมัร อายะฮฺที่ 58 ว่า
تَقُولَ حِينَ تَرَى الْعَذَابَ لَوْ أَنَّ لِي كَرَّةً فَأَكُونَ مِنَ الْمُحْسِنِينَ
“(ในวันกิยามะฮฺ) ชีวิตหนึ่งจะกล่าวขณะเห็นการลงโทษว่า หากฉันได้มีโอกาส กลับไปสู่โลกนี้อีกครั้งหนึ่ง แน่นอน ฉันก็จะอยู่ในหมู่ผู้กระทำดี (คือทำทุกอย่าง เพื่อแสดงการเคารพ อิบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺ)”
ดังนั้น ดูแลตัวเรา ลูกหลานของเรา ให้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวของศาสนา และลงมือปฏิบัติ เสียตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป ...
บทความที่น่าสนใจ