ทำไมท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบาน มากกว่าเดือนอื่นๆ


6,315 ผู้ชม

สาเหตุที่ว่า ทำไมท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนี้มากกว่าเดือนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้บรรดาอุละมาอ์ได้มีทัศนะดังนี้...


ทำไมท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบาน มากกว่าเดือนอื่นๆ

เดือนชะอฺบาน เดือนที่ 8 ตามปฏิทินอิสลามอยู่ระหว่างเดือนเราะญับกับเดือนเราะมะฎอน 

สาเหตุที่เรียกเดือนนี้ว่า ชะอฺบาน เป็นเพราะในเดือนนี้ชาวอาหรับจะกระจายกันออกไปหาน้ำ หรือกระจัดกระจายกันออกไปทำสงคราม (มาจากคำว่า  الْقَوْمُ تَشَعَّبَ  (อ่านว่า ตะชะอะบะ อัลเกามุ) أي تفرق หมายถึง แยกย้าย หรือกระจัดกระจายออกไป) หลังจากที่พวกเขาได้หยุดพักจากการทำสงครามในเดือนเราะญับเพราะเป็นเดือนหะรอมหรือเดือนต้องห้ามทำสงคราม

การถือศีลอดในดือนชะอฺบาน

1. สุนนะฮฺให้ถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน

การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน ถือว่า เป็นสุนนะฮฺของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่ควรปฏิบัติตามยิ่ง เนื่องจากมีหะดีษที่รายงานด้วยสายรายงานที่เศาะฮีหฺ ที่รายงานโดยท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา เล่าว่า

“ท่านนบีได้เคยถือศีลอดในเดือนนี้จนกระทั่งพวกเรากล่าวว่า ท่านไม่ได้ละศีลอดเลย และท่านนบีเคยไม่ถือศีลอดในเดือนนี้จนกระทั่งพวกเรากล่าวว่าท่านไม่ได้ถือศีลอดเลย และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดเต็มเดือนนอกจากเดือนเราะมะฎอน และฉันไม่เคยเห็นท่านนบีถือศีลอดอย่างมากมายนอกจากเดือนนี้คือชะอฺบาน” (อัลบุคอรีย์ 1833, มุสลิม 1956 )

ในอีกสายรายงานหนึ่งของมุสลิม 1957 “ท่านนบีได้ถือศีลอดทั้งเดือนชะอฺบาน และท่านนบีได้ถือศีลอดทั้งเดือนนอกจากวันน้อยนิด(ที่ท่านไม่ได้ถือศีลอด)”

ส่วนวิธีการถือศีลอดของท่านนบี ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในเดือนนี้ มีทัศนะที่แตกต่างกันไป โดยสรุปแล้ว ท่านนบีไม่ได้ถือศลอดตลอดทั้งเดือนชะอฺบาน แต่ท่านนบีจะถือศีลอดในเดือนนี้มากกว่าเดือนอื่นๆ (ทัศนะของอุละมาอ์ส่วนหนึ่ง อาทิ อับดุลลอฮฺ อิบนุ มุบาร็อก)

ท่านอิมาม อิบนุ เราะญับ ได้อธิบายถึงความประเสริฐของการถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนี้ว่า “การถือศีลดอดในเดือนชะอฺบานนั้นดีกว่าการถือศีลอดในเดือนที่ทรงห้ามการทำสงคราม (อัชฮุรฺ อัลหุรุม) และเป็นสุนัตที่ดีที่สุดเนื่องจากอิบาดะฮฺทุกอย่างที่ใกล้เคียงกับเดือนเราะมะฎอน จะก่อนหรือหลังเราะมะฎอนก็ตามแต่ ระดับความประเสริฐของมันเหมือนกับระดับความประเสริฐของการละหมาดสุนัตเราะวาติบกับการละหมาดฟัรฎูจะก่อนหรือหลังละหมาดก็ตามแต่ และมันจะช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหรือบกพร่องไปในส่วนที่เป็นฟัรฎู เช่นเดียวกับการถือศีลอดก่อนเราะมะฎอนและหลังเราะมะฎอน ในเมื่อการละหมาดสุนัตเราะวาติบเป็นสุนัตที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการละหมาด ดังนั้นการถือศีลอดก่อนเราะมะฎอนและหลังเราะมะฎอนก็เป็นสุนัติที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการถือศีลอดเช่นเดียวกัน” (ดู ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ)

ส่วนสาเหตุที่ว่า ทำไมท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ถือศีลอดในเดือนชะอฺบานนี้มากกว่าเดือนอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้บรรดาอุละมาอ์ได้มีทัศนะดังนี้

  1. เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไม่สามารถถือศีลอด 3 วัน ประจำเดือนได้เนื่องจากท่านมีภารกิจและการเดินทางไกล(มุซาฟิร) ดังนั้นท่านจึงมารวบรวมทั้งหมดไว้ในเดือนนี้ เพราะท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้นจะปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนัตต่างๆ ทั้งหมด เมื่อท่านได้ละทิ้งเพราะเหตุจำเป็นท่านก็จะชดใช้แทนในช่วงเวลาอื่น
  2. เพราะภรรยาของท่านส่วนใหญ่จะถือศีลอดชดเชยในเดือนแห่งนี้ ท่านจึงถือศีลอดด้วย แต่เป็นทัศนะที่ขัดแย้งกับที่มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ที่ระบุว่า นางเจตนายืดเวลาถือศีลอดชดเชยมาไว้ในช่วงท้ายของปี เพื่อที่จะได้ถือศีลอดพร้อมๆ กับท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ในเดือนชะอฺบาน
  3. เพราะเป็นเดือนที่คนทั่วไปมักจะหลงลืมจากการถือศีลอด และเป็นเดือนที่อะมัลในรอบปีจะถูกยกขึ้นไปยังอัลลอฮฺ นี่เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักที่สุด ดังมีรายงานจากหะดีษของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จากอุสามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ความว่า “เดือนชะอฺบานแห่งนี้เป็นเดือนที่หลายคนหลงลืมมัน ซึ่งอยู่ระหว่างเดือนเราะญับและเดือนเราะมะฎอน มันเป็นเดือนที่อะมัลต่างๆ จะถูกยกขึ้นไปยังองค์อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นฉันจึงพอใจที่จะให้อะมัลของฉันถูกยกขึ้นสู่พระองค์ในสภาพที่ฉันกำลังถือศีลอดอยู่” (อันนะสาอีย์ 2357)

ทำไมท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบาน มากกว่าเดือนอื่นๆ

2. การเจตนาเริ่มถือศีลอดหลังครึ่งเดือนของชะอฺบาน

การถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน ถือว่า เป็นสุนนะฮฺของท่านนบี แต่ประเด็นที่สำคัญประการหนึ่ง คือ การเจตนาเริ่มถือศีลอดหลังจากครึ่งเดือนแรกของชะอฺบานผ่านไปแล้ว

ท่านอิหม่าม อิบนุ มุลักกิน ซึ่งเป็นอุละมาอ์ในสังกัดมัซฮับชาฟิอีย์ ได้อธิบายว่า “แท้จริงเมื่อครึ่งหลังของเดือนชะอฺบานมาถึง การเจตนาเริ่มถือศีลอดถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดาอุละมาอ์มุหักกิกูน(อุละมาอ์ผู้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ) ในมัซฮับของเรา(มัซฮับชาฟิอีย์) ดังหะดีษที่รายงานโดยอบูฮุร็อยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวความว่า “เมื่อถึงครึ่งเดือนของชะอฺบาน จงอย่าได้ถือศีลอด“  (รายงานโดยอัต-ติรมิซีย์ 738 และอบู ดาวูด 2337 ดู อิอฺลาม ฟะวาอิดอุมดะติลอะห์กาม ของอิบนุ มุลักกิน  เล่ม 5  หน้า 159-169)

อย่างไรก็ตาม การถือศีลอดที่ถูกห้ามในข้างต้นคือกรณีที่มีเจตนาและเจาะจงว่าจะเริ่มการถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือนชะอฺบานเป็นต้นไป ส่วนกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะเริ่มถือศีลอดหลังจากวันที่ 15 ของเดือนชะอฺบานดังกล่าว ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุมัติ

3. การถือศีลอดชดเชย (เกาะฎออ์) ในเดือนชะอฺบาน

การถือศีลอดชดเชย (เกาะฎออ์) สำหรับผู้ที่ได้ละทิ้งศีลอดในเดือนเราะมะฎอนถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น (วาญิบ) ซึ่งมีระยะเวลาที่ยาวนานเป็นปี กล่าวคือเดือนชะอฺบานคือเดือนสุดท้ายที่สามารถถือศีลอดชดเชยได้ หากพ้นเวลาดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น อาทิ ป่วยหรืออื่นๆจะต้องถูกปรับและต้องได้รับบาป และหากไม่ชดเชยจนถึงเดือนเราะมะฎอนปีหน้า เขาจะต้องขออภัย (เตาบัต) ต่ออัลลอฮฺ และถือศีลอดชดเชยพร้อมกับต้องให้อาหารแก่ผู้ยากไร้ (ฟากิรฺมิสกีน) ทุกวันตามที่จำนวนวันที่เขาได้ละทิ้ง (ตามทัศนะของอิมามชาฟิอีย์ อิมามมาลิก และอิมามอะหฺมัด)

ทำไมท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบาน มากกว่าเดือนอื่นๆ

4. การถือศีลอดในช่วงท้ายของเดือนชะอฺบาน (1-2 วัน ก่อนเข้าเราะมะฎอน)

การถือศีลอดในช่วงท้ายนี้ แบ่งออกเป็น 3 กรณี ดังนี้

กรณีที่ 1  ถือศีลอดด้วยการเนียตว่า ข้าพเจ้าถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน เพื่อเผื่อว่าอาจจะเข้าเดือนเราะมะฎอน กรณีนี้ ถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม)

กรณีที่ 2  ถือศีลอดเพราะมีการนะซัรไว้ หรือเพื่อชดเชย (เกาะฎออ์) ที่ขาดไป หรือเพื่อทดแทนกรณีที่ผิด (กัฟฟาเราะฮฺ) กรณีนี้ ถือว่าเป็นสิ่งอนุญาต (ยะญูซ)

กรณีที่ 3  ถือศีลอดสุนัตทั่วๆไป (สุนัตมุฏลัก) กรณีนี้ มีทัศนะที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. ถือว่าเป็นสิ่งที่มักรูฮฺ เพราะมีคำสั่งให้เว้นว่างจากการถือศีลอดระหว่างชะอฺบานกับเราะมะฎอน ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิบัติมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็ตาม (ทัศนะของ อัลหะสัน)
  2. ถือว่าเป็นสิ่งที่อนุญาต (ทัศนะของอิมามมาลิก)
  3. สามารถทำได้ (อนุญาต) ถ้าเป็นการถือศีลอดที่เขาเคยปฏิบัติมาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง (ทัศนะของอิมามชาฟิอีย์, เอาซาอีญ์ และอิมามอะหฺมัด )

โดย: นุมาน อิสมาอีล สะอะ

ที่มา: islamhouse.com

อัพเดทล่าสุด