มัสยิดในจีนแห่งนี้ สร้างโดยเศรษฐีที่ใจบุญมาก เค้าคือใคร?


6,051 ผู้ชม

ภาพนี้คือวัดจีนหรือ ? ไม่ไช่เลย หากแต่เป็นมูซอลลาหรือบาลัย คือ สถานที่ละหมาดของมุสลิม ที่ตั้งในหมู่บ้าน


มัสยิดในจีนแห่งนี้ สร้างโดยเศรษฐีที่ใจบุญมาก เค้าคือใคร?

มัสยิดในจีนแห่งนี้ สร้างโดยเศรษฐีที่ใจบุญมาก เค้าคือใคร?

ภาพนี้คือวัดจีนหรือ ?

ไม่ไช่เลย หากแต่เป็นมูซอลลาหรือบาลัย คือ สถานที่ละหมาดของมุสลิม ที่ตั้งในหมู่บ้าน

คนที่สร้างสถานที่ละหมาดแห่งนี้ คือ อัน เทียน ก๊ก ชื่อนี้เป็นคนเชื้อจีนแน่นอน แต่เขาเข้ารับอิสลาม โดยมีชื่ออิสลามว่า ฮัจยีมูฮัมหมัด มาลีกี เป็นเศรษฐีที่ใจบุญมาก

มาลีกีกับภรรยาที่ชื่อ ตี ไม ฟุง หรือในชื่อแบบมุสลิมคือ สีตี มัรยัม ได้ทำการก่อสร้างและมอบให้ชาวบ้านได้ใช้ เมื่อปี 2010 แล้ว

เหตุที่ใช้ศิลปกรรมในรูปทรงจีน ต้องการให้สาธารณะได้รับรู้ว่า คนสร้างมีเชื้อสายจีน แต่คือมุสลิม ว่ากันตามจริง มีมัสยิดหลายแห่ง ที่ได้สร้างในรูปทรงต่างๆ ทั้งยุโรป แอฟริกา เป็นต้น การมีรูปทรงแบบจีนบ้าง ไม่ไช่เรื่องแปลกอะไรเลย

สถานที่ละหมาดนี้ ตั้งชื่อว่า ริดวาน มีชัั้นเดียว แต่ก่อหลังคา เป็นชั้น ๆ มี มีโดมเล็กๆ ตั้งเหนือมิมบัร อันบ่งบอกถึงทิศทางกิบลัต ไปในตัว

เหนือโดมยังมีอักษรอาหรับเขียนว่า "อัลเลาะห์"

สถานที่ละหมาดนี้ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านจูรังมาลัง เมืองลุมบัก นูซาตืงการาบารัต (Nusa Tenggara Barat)

แต่สถานที่ละหมาดที่สร้างโดยเศรษฐีชาวจีนใจบุญคนนี้ ไม่ได้มีแห่งเดียว อีกที่หนึ่งก็สร้างด้วยศิลปกรรมแบบจีนเช่นกัน 

อีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ท้ายสุดของบ้านสังเกียง อำเภอลุมบักบารัต ตั้งชื่อว่า มูซอลลาอาบูบากัร อัศศีดดิก



เป้าหมายมาลีกี ไม่ไช่แค่ให้ชาวบ้านได้มาละหมาดอย่างเดียว แต่หวังพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย ตอนนี้เขากำลังขออนุญาตสร้างสวนน้ำ และเมื่อสร้างเสร็จก็จะมอบให้ชาวบ้านได้ดูแล และจัดการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นด้วยต่อไป

มาลีกีและครอบครัวเข้ารับอิสลามได้อย่างไร

มาลีกีบอกว่า ก่อนหน้านั้น เขาฝันไปว่า ที่บ้านเขามี นักการศาสนาและอูลามาอ (ผู้มีความรู้ทางด้านศาสนาอิสลาม) นับร้อยคนได้มาหา

"แต่แล้วหลังจากเข้ารับอิสลามได้ไม่นาน ก็มีอูลามาอมาหาถึงบ้านจริง ๆ และเราก็ได้ร่วมกันศึกษาวิชาการศาสนาเรื่อยมา"

มาลีกีบอกว่า สิ่งที่เรามุสลิมควรตระหนักนั้นคือ การญีฮาดทรัพย์สิน เพราะโดยทั่วไปสังคมจะเข้าใจว่าญีฮาด คือ การจับอาวุธ ออกสู่สนามรบ ซึ่งจริงๆ ถือเป็นมุมมองที่แคบ เพราะญีฮาดที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การยอมสละซึ่งทรัพย์สิน เพื่อใช้หรือสร้างในสิ่งที่ก่อประโยชน์ทางสาธารณะ สร้างสรรค์กิจกรรมทางสังคม การช่วยเหลือเด็กกำพร้า และผู้ยากไร้ เป็นต้น

จากความใจบุญของมาลีกี เขาได้บริจาคทรัพย์สินจำนวนมาก เพื่อสาธารณะ โดยจัดตั้งเป็นมูลนิธิชื่อ อาตออิลลาห์ มุ่งช่วยเหลือเด็กๆ ให้ได้รับการศึกษา มึการสร้างสนามเด็กเล่นใกล้ๆ มัสยิด เพื่อให้เด็กๆ ได้ผูกพันกับศาสนาไปด้วย

ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเล่าว่า นายอัน เทียน ก๊ก หรือ ฮัจยีมูฮัมหมัด มาลีกี เป็นคนที่เคร่งครัดในอีบาดะห์มาก มีนิสัยโอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอยู่เสมอ

"ยิ่งเขาได้อามัล ยิ่งเขาได้ทำการบริจาคมากขึ้น และดูเหมือนทรัพย์สินเขางอกเงยมีแต่เพิ่มอย่างน่าอัศจรรย์" ชาวบ้านกล่าว

ชาวบ้านรายเดิมได้เล่าอีกว่า เศรษฐีคนนี้ เป็นคนเก็บตัว ยิ่งกับหน่วยงานราชการเขาไม่ค่อยเสนอหน้านัก

"เขาชอบเป็นคนอยู่ข้างหลัง แม้แต่การสวนน้ำซึ่งเขาออกเงินให้เอง เขาก็ยังผลักดันให้ชาวบ้านได้รวมตัว หาหน่วยงานเพื่อขออนุญาตก่อสร้าง"

ที่มา: สื่อเสรีสำนึกและสร้างสรรค์
islamhouse.muslimthaipost.com


อัพเดทล่าสุด