ทําให้ชีวิตครอบครัวประสบความล้มเหลว ผลที่จะเกิดตามมาอาจจะทําให้ฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงเกิดการเข็ดหลาบไม่ยอมมีชีวิตคู่อีกในอนาคต
ผลเสียของการหย่าร้างในอิสลาม
(1) ทําให้ชีวิตครอบครัวประสบความล้มเหลว ผลที่จะเกิดตามมาอาจจะทําให้ฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงเกิดการเข็ดหลาบไม่ยอมมีชีวิตคู่อีกในอนาคต หรือบางรายอาจจะปล่อยตัวปล่อยใจในการทําความชั่วเพื่อประชดชีวิต หรือบางรายอาจจะเกิดความท้อแท้ใจในการดํารงชีวิต เนื่องจากความผิดหวังในชีวิตครอบครัว ทำให้เกิดความเศร้าสร้อยหงอยเหงา อาจจะทําให้เป็นโรคจิตได้
(2) ครอบครัวเกิดความแตกแยก การหย่าร้างระหว่างสามีและภรรยาทําให้ ครอบครัวแตกกระสานซ่านเซ็น ทางฝ่ายชายอาจจะย้ายตัวเองไปอยู่ที่หนึ่ง และฝ่ายหญิงก็อาจจะย้ายตัวเองไปอยู่อีกที่หนึ่ง ถ้าหากว่าสามีภรรยาคู่นั้นมีลูกด้วย แน่นอนลูก อาจจะกระจายไปอยู่คนละทิศละทาง ถ้าฝ่ายชายมีภรรยาใหม่ หรือฝ่ายหญิงมีสามีใหม่ โดยมีลูกติดแม่หรือลูกติดพ่ออยู่ด้วย ถ้าหากว่าเกิดความไม่เข้าใจระหว่างพ่อเลี้ยง แม่ เลี้ยงกับลูกเลี้ยง ย่อมจะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
(3) บุตรที่เกิดมาขาดความอบอุ่น เนื่องจากการแตกแยกระหว่างพ่อแม่ จากการขาดความอบอุ่นใจของลูกนี่เองอาจทําให้เขาหาสิ่งทดแทน เช่น การคบเพื่อนไม่ดี การทําตัวเสเพล เสพย์สิ่งมึนเมา และยาเสพติด
(4) การแตกแยกระหว่างครอบครัว อาจทําให้ชายหญิงรุ่นหลังเกิดความไม่มัน เนในชีวิตครอบครัว และคิดว่าการใช้ชีวิตครอบครัวจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทําให้ใช้ ขวิตเป็นโสดตลอดชีวิต หรืออาจจะใช้ชีวิตโดยอยู่กินแบบลับๆ
(5) ทํำให้มีการใช้ชีวิตแบบเป็นโสดมากขึ้น หรืออาจจะมีรักร่วมเพศเกิดขึ้นผู้ชายจะอยู่กินกับผู้ชาย ผู้หญิงจะอยู่กินกับผู้หญิง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลเสียหาย และผิดต่อบัญญัติอิสลามอย่างร้ายแรง
(6) ทำให้สังคมขาดความมั่นคง เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกัน ความยุ่งเหยิง ความระส่ําระสาย ความสับสนวุ่นวายตลอดเวลา
ถึงแม้อิสลามจะถือว่าความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว คือ ความมั่นคงแข็งแรงของสังคม และได้ทำให้การแต่งงานเป็นเรื่องง่ายสำหรับหนุ่มสาวมุสลิมที่ต้องการจะแต่งงานสร้างครอบครัว แต่อิสลามก็เป็นวิถีแห่งชีวิตที่ยอมรับความจริงว่าในบางครั้งคู่สมรสบางคู่อาจจะไม่สามารถดำเนินชีวิตเข้ากันได้ด้วยดี และมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้การใช้ชีวิตร่วมกันมีแต่จะสร้างความปวดร้าวขมขื่นให้แก่กันและกัน และอาจจะสร้างปัญหาให้แก่ลูกและญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายด้วย ดังนั้น ถ้าหากการหย่าร้างทั้งสองฝ่ายออกจากกันจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่าย อิสลามก็อนุมัติให้มีการหย่าร้างกันได้ แต่การอนุมัตินี้ ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ขอความสันติจงมีแด่ท่าน) ได้กล่าวว่า
"อัลลอฮฺ ซ.บ. ทรงอนุมัติให้ด้วยความรังเกียจ และการหย่าร้างเป็นสิ่งที่ทำให้บัลลังก์ของพระองค์ต้องสั่นสะเทือน"
กฎเกณฑ์สำคัญ ๆ ที่อิสลามวางไว้สำหรับการหย่าร้างมีดังนี้ :
ในสถานการณ์ปกติแล้ว สามีเท่านั้นที่มีสิทธิจะขอหย่าร้างภรรยาของตน โดยการกล่าวออกมาด้วยวาจาหรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
การกล่าวคำหย่าในขณะที่มีอารมณ์โกรธหรือโมโหถือว่าไม่มีผลในเมื่อพบรักกันด้วยดีแล้ว ถ้าจะจากก็ต้องจากกันด้วยดีและให้เกียรติแก่ภรรยา
เมื่อกล่าวคำหย่าแล้ว มิใช่ว่าความเป็นสามีภรรยาจะแยกขาดจากกันตรงนั้นเลย ฝ่ายสามีจะต้องรอให้ฝ่ายหญิงพ้น “อิดด๊ะฮฺ” คือพ้นจากการมีประจำเดือน 3 ครั้งเสียก่อน ในช่วงระยะเวลาแห่งการรอคอยให้ประจำเดือนพ้น 3 ครั้งนี้ ภรรยาจะไปแต่งงานใหม่ยังไม่ได้ ในขณะที่ฝ่ายชายยังคงต้องให้การเลี้ยงดูภรรยาตามปกติอยู่ การกำหนดระยะเวลาแห่งการรอคอยนี้ก็เพื่อที่จะดูว่าภรรยามีทารกอยู่ในครรภ์หรือไม่ หากมีก็จะได้รู้ว่าทารกในครรภ์เป็นลูกใคร เหตุผลอีกประการหนึ่ง ก็คือเพื่อที่จะประวิงเวลาสามีภรรยาที่คิดจะหย่าร้างกันไว้สักระยะหนึ่ง เผื่อว่าในช่วงเวลานี้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายอาจจะทบทวนการกระทำของตัวเอง หรือเห็นความดีของอีกฝ่ายหนึ่งและหันกลับมาคืนดีกัน หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองฝ่ายก็สามารถกลับมาอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาตามปกติได้ ถ้ายังไม่เกินช่วงเวลา ”อิดด๊ะฮฺ”
ถ้าเกินช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว หากทั้งสองฝ่ายต้องการจะคืนดีกันและหันกลับมาอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาอีก ทั้งคู่จะต้องทำพิธีแต่งงานใหม่ตามหลักศาสนาก่อนจึงจะอยู่ร่วมกันได้
ถ้าหากการหย่าร้างเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกถึง 3 ครั้ง อิสลามได้กำหนดบทลงโทษสามีผู้นั้นไว้โดยการไม่อนุญาตให้กลับมาแต่งงานกับภรรยาที่ตัวเองหย่าไปแล้วได้อีก จนกว่าภรรยาของตนไปแต่งงานกับชายอื่นและอยู่กินฉันสามีภรรยาจริง ๆ ก่อน ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ภรรยาได้เลือกสามีใหม่ ถ้านางพอใจที่จะอยู่กับสามีใหม่นางก็มีสิทธิ์ที่จะปลดปล่อยตัวเองให้พ้นจากความทุกข์จากสามีเก่าได้ แต่ถ้านางต้องการจะกลับ
มาหาสามีเก่า นางก็จะต้องให้สามีใหม่หย่าร้างตนเองเสียก่อน สามีเก่าถึงจะได้รับอนุญาตให้กลับมาแต่งงานกับภรรยาเก่าของตัวเองได้
หมายเหตุสำคัญ
นอกจากการหย่าร้างจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สามีภรรยาต้องแยกทางกันแล้ว ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความเป็นสามีภรรยากันต้องขาดสบั้นลงทันที โดยที่ไม่ต้องมีการหย่ากัน นั่นคือ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตกศาสนาไปไม่ว่าจะโดยวิธีใดก็ตาม เช่น การปฏิเสธหลักศรัทธาของอิสลาม การไปกราบไหว้สิ่งเคารพบูชาอื่น ๆ การเชื่อหมอดู และดูหมอ การเชื่อในวัตถุมงคล หรือของขลัง การเข้าไปบวชพระหรือบวชชี และอื่น ๆ เป็นต้น ในกรณีเช่นนี้ การอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาต่อไปถือว่าเป็นการผิดประเวณีที่จะมีแต่บาปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากจะอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยาต่อไป ฝ่ายที่ตกศาสนาออกไปจะต้อง “เตาบัต” ตัวเสียก่อน นั่นคือ สำนึกผิด เสียใจในสิ่งที่ทำผิดไป ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺและสัญญาต่อพระองค์ว่าจะไม่กลับไปกระทำอีก หลังจากนั้นก็กล่าวคำปฏิญาณตนเข้ารับอิสลามเสียก่อน จึงจะแต่งงานอยู่ร่วมกันต่อไปได้