ทำไมอัลลอฮ์สั่งทำลายเมืองซะดูม ในสมัยนบีลูฏ : islamhouses


63,051 ผู้ชม

ญิบรีล ใช้ปีกของเขาสอดลงไปใต้ผืนดินของเมืองซะดูม และยกมันขึ้นจนผู้ที่อยู่ บนชั้นฟ้าได้ยินเสียงไก่ขัน และเสียงสุนัขเห่าหอน เขาได้พลิกผืนดินโดยกลับข้างล่างขึ้น ข้างบนและข้างบนลงข้างล่าง


ทำไมอัลลอฮ์สั่งทำลายเมืองซะดูม ในสมัยนบีลูฏ

ใครมีเพื่อนๆ ญาติๆเป็นตุ๊ด ทอม ดี้ เกย์ส่งเรื่องนี้ให้เค้าอ่านด้วย

ญิบรีล ใช้ปีกของเขาสอดลงไปใต้ผืนดินของเมืองซะดูม และยกมันขึ้นจนผู้ที่อยู่ บนชั้นฟ้าได้ยินเสียงไก่ขัน และเสียงสุนัขเห่าหอน เขาได้พลิกผืนดินโดยกลับข้างล่างขึ้น ข้างบนและข้างบนลงข้างล่าง และฝนได้กระหน่ำชาวเมืองสะดูมด้วยก้อนหินไปที่ ร้อนแรง มันทำให้ชาวเมืองพินาศสิ้น ไม่มีใครรอดจากการลงโทษครั้งนี้เลยแม้แต่คน

อัลเลาะห์ได้แต่งตั้งนบีลูฏมา  เพื่อต่อสู้กับความเบี่ยงเบน พฤติกรรมรักร่วมเพศ (ชายสมสู่กับชาย) และพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ, และเพื่อให้เขาประกาศเชิญชวนสู่การดำเนินชีวิตที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ดังนั้นคำประกาศเชิญชวนของท่านนบีลูตจึงเน้นไปที่ความสะอาด และความบริสุทธิ์ล้วนๆ

นบีลูฏ เป็นบุตรของ ฮารอน เขาจึงมีศักดิ์เป็นลูกของน้องชายนบีอิบรอฮีม (อ.ล) นบีลูฏ เป็นผู้เดียวที่ศรัทธาว่าอิบรอฮีมเป็นศาสนทูต ภายหลังจากอิบรอฮีมรอดพ้น ออกมาจากกองไฟ อย่างปลอดภัย โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลยเขาศรัทธาต่ออิบรอฮีม (อ.ล) และได้รับการแนะนำสู่แนวทางที่ถูกต้องจากอิบรอฮีม และเขาได้อพยพไปยัง ชาม พร้อมกับอิบรอฮีม และได้อพยพติดตามอิบรอฮีมไปยังอัยิปต์อีกด้วย และลูฏ ได้เดินทางกลับไปยังชามอีกเป็นครั้งที่สองพร้อมกับอิบรอฮีม  กษัตริย์ของอียิปต์โปรดปรานลูฏมาก และได้มอบทรัพย์สินและปศุสัตว์ให้แก่เขาเป็น จำนวนมาก และอัลเลาะห์ก็ปรานีเขาให้ได้รับสิ่งที่ดีต่างๆ มากมาย

ลูฏได้แยกทางกับอิบรอฮีม เพื่อทำหน้าที่ประกาศและเผยแพร่ศาสนาต่อไปใน เขตซะดูม ภายหลังจากอัลเลาะห์ได้แต่งตั้งเขาให้เป็นนบีและศาสนทูตแล้ว อัลเลาะห์ได้แต่งตั้งลูฏให้เป็นศาสนทูต ทำหน้าที่เรียกร้องเชิญชวนผู้คนสู่การให้ เอกภาพแก่อัลเลาะห์ และใช้ประชาชนของเขาให้เคารพสักการะอัลเลาะห์แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่นำสิ่งใดมาตั้งภาคีกับพระองค์ อัลเลาะห์ได้แต่งตั้งเขาให้ไปทำหน้าที่กับ ชาวเมืองซะดูม ซึ่งปัจจุบันเมืองนี้อยู่ในประเทศจอร์แดน

ทำไมอัลลอฮ์สั่งทำลายเมืองซะดูม ในสมัยนบีลูฏ

ซะดูม (Sodom) เป็นเมืองเก่าแก่ในอดีตประมาณ 4 หรือ 5000 ปีก่อน เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของทะเลตาย (Dead Sea) ปัจจุบันมีน้อยคนนักที่รู้จักเมืองนี้และไม่มีใครได้เห็นมันอีกแล้ว ทั้งนี้เพราะโซดอมเคยเต็มไปด้วยความชั่วและบาปหนาจนเกินกว่าที่แผ่นดินจะ แบกรับได้ ดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจึงฝังเมืองนี้ไว้ใต้ธรณี

ชาวเมืองนี้เป็นพวกที่ไม่ศรัทธาต่ออัลเลาะห์ ทำบาป ทำสิ่งที่น่าบัดสี ปล้นสดมภ์คนเดินทางที่ผ่านไปมา กระทำ การอนาจารต่อพวกเขาเหล่านั้น และกระสิ่งที่ชั่วร้ายเลวทรามอย่างเปิดเผย โดยไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด หรือผู้ใดทั้งสิ้น พวกเขามีความคิดที่ผิดๆ ในการกระทำการชั่วร้าย เหล่านี้ มีหลักศรัทธาที่เหลวไหล มีพฤติกรรมที่เลวร้าย เพราะพวกเขาไม่มีความรู้สึก กระดากอายแต่อย่างใดที่ได้กระทำความชั่ว และไม่รู้สึกขวยเขินที่จะกระทำอนาจารต่อ หน้าผู้คนและท่ามกลางสายตาของพวกเขา

อัลเลาะห์ประสงค์จะทำลายชาวเมืองสะดูมทุกคน เพื่อไม่ให้โรคร้ายได้แพร่ ระบาดจากพวกเขาไปสู่ผู้อื่นต่อไปอีก เป็นการปกป้องมนุษย์โลกให้พ้นภัยพิบัติ และเป็นการยืนยันความเมตตาของอัลเลาะห์ที่มีต่อมวลมนุษย์

มีเรื่องที่เล่าสืบกันมาว่า บริเวณที่เป็นทะเลลูฏ ซึ่งรู้จักกันดีในปัจจุบันว่าทะเลตาย dead sea (หรือเดดซี) นั้นไม่เคยมีทะเลใดมาก่อน ที่อัลเลาะห์จะลงโทษชาวเมืองซะดูม แต่ทะเล ดังกล่าวเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวที่ทำให้ผืนดินพลิกกลับข้างบนลงล่าง จนทำให้บริเวณ นั้นต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณสี่ร้อยเมตร และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการค้นพบซากเมืองซะดูมที่ริมฝั่งทะเลตายแห่งนั้น

คัมภีร์กุรอานได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในตอนนั้นไว้ว่า ในที่สุด การระเบิดอย่างรุนแรงก็เกิดขึ้นแก่พวกเขาในยามเช้า เราได้พลิกเมืองนั้นคว่ำลงและเราได้กระหน่ำพวกเขาด้วยหินเผาที่ตกมาดุจห่า ฝน

จากคำบอกเล่า ในคัมภีร์ไบเบิลประกอบกับการวิจัยทางธรณีวิทยาและโบราณคดี เมืองซะดูมตั้งอยู่ในหุบเขาที่เรียกว่า "ซิดดิม" ซึ่งเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ นักวิชาการปัจจุบันมีความเห็นว่าหุบเขาดังกล่าวนี้ปัจจุบันจมอยู่ใต้ทะเลตาย ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากทางด้านโบราณคดี กล่าวคือ ในสมัยโบราณ ทะเลตายไม่ได้มีเนื้อที่กว้างลงมาทางใต้เหมือนปัจจุบัน แต่เพราะบริเวณที่ตั้งเมืองซะดูมได้จมธรณีไป ทำให้พื้นที่น้ำในทะเลตายขยายลงมาครอบคลุมบริเวณนี้ไว้เมื่อสองพันกว่าปี ก่อนคริสตกาลและทะเลบริเวณนี้ก็เป็นส่วนที่ตื้นที่สุดของทะเลตายามบันทึกโบราณ บริเวณนี้อุดมไปด้วยน้ำมัน แอสฟัลต์และก๊าส นักสำรวจทางธรณีวิทยากล่าวว่า

ด้วยสาเหตุแห่งการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงทำให้แร่ปิโตรเลียม และก๊าซพุ่งทะลักออกมาและลุกเป็นไฟส่งผลให้พื้นที่ทั้งหมดระเบิดได้เหมือน กับลูกระเบิด คัมภีร์ไบเบิลเองก็กล่าวว่าเมื่ออับราฮัมได้ทราบข่าวและออกจากเมืองเฮบโรนไป ดูบริเวณดังกล่าว ท่านก็ได้กล่าวว่า แผ่นดินลุกเป็นควันพุ่งเหมือนควันเตาไฟใหญ่

ประวัติศาสตร์ของเมืองซะดูมที่ถูกพลิกฝังจมอยู่ใต้ธรณีเป็นหลักฐานยืนยันว่า เมืองใดก็ตามที่ศีลธรรมของคนในเมืองเสื่อมทราม เมืองนั้นไม่เคยรอดพ้นจากการถูกลงโทษ ปัจจุบัน ความเสื่อมทรามทางศีลธรรมเช่นเดียวกับเมืองซะดูมได้เวียนกลับมาเกิดอีกครั้ง หนึ่งและกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลายประเทศที่มีความเจริญทางด้านวัตถุได้เปิดประตูต้อนรับความเสื่อมทรามทาง ศีลธรรมนี้ในรูปแบบต่างๆ เช่น การเดินขบวนพาเหรดของคนที่นิยมในเรื่องรักร่วมเพศ และบางประเทศถือว่าการแต่งงานระหว่างผู้ชายด้วยกันเป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมา

อุทาหรณ์ จากอายะหกรุอาน ที่มีความหมายว่า :

" พวกพ้องของลูฏ ได้ปฏิเสธบรรดาศาสนทูต (160)

ขณะที่ลูฏซึ่งเป็นพี่น้องของพวกเขาได้บอกแก่พวกเขาว่า พวกเจ้าจะไม่ยำเกรงอัลเลาะห์หรือ (161)

ความจริงฉัน เป็นศาสนทูตผู้ซื่อสัตย์ที่ถูกแต่งตั้งมายังพวกเจ้า(162)

ดังนั้นพวกเจ้าจงยำเกรง อัลเลาะห์ และเชื่อฟังฉัน (163)

ฉันไม่ได้ขอค่าจ้างใดๆ จากพวกเจ้าที่นำสัจธรรมออก เผยแพร่ ค่าตอบแทนของฉันไม่ได้มาจากผู้ใด นอกจากอัลเลาะห์ผู้อภิบาลสากลโลก เท่านั้น (164)

พวกเจ้าจะสมสู่แต่กับเพศชายจากหมู่มนุษย์อย่างนั้นหรือ (165)

และ พวกเจ้าจะทิ้งคู่ครองของพวกเจ้าที่พระเจ้าได้สร้างขึ้นมาเพื่อพวกเจ้า แน่นอนพวกเจ้า เป็นพวกที่ฝ่าฝืน (166)

พวกเขาตอบว่า โอ้ลูฏถ้าหากท่านยังไม่ยอมยุติเรื่องนี้ ท่านจะต้องเป็นผู้ที่ถูกขับไล่ออกไป (167)

ลูฏ กล่าวว่าฉันรังเกียจการกระทำของพวกเจ้า(168)

ลูฏได้วิงวอนว่า ข้าแด่องค์อภิบาลของฉัน ได้โปรดช่วยให้ฉันและครอบครัวของ ฉันรอดพ้นจากสิ่งที่พวกเขากระทำ (169)

ต่อมาเราได้ช่วยให้เขาและครอบครัวของเขา ทุกคนพ้นภัย (170)

อกจากหญิงชรา ภรรยาของลูตที่อยู่ในหมู่ชนที่ถูกทำลาย (171)

หลังจากนั้นเราได้ทำลายคนอื่นๆ (172)

และเราได้ให้ฝนตกถล่มพวกเขา และมันเป็นฝน

ที่ชั่วร้ายสำหรับพวกที่ถูกตักเตือนเพราะมันเป็นฝนหินที่มาจากนรก (173)

แท้จริงใน เรื่องนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่ง แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมศรัทธา (174)

และแท้จริง องค์อภิบาลของท่านทรงเดชานุภาพยิ่ง ทรงเมตตายิ่ง (175)  จากซูเราะห์อัชชุอะรออ์ อายะห์ 160-175

เราได้เห็นมาแล้วว่านบีลูต (อ.ล) ได้ใช้ชีวิตประกาศเชื้อเชิญสู่ความมีเกียรติความสะอาดบริสุทธิ์ การรักษาตนและจิตใจให้พ้นจากความชั่ว แต่พวกพ้องของเขาไม่ ยอมรับฟัง และไม่ปฏิบัติตามคำเชื้อเชิญของเขา พวกเขากับเยาะเย้ย และดูหมิ่นดูแคลนนบีลูต และขอให้เขานำการลงโทษจากอัลเลาะห์มาสู่พวกเขาถ้าหากเขาพูดจริง ต่อมาอัลเลาะห์ได้ลงโทษและทำลายพวกเขา จนในที่สุดพวกเขาได้กลายเป็นพวกที่ขาดทุน

ชีวประวัตินี้ได้เล่าให้เราทราบถึงเรื่องราวของนบีผู้ประเสริฐท่านหนึ่ง ที่ทำหน้าที่มอบสิทธิ์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ให้แก่เพื่อนบ้าน และแขกผู้มาเยือน ทั้งที่อ่อนแอกว่า เขาได้ยืนหยัดปกป้องแขกของเขาจากการคุกคามของชาวเมืองซะดูมที่เข้มแข็ง โดยไม่คำนึงว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร เขาคือนบีลูฏ ผู้เรียกร้องเชิญชวนสู่เกียรติยศในทุกความหมาย และต่อสู้ในแนวทางของเกียรติยศอย่างสุด ความสามารถคุณค่าที่นบีลูฏประกาศเชิญชวนเป็นคุณค่าที่มีความเหมาะสมกับทุกยุคและทุกแห่งหน

ส่วนหนึ่งจากคุณค่าเหล่านี้ก็คือศักดิ์ศรี ความกล้าหาญ เกียรติยศ ความ สะอาดบริสุทธิ์ การรักษาจิตใจจากความชั่ว การให้เกียรติแขกผู้มาเยือน สิทธิของเพื่อนบ้าน ความบริสุทธิ์จากบาป และการไม่เบี่ยงเบนทางเพศจากหนทางที่เป็นไปตามธรรมชาติ

เรื่องราวของนบีลูฏ ล้วนเป็นอุทาหรณ์ ที่เชิญชวนสู่ข้อปฏิบัติที่น่ายกย่อง เช่น ความเมตตา ความรัก เกียรติยศความกล้าหาญ ศักดิศรี การรักษาตัวจากบาป ทั้งหมด นี้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีงามเมื่อได้นำไปปฏิบัติ ก็จะได้รับชัยชนะ ได้รับความพ้นภัย และได้รับความพึงพอใจจากพระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน

เรื่องที่น่าสนใจ