ยังมีฉายานามของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อิสลามอีกมากมาย ซึ่งขอละไว้เพราะเยอะจริงๆ
บรรดาผู้เป็นเจ้าของฉายานามเฉพาะ
อัรฺรูหุลกุดุส (الروح القدس) “วิญญาณบริสุทธิ์” คือ ท่านญิบรีล อะลัยฮิสลาม
อบุลบะชัรฺ (أبوالبشر) “บิดาแห่งมนุษยชาติ” คือ ท่านนบีอาดัม อะลัยฮิสลาม
อบุลอัมบิยาอฺ (ابوالأنبياء) “บิดาแห่งเหล่าศาสดา” คือ ท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม
เคาะฏีบุลอัมบิยาอฺ (خطيب الأنبياء) “นักกล่าวสุนทรพจน์แห่งมวลศาสดา” คือ ท่านนบีชุอัยบฺ อะลัยฮิสลาม
กะลีมุลลอฮฺ (كليم الله) “ผู้ที่อัลลอฮฺตรัสด้วย” คือ ท่านนบีมูซา อะลัยฮิสลาม
อัล-กะรีม อิบนุ อัล-กะรีม อิบนิ อัล-กะรีม อิบนิ อัล-กะรีม (الكريم بن الكريم بن الكريم بن الكريم) “ผู้มีเกียรติ บุตร ผู้มีเกียรติ บุตร ผู้มีเกียรติ บุตร ผู้มีเกียรติ” คือ ท่านนบียูสุฟ บุตร นบียะอฺกู๊บ บุตร นบีอิสหาก บุตร นบีอิบรอฮีม อะลัยฮิมุสลาม
เคาะลีฟะตุลลอฮฺ (خليفة الله) “เคาะลีฟะฮฺแห่งอัลลอฮฺ” คือ ท่านนบีดาวูด อะลัยฮิสลาม
ซุนนูน (ذوالنون) – ศอหิบุลหูต (صاحب الحوت) “ผู้เป็นเจ้าของปลาใหญ่” คือ ท่านนบียูนุส อะลัยฮิสลาม
เคาะลีลุรฺเราะหฺมาน (خليل الرحمن) “ผู้เป็นมิตรที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ” คือ ท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม และท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)
คอติมุลอัมบิยาอฺ วัลมุรฺสะลีน (خاتم الأنبياء والمرسلين) “ผู้เป็นสุดท้ายของเหล่าศาสดาและมวลศาสนทูต” คือ ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม)
กะลิมะตุ้ลลอฮฺ (كلمة الله) “พระดำรัสของอัลลอฮฺ” (คือคำดำรัสที่ว่า كُنْ (จงเป็น) แล้วก็เกิดขึ้นโดยไม่มีบิดาผู้ให้กำเนิด) คือ ท่านนบีอีซา อะลัยฮิสลาม
อัศ-ศิดดีเกาะฮฺ (الصديقة) “สตรีผู้มีความเชื่อโดยสัจจริง” คือ ท่านหญิงมัรฺยัม อะลัยฮัสลาม
อัล-อัซรออฺ (اﻠﻌﺬراء) และอัล-บะตูล (البتول) “สตรีผู้มีความบริสุทธิ์และเป็นพรหมจารีย์” คือ ท่านหญิงมัรฺยัม อะลัยฮิสลาม
อิสรออีล (إسرائيل) “บ่าวผู้ภักดีต่อพระเจ้า” เป็นฉายานามของท่านนบียะอฺกกู๊บ อะลัยฮิสลาม
อบู อัฎ-ฏีฟาน (أبو الضيفان) “บิดาแห่งเหล่าอาคันตุกะ” คือ ท่านนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม
เคาะฏีบุรเราะสูล (خطيب الرسول) “นักกล่าวสุนทรพจน์แห่งท่านศาสนทูต” คือ ท่านษาบิต อิบนุ ก็อยส์ (ร.ฎ.)
ชาอิรฺ อัร-เราะสูล (شاعر الرسول) “นักกวีของท่านศาสนทูต” คือ ท่านหัสสาน อิบนุ ษาบิต (ร.ฎ.)
มุอัซซิน อัร-เราะสูล (مؤﺬن الرسول) “ผู้ประกาศของท่านศาสนทูต” คือ ท่านบิล้าล อิบนุ เราะบาหฺ (ร.ฎ.)
หะวารียฺ อัร-เราะสูล (حواري الرسول) “สาวกผู้ใกล้ชิดของท่านศาสนทูต” คือ ท่านอัซฺซุบัยร์ อิบนุ อัล-เอาวฺวาม (ร.ฎ.)
อัล-หิบบ์ อิบนุ อัล-หิบบ์ (الحب بي الحب) “ผู้เป็นที่รัก บุตร ผู้เป็นที่รักของท่านศาสนทูต” คือ ท่านอุสามะฮฺ อิบนุ ซัยด์ (ร.ฎ.)
ญามิอุลกุรอาน (جامع القرآن) “ผู้รวบรวมอัล-กุรอาน” คือ ท่านซัยด์ อิบนุ ษาบิต (ร.ฎ.)
เคาะลีฟะฮฺ อัร-เราะสูล (خليفة الرسول) “เคาะลีฟะฮฺของท่านศาสนทูต” คือ ท่านอบูบักรฺ อัศ-ศิดดีก (ร.ฎ.)
อัศ-ศิดดีก (الصديق) “ผู้มีศรัทธาโดยความสัตย์” คือ ท่านอบูบักรฺ อิบนุ อบีกุหาฟะฮฺ (ร.ฎ.)
อัล-ฟารูก (الفاروق) “ผู้จำแนกระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ” คือ ท่านอุมัร อิบนุ อัล-คอฏฏอบ (ร.ฎ.)
ซุนนูรอยนฺ (ذوالنورين) “ผู้เป็นเจ้าของ 2 รัศมี” คือ ท่านอุษมาน อิบนุ อัฟฟาน (ร.ฎ.) ซึ่งมีภรรยาเป็นบุตรีของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) ถึง 2 ท่าน คือ ท่านหญิงรุกอยยะฮฺ (ร.ฎ.) และท่านหญิงอุมมุกุลษูม (ร.ฎ.)
อบู ตุร็อบ (أبو تراب) “พ่อฝุ่น” คือ ท่านอะลี อิบนุ อบีฏอลิบ (ร.ฎ.)
อบู อัช-ชุฮะดาอฺ (أبو الشهداء) “บิดาของเหล่าชะฮีด” คือ ท่านหัมซะฮฺ (ร.ฎ.)
เซาะลีลุลมะลาอิกะฮฺ (ظليل الملائكة) “ผู้ที่บรรดามะลักเป็นร่มเงาให้” คือ ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อัมร์ อิบนิ หะร็อม (ร.ฎ.)
เฆาะสีลุลมะลาอิกะฮฺ (غسيل الملائكة) “ผู้ที่บรรดามะลักอาบน้ำศพให้” คือ ท่านหันเซาะละฮฺ อิบนุ อบีอามิรฺ (ร.ฎ.)
ซู อัช-ชะฮาดะตัยนฺ (ذو الشهادتين) “ผู้ที่มี 2 การเป็นพยาน” (หมายถึง เป็นพยานคนเดียวเท่ากับพยาน 2 คน) คือ ท่านคุซัยมะฮฺ อิบนุ ษาบิต (ร.ฎ.)
สัยยิดา ชบาบิอะฮฺลิลญันนะฮฺ (سيدا شباب أهل الجنة) “นายทั้งสองของเหล่าคนหนุ่มในหมู่ชาวสวรรค์” คือ ท่านอัล-หะสัน (ร.ฎ.) และท่านอัล-หุสัยนฺ (ร.ฎ.) บุตรชายทั้งสองของท่านอะลี อิบนุ อบีฏอลิบ (ร.ฎ.)
ซู อัล-ญะนาหัยนฺ (ذو الجناحين) “ผู้มี 2 ปีก” คือ ท่านญะอฺฟัรฺ อิบนุ อบีฏอลิบ (ร.ฎ.) ท่านเป็นผู้ถือธงรบในสมรภูมิมุอฺตะอฺ และถูกข้าศึกตัดแขนทั้งสองช้าง และเป็นชะฮีด ในวันกิยามะฮฺท่านจะได้รับปีก 2 ข้างทดแทนตามที่ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม) กล่าวไว้
สากียฺ อัล-หะเราะมัยนฺ (ساقي الحرمين) “ผู้บริการน้ำในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง” คือ ท่านอัล-อับบาส อิบนุ อับดิลมุฏฏอลิบ (ร.ฎ.)
สัยฟุลลอฮฺ อัล-มัสลู๊ล (سيف الله المسلول) “ดาบของอัลลอฮฺที่ถูกชักออกจากฝัก” คือ ท่านคอลิด อิบนุ อัล-วะลีด (ร.ฎ.)
อะมีน อัล-อุมมะฮฺ (أمين الأمة) “ผู้มีความซื่อสัตย์ที่ไว้วางใจได้ของประชาคม” คือ ท่านอบูอุบัยดะฮฺ อามิร์ อิบนุ อัล-ญัรรอหฺ (ร.ฎ.)
เฏาะบีบ อัศ-เศาะหาบะฮฺ (طبيب الصحابة) “แพทย์แห่งเหล่าเศาะหาบะฮฺ” คือ ท่านสะอฺด์ อิบนุ อบีวักก็อศ (ร.ฎ.)
หะกีม อัศ-เศาะหาบะฮฺ (حكيم الصحابة) “ปราชญ์แห่งเหล่าเศาะหาบะฮฺ” คือ ท่านอบูอัด-ดัรดาอฺ (ร.ฎ.)
รอวียะฮฺ อัล-อิสลาม (راوية الإسلام) “นักรายงานอัล-หะดีษแห่งอิสลาม” คือ ท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ (ร.ฎ.)
ศ็อกร์ เยาวฺมิอุหุด (صقر يوم أحد) “เหยี่ยวแห่งวันสมรภูมิอุหุด” คือ ท่านฏอลหะฮฺ อิบนุ อุบัยดิลลาฮฺ (ร.ฎ.)
ศอหิบุลฮิจรอตฺ อัษ-ษะลาต (صاحب الهجرات الثلاث) “ผู้เป็นเจ้าของการอพยพทั้ง 3 ครั้ง” คือ ท่านอบูมูซา อัล-อัชอารียฺ (ร.ฎ.)
หับรุลอุมมะฮฺ (حبر الأمة) “ปุโรหิตแห่งประชาคม” คือ ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อับบาส (ร.ฎ.)
ตุรฺญุมาน อัล-กุรอาน (ترجمان القرآن) “ผู้ถ่ายทอดความหมายของอัล-กุรอาน” คือ ท่านอับดุลลอฮฺ อิบนุ อับบาส (ร.ฎ.)
หะมียุดดับริ (حمي الدبر) “ผู้ที่ฝูงผึ้งให้การพิทักษ์” คือ ท่านอาศิม อิบนุ ษาบิต (ร.ฎ.)
สะฟีรุลอิสลาม (سفير الإسلام) “ทูตแห่งอิสลาม” คือ ท่านมุศอับ อิบนุ อุมัยรฺ (ร.ฎ.)
มุศอฟิหุลมะลาอิกะฮฺ (مصافح الملائكة) “ผู้ที่สัมผัสมือกับเหล่ามะลัก” คือ ท่านอิมรอน อิบนุ หุศอยนฺ (ร.ฎ.)
อัฏ-ฏอฮิเราะฮฺ (الطاهرة) “สตรีผู้บริสุทธิ์” คือ ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ บินตุ คุวัยลิด (ร.ฎ.)
อัซ-ซะฮฺรออฺ (ألزهراء) “สตรีผู้มีรัศมีเจิดจำรัส” หรือ สตรีผู้มีความบริสุทธิ์ หรือ สตรีผู้มีดวงพักตร์จำรัสแสง คือ ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ (ร.ฎ.)
ซาตุนนิฏอกอยนฺ (ذات النطاقين) “สตรีผู้เป็นเจ้าของผ้ารัดเอว 2 ชิ้น” คือ ท่านหญิงอัสมาอฺ บินตุ อบีบักรฺ (ร.ฎ.)
อบุลมะสากีน (أبو المساكين) “บิดาของเหล่าผู้ยากไร้” คือ ท่านญะอฺฟัรฺ อิบนุ อบีฏอลิบ (ร.ฎ.)
อุมมุลมะสากีน (أم المساكين) “มารดาของเหล่าผู้ยากไร้” คือ ท่านหญิงซัยนับ บินตุ คุซัยมะฮฺ (ร.ฎ.)
มุฮาญิเราะฮฺ อัล-ฮิจเราะตัยนฺ ว่า มุศอลลิยะฮฺ อัล-กิบละตัยนฺ (مهاجرة الهجرتين ومصلية القبلتين) “สตรีผู้อพยพ 2 การอพยพและสตรีผู้ละหมาด 2 กิบละฮฺ” คือ ท่านหญิงอัสมาอฺ บินตุ อุมัยส์ (ร.ฎ.)
สาบิก อัรฺรูม (سابق الروم) “ผู้ศรัทธาก่อนสุดของชาวรูม (โรมัน)” คือ ท่านศุฮัยบฺ อิบนุ สินาน (ร.ฎ.)
สาบิก อัล-ฟุรฺส์ (سابق الفرس) “ผู้ศรัทธาก่อนสุดของชาวเปอร์เซีย” คือ ท่านสัลมาน อัล-ฟาริสียฺ (ร.ฎ.)
สาบิก อัล-หะบะชะฮฺ (سابق الحبشة) “ผู้ศรัทธาก่อนสุดของชาวเอธิโอเปีย” คือ บิล้าล อิบนุ เราะบาหฺ (ร.ฎ.)
อัล-อิมาม อัล-อะอฺซ็อม (الإمام الأعظم) “อิมามผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด” คือ อิมามอบูหะนีฟะฮฺ (ร.ฮ.)
อิมาม ดาริลฮิจญ์เราะฮฺ (إمام دارالهجرة) “อิมามแห่งสถานของการอพยพ (นครมะดีนะฮฺ)” คือ อิมามมาลิก อิบนุ อะนัส (ร.ฮ.)
อิมามอะฮฺลิสสุนนะฮฺ (إمام أهل السنة) “อิมามแห่งชาวสุนนะฮฺ” คือ อิมามอะหฺมัด อิบนุ หัมบัล (ร.ฮ.)
อาลิม กุร็อยช์ (عالم قريش) “ปราชญ์แห่งตระกูลกุร็อยชฺ” คือ อิมามอัช-ชาฟิอียฺ (ร.ฮ.)
อิมามอัล-หะเราะมัยนฺ (إمام الحرمين) “อิมามแห่งดินแดนต้องห้ามทั้งสอง” คือ อิมามอบุลมะอาลียฺ อับดุลมาลิก อิบนุ อับดิลลาฮฺ อัล-ญุวัยนียฺ (ร.ฮ.)
หุจญะตุลอิสลาม (حجة الإسلام) “ผู้เป็นหลักฐานแห่งอิสลาม” คือ อิมามอัล-เฆาะซาลียฺ (ร.ฮ.)
ยังมีฉายานามของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อิสลามอีกมากมาย ซึ่งขอละไว้เพราะเยอะจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูล: อาลี เสือสมิง