ฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺ ผู้ช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺ


3,502 ผู้ชม

หลังจากทารกมุฮัมมัดถือกำเนิดมาในวันที่ 12 เดือนรอบีอุ้ลเอาว้าล ปีเดียวกับการเกิดสงครามช้าง เป็นปีที่ 40 แห่งรัชสมัยกษัตริย์กิสรอ หากนับตามปฏิทินสุริยคติจะตรงกับวันที่ 20 หรือ 22 เดือนเมษายน ค.ศ. 571 


ฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺ ผู้ช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺ


ฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺ ผู้ช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺ
 

หลังจากทารกมุฮัมมัดถือกำเนิดมาในวันที่ 12 เดือนรอบีอุ้ลเอาว้าล ปีเดียวกับการเกิดสงครามช้าง เป็นปีที่ 40 แห่งรัชสมัยกษัตริย์กิสรอ หากนับตามปฏิทินสุริยคติจะตรงกับวันที่ 20 หรือ 22 เดือนเมษายน ค.ศ. 571 

ตามประเพณีชนชั้นสูงแห่งเผ่ากุเรชที่มักจะส่งลูกหลานของตนไปอยู่ในการเลี้ยงดูของชนเผ่าเบดูอินตั้งแต่ยังเป็นทารก เพื่อให้เด็กน้อยเหล่านี้เติบโตบนผืนทะเลทรายที่แวดล้อมไปด้วยอากาศที่บริสุทธิ์สะอาด รวมทั้งยังเป็นการบ่มเพาะว่าที่ผู้นำแห่งชนเผ่ากุเรชเหล่านี้ให้มีร่างกายที่แข็งแรง สำเนียงอาหรับที่บริสุทธิ์ และจรรยามารยาทแบบเบดูอิน ที่ปราศจากการปนเปื้อนทางวัฒนธรรมเฉกเช่นสังคมในเมืองใหญ่ 
หญิงสาวชาวเบดูอินจะเดินทางมายังมักกะฮฺเพื่อรับจ้างเป็นแม่นมและรับเด็กน้อยชาวกุเรซเหล่านี้ไปดูแล แต่สำหรับทารกน้อยมุฮัมมัดแล้วเขากลับถูกเมินเฉยจากหญิงสาวชาวเบดูอินเหล่านี้ ไม่มีใครต้องการที่จะรับเป็นแม่นมให้กับมุฮัมมัดเลย
ปีที่มุฮัมมัดกำเนิดนั้นเป็นปีที่ความแห้งแล้งและอดอยากแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินอารเบีย ฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺพูดถึงความลำบากของเธอว่า เธอมีสัตว์เลี้ยงเป็นล่อและอูฐ ด้วยความแห้งแล้งแสนเข็ญทำให้ฮาลีมะฮฺไม่อาจจัดหาอาหารแก่สัตว์เลี้ยงของเธอได้ จนพวกมันไม่สามารถให้น้ำนมแม้สักหยดแก่ครอบครัวของเธอ ในยามค่ำคืนเธอกับสามีก็ไม่เคยได้นอนหลับแม้เพียงสักงีบ เนื่องจากลูกน้อยของเธอส่งเสียงร้องไห้ด้วยความหิวโหย เพราะว่าไม่มีน้ำนมเพียงพอในเต้านมของเธอ และอย่าหวังที่จะได้น้ำนมจากอูฐที่เธอไม่มีอาหารพอจะเลี้ยงดูมันได้ ถึงแม้ชาวเบดูอินจะวิงวอนขอฝนเพื่อให้ตกลงมาบรรเทาความแห้งแล้ง ฝนก็ตกลงมาเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
ในที่สุดฮาลีมะฮฺก็เดินทางมายังมักกะฮฺพร้อมกับหญิงสาวชาวเบดูอินคนอื่น ๆ จากเผ่าของเธอ โดยสามีและลูกน้อยวัยยังไม่หย่านมของเธอได้ติดตามมาด้วย ด้วยความยากลำบากจากความแห้งแล้งที่ชาวเบดูอินได้รับ หญิงสาวชาวเบดูอินจึงต่างมุ่งหวังรางวัลก้อนงามที่เธอจะได้รับจากพ่อของเด็กน้อยจากเผ่ากุเรชที่เธอรับไปเลี้ยงดูเหล่านี้
และรางวัลเหล่านั้นจะมาจุนเจือบรรเทาความอดอยากที่พวกเธอและครอบครัวกำลังประสบ แต่รางวัลก่อนงามนี้เหล่านี้พวกเธอจะได้รับอย่างไรจากใครกันเล่า ในเมื่อมุฮัมมัดเป็นเด็กน้อยที่กำพร้าพ่อ !
หญิงเบดูอินคนแล้วคนเล่าที่ปฏิเสธจะรับเป็นแม่นมให้กับมุฮัมมัด จนกระทั่งหญิงเบดูอินทุกคนที่เดินทางมา สามารถเลือกหาเด็กน้อยชาวกุเรชที่เธอจะรับไปดูแลกันได้ครบทุกคน 
ยกเว้นฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺ ที่ยังไม่สามารถหาทารกมาอยู่ในการดูแลได้ !
ขณะที่หญิงชาวเบดูอินกำลังตระเตรียมที่จะเดินทางออกจากเมืองมักกะฮฺเพื่อไปยังเผ่าของตนเอง ฮาลีมะฮฺจึงหันไปปรึกษากับสามีของเธอ
“ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ฉันไม่ชอบเลยที่จะเดินทางกลับไปพร้อมคนอื่น โดยที่ฉันไม่มีทารกกลับไปด้วย ฉันจะรับเด็กกำพร้าคนนั้นมาดูแล”
สามีของเธอตอบว่า 
“ก็ไม่เสียหายอะไรที่เธอจะทำเช่นนั้น และบางทีอัลลอฮฺอาจจะให้สิ่งที่ดีกับเราเพราะเด็กน้อยคนนั้นก็ได้”
ถึงแม้ฮาลีมะฮฺ บินติอบีซุอัยบฺ จะไม่ได้มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺโดยตรง แต่เป็นเพียงเพราะเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเด็กชายกำพร้าผู้นี้ แต่การช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺแม้โดยไม่เจตนา อัลลอฮฺก็ช่วยเหลือการงานของเธออย่างมากมายจนเกินคณานับตั้งแต่วินาทีแรก
เมื่อฮาลีมะฮฺอุ้มเด็กน้อยขึ้นและตระเตรียมจะเดินทางกลับ เธอก็ขยับให้มุฮัมมัดดูดนมของเธอ เพื่อไม่ให้เด็กน้อยส่งเสียงร้อง และสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเต้านมของเธอที่ปกติน้ำนมจะแห้งเหือด กลับมีน้ำนมจนมุฮัมมัดดื่มจนเต็มอิ่ม และลูกชายของฮาลีมะฮฺเองก็ได้ดื่มนมจนอิ่มหนำ จากที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีคืนไหนเลยที่จะหลับลงได้ แต่คืนนี้ลูกชายของฮาลีมะฮฺกลับนอนหลับสบายเพราะท้องอิ่ม 
และเมื่อสามีของฮาลีมะฮฺเดินไปยังอูฐตัวเมียที่พามาด้วย เขาก็พบว่าอูฐตัวนั้นที่ไม่เคยมีน้ำนม ตอนนี้สองเต้านมของมันกลับเปี่ยมด้วยน้ำนม เขาจึงรีบรีดน้ำนม แล้วเขากับฮาลีมะฮฺก็ดื่มนมจนอิ่มอย่างที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้มานาน 
ล่อตัวที่ฮาลีมะฮฺขี่มาก็เช่นกัน มันเป็นล่อตัวผอมและมีขาที่เดินกระเผลกตัวหนึ่ง แต่ขณะเดินทางกลับมายังเผ่าของเธอ ล่อตัวนั้นกลับเดินได้เป็นปกติ และรวดเร็วเช่นเดียวกับสัตว์ตัวอื่นในขบวนเดินทาง และเมื่อมาถึงถิ่นพำนักยังเผ่าของเธอ ฮาลีมะฮฺก็พบว่า พื้นดินที่เคยแห้งแล้งปราศจากพืชพรรณใด ๆ ตอนนี้กลับเริ่มมีหญ้าแทงยอดอ่อนเขียวขจี 
และตลอด 4 – 5 ปีที่เด็กน้อยมุฮัมมัดพักอาศัยอยู่กับฮาลีมะฮฺ ชีวิตของเธอและครอบครัวก็แวดล้อมไปด้วยความดีงามและความเพิ่มพูนอีกมากมายประการ
ความช่วยเหลือของอัลลอฮฺมีมายังฮาลีมะฮฺในฐานะผู้ที่ช่วยเหลือการงานของพระองค์อย่างที่เธอไม่อาจคำนวณนับได้ 
ผู้ที่อัลลอฮฺรัก พระองค์ก็จะทรงทดสอบเขา ผู้ที่ช่วยเหลือการงานของอัลลอฮฺ พระองค์ก็จะทรงช่วยเหลือเขา เพียงแต่อย่าลืมว่า เราต้องมีความอดทน ความมุ่งมั่น การวิงวอนขอและเปี่ยมไปด้วยความมุ่งหวังในความเมตตาของพระองค์ แล้วความช่วยเหลือของพระองค์ก็จะมา


อัพเดทล่าสุด