
เคยได้ยิน “มัสยิดญิน” ไหม? รู้ไหมว่าญินเคยรวมตัวที่นี่จริง!
มัสยิดญิน ณ มักกะฮ์
มัสยิดญินเป็นมัสยิดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 ฮิจเราะห์ และกล่าวกันว่า มัสยิดนี้สร้างขึ้น ณ สถานที่เดียวกับที่ท่านศาสดา (ซ.ล.) เคยอ่านอัลกุรอานให้ญินฟัง ซึ่งต่อมามีการประทานซูเราะห์ญิน (ซูเราะห์ที่ 72) ลงมา ณ สถานที่นั้น จึงได้รับชื่อว่า “มัสยิดญิน”
มัสยิดนี้ตั้งอยู่ใน ย่านอัลฆัซซะฮ์ (الغزة) ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านเก่าแก่ใกล้กับมัสยิดหะรอม และชาวมักกะฮ์มักเรียกมัสยิดนี้ว่า "ญามิอุลหะร็อส - جامع الحرس"
มัสยิดญิน
เรื่องราวของญินที่ฟังอัลกุรอาน
เมื่อท่านนบีมูฮัมหมัด (ซ.ล.) เดินทางกลับจากเมืองฏออิฟไปยังมักกะฮ์ในยามค่ำคืน คืนหนึ่งท่านแวะพักใน หุบเขานัคละฮ์ (وادي نخلة) ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองทั้งสอง
ในค่ำคืนนั้น ท่านนบี (ซ.ล.) ไม่มีผู้ติดตาม นอกจากพระเจ้าอัลลอฮฺ ท่านจึงอาบน้ำละหมาดและลุกขึ้นละหมาดกลางความมืดในหุบเขา พร้อมกับอ่านอัลกุรอานเสียงดังเพื่อสร้างความอบอุ่นใจในความเปล่าเปลี่ยวของการเดินทาง
ขณะเดียวกัน ญินกลุ่มหนึ่งจากเยเมนผ่านมาและได้ยินเสียงอัลกุรอาน พวกเขาจึงเข้าไปในหุบเขานัคละฮ์และยืนฟังการอ่านอัลกุรอานของท่านนบี (ซ.ล.) ด้วยความเคารพอย่างสูง
โดยหัวหน้าของพวกเขากล่าวว่า:
"จงเงียบเถิด (أنصتوا)"
เพื่อให้ทุกคนได้ตั้งใจฟังอย่างสงบ
พวกเขาต่างเบียดเสียดกันเพื่อเข้าใกล้ท่านนบี (ซ.ล.) ให้ได้ยินเสียงการอ่านอัลกุรอานชัดเจนยิ่งขึ้น จนเมื่อท่านนบี (ซ.ล.) อ่านและละหมาดเสร็จ พวกเขากระจายตัวกันไป และกลับไปยังหมู่บ้านของตน พร้อมกับเชิญชวนประชาชนให้ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว
มัสยิดญิน
อัลกุรอานได้บันทึกเหตุการณ์นี้ ไว้ว่า:
{ และจงรำลึกเมื่อเราได้หันพวกญินกลุ่มหนึ่งมาหาเจ้าเพื่อฟังอัลกุรอาน และเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขากล่าวว่า "จงเงียบเถิด" และเมื่อการอ่านสิ้นสุดลง พวกเขากลับไปหาหมู่ชนของพวกเขาในฐานะผู้เตือน }
{ พวกเขากล่าวว่า: โอ้พวกพ้องของเรา แท้จริงเราได้ยินคัมภีร์เล่มหนึ่งถูกประทานลงมาหลังจากมูซา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันความจริงที่มีมาก่อนหน้านี้ มันชี้นำสู่ความจริงและทางตรง }
{ โอ้พวกพ้องของเรา! จงตอบรับต่อผู้เรียกร้องของอัลลอฮฺ และจงศรัทธาในพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงอภัยโทษให้จากบาปของพวกท่าน และจะทรงปกป้องพวกท่านจากการลงโทษอันเจ็บปวด }
{ และผู้ใดที่ไม่ตอบรับต่อผู้เรียกร้องของอัลลอฮฺ เขาจะไม่สามารถหนีรอดในแผ่นดินได้ และเขาจะไม่มีผู้คุ้มครองใด ๆ นอกจากพระองค์ พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในความหลงผิดอย่างชัดแจ้ง }
(ซูเราะห์ อัลอะหฺกอฟ 29-32)
โปรดอย่าลืมซอลาวาตแด่ท่านศาสดา (ซ.ล.) ผู้ที่ถูกส่งมาเป็นความเมตตาแก่สากลโลก และอย่าลืม กล่าวซิกิรฺและรำลึกถึงอัลลอฮฺ อย่างมากมาย (ซอลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะอาลิฮิ วะซัลลัม)
ที่มา: อะห์หมัดอาลาวีย์ วงษ์มะเซาะ
https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/23934
บทความที่น่าสนใจ
- ประวัติมัสยิดอาโห ปัตตานี อายุเกือบ 400 ปี
- ประวัติ มัสยิดหนิวเจีย เก่าแก่ที่สุดในปักกิ่ง
- มัสยิดต้นสน ประวัติ สถาปัตยกรรมอิสลามในไทย
- ตุรเคียบูรณะมัสยิดเก่าแก่ ในบอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา
- ประวัติของมัสยิดบางหลวง มัสยิดทรงไทยหนึ่งเดียวในโลก
- มัสยิดยูนนาน ปรับโฉมเป็นสไตล์จีน
- ประเทศไหนในโลกที่ไม่มีมัสยิดเลย
- ไทยมีมัสยิดกี่แห่ง มัสยิดในศาสนาอิสลามมีมากที่สุดในจังหวัดใด
- มัสยิดตุรกีหลายร้อยปี สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว