
ท่านรอซู้ลุ้ลเลาะฮฺ (ซล) ได้กล่าวว่า : เมื่อบ่าวคนหนึ่ง ได้ล้มป่วยลง อัลเลาะฮฺ ( ซบ) ก็ได้ส่ง มลาอีกะฮฺ มา 2 องค์ แล้วพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซบ) ทรงตรัสแก่มลาอีกะฮฺทั้งสอง ว่า เจ้าทั้งสองจงเฝ้าคอยดูว่า บ่าวของข้า เขาจะเอ่ยคำใดออกมา อันเนื่องจาก ความเจ็บปวดที่รุมเร้าเขา
ทำไมคนเราต้องเจ็บป่วย ความเจ็บป่วยคืออะไร ?
ท่านฟะกีฮ์ (นักปราชญ์) อบูลัยษ์ อัซซะมัรก๊อนดีย์ (รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ) กล่าวว่า : ได้มีรายงาน จากอบุลฮาซัน อัลกอซิม อิบนูมูฮัมหมัด อิบนู เราซูบะฮฺ จากอีซา อิบนู ค๊อชนาบ จากซุวัยดฺ อิบนูมาลิก จากเซด อิบนูอัสลัม จากอะฏอฮฺ อิบนูยะซ๊าร ว่า : ท่านรอซู้ลุ้ลเลาะฮฺ (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : เมื่อบ่าวคนหนึ่ง ได้ล้มป่วยลง อัลเลาะฮฺ ( ซ.บ.) ก็ได้ส่ง มลาอีกะฮฺ มา 2 องค์ แล้วพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสแก่มลาอีกะฮฺทั้งสอง ว่า เจ้าทั้งสองจงเฝ้าคอยดูว่า บ่าวของข้า เขาจะเอ่ยคำใดออกมา อันเนื่องจาก ความเจ็บปวดที่รุมเร้าเขา ดังนั้น เมื่อความเจ็บปวดได้ประสบกับเขา เขาก็กล่าวคำสรรเสริญ ต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ด้วยคำว่า “อัลฮัมดุลิลล่าฮฺ” มลาอีกะฮฺทั้งสองก็นำเรื่องดังกล่าว ทูลต่ออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงรอบรู้ยิ่ง ในเรื่องดังกล่าวนั้น ครั้นแล้วพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสว่า : โดยแน่แท้ หากข้าประสงค์ให้เขาได้เสียชีวิตลง (ในยามที่เขาเจ็บป่วย) ข้าจะนำเขาเข้าสู่สวรรค์ และหาก เขาหายจากการเจ็บป่วย แน่นอนข้าจะทดแทนให้แก่เขา ซึ่งเนื้อหนังมังสา และเลือดที่สมบูรณ์ยิ่งกว่า (ยามที่เขามีสุขภาพดีไม่ได้เจ็บป่วย) และยิ่งไปกว่านั้น ข้าจะปลดเปลื้องชำระความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่เขา
ท่านฟะกีฮฺ (นักปราชญ์) อบุลลัยษฺ อัซซะมัรก๊อนดีย์ (รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ) กล่าวว่า : ได้มีรายงานจากมูฮัมมัด อิบนุลฟัฏลฺ จากมูฮัมมัด อิบนู ญะฟัร จากอิบรอฮีม อิบนูยูซุฟ จากอบูมูอาวียะห์ จากอัล-อะห์มัช จากอิมาเราะฮฺ อิบนูมุมัยร จากสะอีด อิบนูวะห์บิน ได้เล่าว่า : ในวันหนึ่ง ข้าพเจ้าและซัลมาน อัล-ฟารีซีย์ ได้ไปเยี่ยมเพื่อนของซัลมาน ที่มีอาการเจ็บป่วยรุมเร้า ดังนั้น ซัลมานจึงได้กล่าวว่า : อันที่จริงอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงทดสอบบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์ ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ครั้นเมื่อเขาหายจากการทดสอบ (เช่น ความเจ็บป่วย) แล้ว แน่แท้ พระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) จักทรงปลดเปลื้องความผิดบาปที่ผ่านมา ให้แก่เขา และหลังจากนั้น เขาก็จะได้รับความเมตตาจากพระองค์ อันเหลือล้น และในขณะเดียวกัน พระองค์จักทรงทดสอบบ่าวของพระองค์ ที่ประกอบกรรมชั่วและมีตราบาป ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ครั้นเมื่อเขาหายจากการทดสอบ (เช่น ความเจ็บป่วย) แล้ว แน่นอน เขาก็มีสภาพดุจดั่ง กับอูฐที่เจ้าของของมันผูกเอาไว้ แล้วก็ปล่อยมันออกไป โดยที่เขาไม่รู้ว่า เหตุอันใดที่เขาต้องผูก และปล่อยมันออกไปเช่นนั้น
ได้มีสายรายงาน จาก อัล-อะห์มัช จากอิบรอฮีม อัตตัยมีย์ จาก อัล-หัรษฺ อิบนูซูวัยดฺ จาอิบนูมัสอู๊ด รอดิยั้ลล่อฮูอันฮุม ได้กล่าวว่า : ในวันหนึ่งข้าพเจ้าได้เข้าไปพบท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ในสภาพที่ท่านกำลังป่วยหนัก ดังนั้น ข้าพเจ้า (อิบนูมัสอู๊ด) จึงเอามือสัมผัส จับเรือนร่างของท่านศาสดา (ซ.ล.) แล้วข้าพเจ้าก็กล่าวว่า : โอ้ท่านศาสดา (ซ.ล. ) เอ๋ย ท่านกำลังไม่สบายมากเลย ท่านศาสดา (ซ.ล.) กล่าวตอบว่า : ใช่แล้ว ฉันกำลังไม่สบาย เหมือนกับชายสองคนในหมู่พวกท่าน ที่กำลังไม่สบายเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้า (อิบนูมัสอู๊ด) จึงกล่าวว่า : ถ้าเช่นนั้น ท่านก็จะได้รับผลบุญ ถึงสองเท่ากระนั้นหรือ ? ท่านศาสดา (ซ.ล.) กล่าวตอบว่า “ใช่แล้ว” ขอสาบานต่อผู้ซึ่ง ชีวิตของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ (อำนาจ) ของพระองค์ว่า อันที่จริง ไม่มีมุสลิมคนหนึ่งคนใด ที่อยู่บนหน้าพื้นแผ่นดิน ที่เขาได้ประสบกับความเจ็บป่วย นอกจากอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) จักทรงปลดเปลื้องความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่เขา ดุจดั่งใบไม้ที่ร่วงหล่น จากกิ่งต้นของมัน
ได้มีรายงานจากท่าน ญะฟัร อิบนิ ฟาริส จากซัยคิน จากชายคนหนึ่งในหมู่ชน มูฮาญีรีน เล่าว่า : ในวันหนึ่งเขาได้ไปเยี่ยมผู้ป่วย แล้วเขาก็กล่าวว่า : สำหรับผู้ป่วยนั้น ยามที่เขาเจ็บป่วย เขาจะได้รับความดี 4 ประการ
ประการที่ 1 ปากกาจะไม่บันทึกความผิดบาปแก่เขา (ปากกาถูกยกออกจากเขา)
ประการที่ 2 ผลบุญจะหลั่งไหลให้แก่เขา เสมือนหนึ่ง เขาได้ปฏิบัติคุณความดีในยามที่เขา มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์
ประการที่ 3 ทุก ๆ ข้อต่อ จากอวัยวะของเขา ที่มีมลทินและตราบาป จะถูกลบล้างออกจนหมดสิ้น
ประการที่ 4 หากเขาตายไป (ในสภาพที่เขาเจ็บป่วย) แน่นอน เขาจะได้รับการอภัยโทษ จากอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) และหากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะได้รับการอภัยโทษ จากพระองค์เช่นเดียวกัน
เล่าจากท่านมูอ๊าซ อิบนิ ญะบั้ล รอดิยัลล่อฮูตาอาลาอันฮู ว่า : ท่านรอซูลุลเลาะฮฺ (ซ.ล.) กล่าวว่า : เมื่อพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทดสอบบ่าวของพระองค์ ผู้มีศรัทธา ด้วยกับโรคภัยต่าง ๆ แล้ว พระองค์ทรงตรัส แก่มลาอีกะฮฺที่ทำหน้าที่ จดบันทึกด้านซ้าย ว่า : เจ้าจงยกปากกาออกจากเขาเถิด (หมายถึง ปากกาจะไม่บันทึกความผิดบาปของเขา) และพระองค์ทรงตรัส แก่มลาอีกะฮฺที่อยู่ด้านขวาว่า : เจ้าจงบันทึกไว้ในบัญชีของเขาเถิด ให้แก่บ่าวของข้า ซึ่งความดีงามที่ดีที่สุด ยิ่งกว่าเขาได้ปฏิบัติธรรม ในขณะที่เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
เล่าจากท่านอุมัร รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮูมา ว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : ท่านทั้งหลาย อย่าได้บังคับผู้ป่วยในหมู่พวกท่าน ให้เขารับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม เพราะแท้ที่จริงอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงให้อาหาร และเครื่องดื่มแก่พวกเขา (ผู้ป่วย) เอง
ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : ลมหายใจของเขานั้นย่อมเป็นกุศล และการนอนของเขาเป็นอีบาดะฮฺ การเปลี่ยน (อิริยาบถ) จากสภาพหนึ่ง ไปสู่อีกสภาพหนึ่งนั้น ถือเป็นการต่อสู้ (ญีฮาด) ในหนทางของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) และพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) จักทรงบันทึกคุณความดีแก่เขา ดีกว่าการปฏิบัติธรรมของเขา ในสภาพที่เขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : บุคคล 4 จำพวก ที่การปฏิบัติธรรมของเขา เพิ่งเริ่มเปิดฉากขึ้น เสมือนหนึ่งว่า เขามีความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้มลทิน และตราบาป บุคคลเหล่านั้น ได้แก่ :-
1. ผู้ป่วย เมื่อเขาได้หายจาก ความเจ็บป่วย
2. ผู้ตั้งภาคี เมื่อเขาได้เข้ารับศรัทธา ในศาสนาอิสลามแล้ว
3. ผู้ที่ปฏิบัติละหมาดวันศุกร์ ด้วยความศรัทธามั่น และมุ่งหวังในการตอบแทน จากพระองค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
4. ผู้ที่เดินทางประกอบพิธีฮัจย์ ด้วยทรัพย์สิน ที่ฮาลาล
ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : ท่านนบี (ซ.ล.)ได้กล่าวว่า : ขุมคลังแห่งความดีงามนั้น ย่อมได้รับแก่ บุคคล 3 จำพวก ได้แก่ :-
1. ผู้ที่ประสบกับความเจ็บป่วย แล้วเขาก็มีความอดทน โดยที่เขาไม่พร่ำบ่นใด ๆ ในความเจ็บป่วย ที่รุมเร้าเขา
2. ผู้ที่บริจาคทานแบบลับ ๆ โดยไม่มีใครอื่นใดล่วงรู้ นอกจากอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) เท่านั้น
3. ผู้ที่มีความอดทน ต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ที่ได้มาประสบกับเขา
ได้มีรายงาน จากท่านนบี (ซ.ล.) ว่า : ในวันหนึ่งท่านนบี (ซ.ล. ) ได้ไปเยี่ยม ซัลมาน อัล-ฟารีซีย์ รอดิยั้ลล่อฮูอันฮู ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะเจ็บป่วย ครั้นแล้ว ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : โอ้ ซัลมานเอ๋ย! เจ้ากำลังได้รับความดีงาม สามประการ ในสภาพที่กำลังเจ็บป่วย อยู่ในขณะนี้
ประการที่ 1 เป็นข้อเตือนใจ และบทเรียนจาก องค์พระผู้อภิบาลของเจ้า แก่เจ้า
ประการที่ 2 ความผิดบาปต่าง ๆ ของเจ้าที่ผ่านมา ย่อมได้รับการปลดเปลื้อง และชำระจนหมดสิ้น
ประการที่ 3 ดุอาฮฺ ของผู้ได้รับการทดสอบ (ผู้ป่วย) ย่อมเป็นที่ถูกตอบรับ (มุสตะญาบ) จากอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.)
ดังนั้น เจ้าจงวิงวอนขอ ต่ออัลเลาะฮฺ เถิด เท่าที่เจ้ามีความสามารถ
เล่าจาก อิบนิมัสอู๊ด รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮูว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : อันที่จริงผู้ที่เจ็บป่วยนั้นความผิดบาปต่าง ๆ ของเขาที่ผ่านมาย่อมได้รับการปลดเปลื้อง
ท่านฟะฮฺกีฮฺ (นักปราชญ์) รอหิมาหุ้ลล่อฮฺ ได้กล่าวว่า : คน ๆ หนึ่ง ผลบุญจะไม่ถูกบันทึกให้แก่เขา อันเนื่องจากความเจ็บป่วยของเขา แต่ทว่า มลาอีกะฮฺจะจดบันทึกให้แก่เขา ซึ่งผลบุญที่เขาตั้งเจตนาที่ดี ที่จะปฏิบัติธรรม และคุณงามความดีทั้งหลาย แต่เขาไม่สามารถปฏิบัติได้ เนื่องจากความเจ็บป่วยของเขา และอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงรอบรู้ยิ่ง ในเจตนาอันบริสุทธิ์ของเขา กล่าวว่า : หากเขามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ แน่นอนเขาก็จะได้ปฏิบัติในคุณความดีนั้นๆ ที่สุดแล้ว อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ก็จะทรงบันทึกผลบุญของอะมั้ลต่าง ๆ ให้แก่เขา เพราะเขามีเจตนาที่ดี มีความบริสุทธิ์ใจ ต่ออัลเลาะฮฺ ต่อการที่จะปฏิบัติคุณความดีเหล่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปฏิบัติ ในสิ่งนั้นก็ตาม และความเจ็บป่วยนั้น มันจะปลดเปลื้องความผิดบาปต่าง ๆ ให้แก่ผู้ป่วย นั่นก็หมายความว่า เมื่อผู้ป่วยเขาได้สารภาพผิด กลับตัวกลับใจในความผิดบาปของเขา หากเขาไม่สารภาพผิด และเขาตั้งเจตนาไว้ ว่าเมื่อเขาหายป่วยแล้ว เขาก็จะหวลกลับไปทำความผิดบาป และความชั่วอีก ดังนั้น เขาก็จะไม่ได้รับการปลดเปลื้อง ในความผิดบาปของเขาแต่อย่างใดเลย
ได้มีรายงาน จากท่านฮาซัน อัล-บัศรีย์ รอดิยั้ลล่อฮู่ตาอาลาอันฮู จากท่านนบี (ซ.ล.) ว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : ความเจ็บป่วยนั้น เป็นเกราะป้องกันให้มุฮฺมินทุกคน รอดพ้นจากไฟนรก
ได้มีรายงาน จากท่านอบีซะอีด อัล-คุดรีย์ รอดิยั้ลล่อฮู่ตาอาลาอันฮู จากท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : องค์อภิบาลของพวกท่านทรงตรัสว่า : ด้วยความเกรียงไกรและความสูงส่งของข้า ข้าจะไม่นำบ่าวของข้า ออกจากโลกดุนยาแห่งนี้ โดยที่ข้าปราถนาที่จะให้ความรัก ความเมตตาแก่เขา จนกว่าข้าจะได้ปลดเปลื้องมลทิล และความผิดบาปแก่เขาให้บริสุทธิ์ โดยที่ข้า ให้เขาประสบกับความเจ็บป่วย หรือความแร้นแค้นขัดสน ในการดำรงชีวิต และคราใดที่วาระสุดท้ายแห่งความตาย มาพรากเขาไป แน่นอน ข้าจะนำเขามายังข้า ในสภาพที่เขามีความบริสุทธิ์ ดุจดั่งวันที่มารดาของเขา ได้คลอดเขาออกมาจากครรภ์ และข้าจะไม่นำบ่าวของข้าออกจากโลกดุนยาแห่งนี้ โดยที่ข้าปราถนาที่จะลงโทษเขา จนกว่าข้าจะได้ตอบแทนเขา ให้สมบูรณ์ในทุก ๆ ความดีงาม ที่เขาได้ปฏิบัติลงไปในภาวะที่เขา มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หรือมีริสกีปัจจัยยังชีพที่กว้างขวาง คล่องตัวในการดำรงชีวิต และคราใดที่วาระสุดท้ายแห่งความตายมาพรากเขาไป แน่นอนข้าจะนำเขามายังข้า ในสภาพที่ไม่มีคุณความดีใด ๆ แก่เขาเลย
ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : บุคคลใดไปเยี่ยมผู้ป่วย แน่นอนเขาก็ยังคงได้รับ รัศมีแห่งความเมตตา แผ่ปกคลุม และเมื่อเขาเข้าไปนั่งใกล้ผู้ป่วย เขาก็ได้รับความรัก ความเมตตา แผ่ปกคลุมเช่นกัน
เล่าจากท่านอิบนิอุมัร รอดิยั้ลล่อฮูอันฮูมา จากท่านนบี (ซ.ล.) ว่า : ท่านนบี (ซ.ล.) ได้กล่าวว่า : บุคคลใดที่ไปเยี่ยมผู้ป่วย แน่แท้ (เขาย่อมได้รับผลบุญ) เสมือนหนึ่งเขาได้ถือศีลอดหนึ่งวัน ในหนทางของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) หนึ่งวัน ณ องค์อัลเลาะฮฺ เท่ากับ 700 วัน ในโลกดุนยา และบุคคลใดติดตามไป ส่งมัยยิตที่กุโบร แน่แท้ (เขาย่อมได้รับผลบุญ) เสมือนหนึ่งเขาได้ถือศีลอดหนึ่งวัน ในหนทางของอัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) หนึ่งวัน ณ องค์อัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) เท่ากับ 700 วันในโลกดุนยา
ได้มีรายงานหนึ่งระบุว่า : มีชายคนหนึ่งมาร้องทุกข์ กับมารดาของอบีดัรดาฮฺ รอดิยั้ลล่อฮู่อันฮา ว่า โอ้มารดาอบีดัรดาฮฺ เอ๋ย! ทำไมหัวใจของข้าพเจ้ามันแข็งกระด้างเหลือเกิน ? มารดาของอบีดัรดาฮ์ ตอบว่า : ก็หัวใจนั่นไง คือบ่อเกิดอันยิ่งใหญ่แห่งโรค ดังนั้น สิ่งที่จะมาบำบัด (หัวใจมิให้แข็งกระด้าง) ก็คือ ท่านจงไปเยี่ยมผู้ป่วย จงร่วมขบวนไปส่งมัยยิต (ศพ) ที่กุโบร์ และไปเยี่ยมกุโบรอย่างสม่ำเสมอ
ครั้นแล้ว ชายผู้นั้นก็ทำตาม ที่มารดาของอบีดัรดาฮฺ ได้ชี้แนะ เสมือนหนึ่งเขาได้เห็นว่า ในตัวของเขา นั้นมีความสะดวกง่ายดาย มีจิตใจที่อ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง กระทั่งในวันหนึ่ง เขาได้กลับไปหามารดาของอบีดัรดาฮฺ อีกครั้ง พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณว่า :“ขออัลเลาะฮฺ (ซ.บ.) ทรงตอบแทน คุณความดีแก่เธอด้วยเถิด”
บทความที่น่าสนใจ