นกฮุดฮุด หรือ นกกะรางหัวขวาน ที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอานใน ซูเราะห์อันนัมลฺ
นกฮุดฮุด นกกะรางหัวขวาน ที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน
นกฮุดฮุด หรือ นกกะรางหัวขวาน ที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอานใน ซูเราะห์อันนัมลฺ (An-Naml) อายะห์ที่ 20–24
وَتَفَقَّدَ الطَّيْرَ فَقَالَ مَا لِيَ لَا أَرَى الْهُدْهُدَ أَمْ كَانَ مِنَ الْغَائِبِينَ
ความว่า: “และเขาได้ตรวจดูฝูงนกแล้วกล่าวขึ้นว่า “ทำไมฉันจึงไม่เห็นฮุดฮุด แต่ว่ามันหายไปไหน ?” (ซูเราะห์อันนัมลฺ อายะห์ที่ 20)
لَأُعَذِّبَنَّهُ عَذَابًا شَدِيدًا أَوْ لَأَذْبَحَنَّهُ أَوْ لَيَأْتِيَنِّي بِسُلْطَانٍ مُّبِينٍ
ความว่า: “แน่นอน ฉันจะลงโทษมันด้วยการลงโทษอย่างสาหัส หรือฉันจะฆ่ามันอย่างแน่นอนหรือให้มันนำหลักฐานอันชัดแจ้งมาให้ฉัน” (ซูเราะห์อันนัมลฺ อายะห์ที่ 21)
فَمَكَثَ غَيْرَ بَعِيدٍ فَقَالَ أَحَطتُ بِمَا لَمْ تُحِطْ بِهِ وَجِئْتُكَ مِن سَبَإٍ بِنَبَإٍ يَقِينٍ
ความว่า: “มันหายไปชั่วครู่ (แล้วกลับมา) มันได้กล่าวว่า “ฉันได้ไปตรวจพบสิ่งที่ท่านไม่รู้ และฉันได้นำข่าวอันแน่นอนจากสะบะ มายังท่าน” (ซูเราะห์อันนัมลฺ อายะห์ที่ 22)
إِنِّي وَجَدتُّ امْرَأَةً تَمْلِكُهُمْ وَأُوتِيَتْ مِن كُلِّ شَيْءٍ وَلَهَا عَرْشٌ عَظِيمٌ
ความว่า: “ฉันได้พบหญิงคนหนึ่ง ปกครองพวกเขา และนางมีทุกสิ่ง และนางมีบัลลังก์อันใหญ่โต” (ซูเราะห์อันนัมลฺ อายะห์ที่ 23)
وَجَدتُّهَا وَقَوْمَهَا يَسْجُدُونَ لِلشَّمْسِ مِن دُونِ اللَّهِ وَزَيَّنَ لَهُمُ الشَّيْطَانُ أَعْمَالَهُمْ فَصَدَّهُمْ عَنِ السَّبِيلِ فَهُمْ لَا يَهْتَدُونَ
ความว่า: “และฉันได้พบนางและหมู่ชนของนางสักการะบูชาดวงอาทิตย์อื่นจากอัลลอฮ์ และมารชัยฎอนได้ทำให้การงานของพวกเขาเป็นของดีงามแก่พวกเขา และได้กีดกันพวกเขาออกจากแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง” (ซูเราะห์อันนัมลฺ อายะห์ที่ 24)
นกฮุดฮุด นกกะรางหัวขวาน
นกฮุดฮุด หรือ นกกระรางหัวขวาน ได้ชื่อว่า “Hoopoe” ตามเสียงร้องของมัน คือ มันจะร้องดัง ฮู-ปู หรือ ฮู-ปู-ปู (ho-po-po) หรือดัง ฮุด-ฮุด-ฮุด (hud-hud-hud) จะร้องเป็นช่วงๆ ซ้ำๆ กัน ประมาณ 2-3 วินาที
เรื่องราวของศาสดาโซโลมอน (สุลัยมาน) และราชินีซีบา (บิลกิส) ดังที่กล่าว ไว้ในคัมภีร์อัล กุรอานก็พูดถึงความฉลาดของนก ในท้องพระโรงของกษัตริย์โซโลมอน นอกจากมนุษย์แล้ว ยังมีณินและสัตว์ปรากฏตัวอยู่ ตามฐานันดรและยศศักดิ์ด้วย เพื่อรับหน้าที่ซึ่งจะมอบหมายให้พวกเขา ครั้งหนึ่งเมื่อท้องพระโรงของโซโลมอนมี การชุมนุมอย่างยิ่งใหญ่ โซโลมอนสังเกตเห็นว่านกฮุดฮุดหายตัวไป จึงกล่าวว่า
“ทำไมฉันจึงไม่เห็นนกอฮุดฮุด มันหายไปไหน แน่นอน ฉันจะลงโทษมันด้วยการ ลงโทษอย่างสาหัส หรือฉันจะฆ่ามันอย่างแน่นอน หรือโทษมันนำหลักฐานอันชัดแจ้ง มาให้ฉัน”
"มันหายไปชั่วครู่ (แล้วกลับมา) มันกล่าวว่า"
“ฉันได้ไปตรวจพบสิ่งที่ท่านไม่รู้ และนำข่าวที่เชื่อถือได้จากเยเมนมายังท่าน ฉันได้พบหญิงคนหนึ่งปกครองพวกเขา และนางมีทุกสิ่งนางมีบัลลังก์อันใหญ่โต และ ฉันพบว่านางและหมู่ขนของนางสักการบูชาดวงอาทิตย์อื่นจากพระเจ้า และมาร ร้ายได้ทำให้การงานของพวกเขาเป็นของดีงามแก่พวกเขา และกีดกันพวกเขาออก จากแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในแนวทางที่ลูกต้อง ทำไมพวกเขา ไม่กราบต่อพระเจ้า ผู้นำออกมาซึ่งสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในขั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งหลาย และทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้าปิดบัง และสิ่งที่พวกเจ้าเป็ดเผย ไม่มีพระเจ้าอื่นโดนอกจาก พระองค์ พระเจ้าแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่”
โซโลมอน กล่าวว่า
“เราจะคอยดูว่า เจ้าพูดจริงหรือเจ้าอยู่ในหมู่ผู้กล่าวเท็จ เจ้าจงนำสาส์นของ ฉันนี่และส่งมันให้พวกเขา แล้วถอยออกห่างออกมา จงคอยดูว่าพวกเขาจะตอบกลับมาว่าอย่างไร”
เมื่อฮุดฮุดนำสาส์นไปให้ราชินี ซึ่งขณะนั้นพระนางออกไปเพื่อสักการะดวงอาทิตย์ เมื่อศึกษารายละเอียดในสาส์นแล้ว ราชินีทรงกล่าวว่า
โอ้หมู่บริวารทั้งหลายเอ๋ย แน่แท้ สาส์นอันมีเกียรติถูกนำมาพาฉันแท้จริงมัน มาจากโซโลมอน และสาส์นนี้เริ่มว่า ด้วยพระนามของพระเจ้า ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
นกฮุดฮุด นกกะรางหัวขวาน
พระนางทรงกล่าวอีกว่า
“โอ้หมู่บริวารทั้งหลายเอ๋ย จงให้ข้อดีขาดแก่ฉันในเรื่องของฉัน ฉันไม่อาจ จะตัดสินใจในกิจการโด จนกว่าพวกท่านจะอยู่ร่วมด้วย พวกเขากล่าวว่า เราเป็น พวกที่มีพลัง และเป็นพวกที่มีกำลังรบเข้มแข็ง สำหรับพระบัญชานั้นเป็นของ พระนาง ดังนั้น พระนางได้โปรดตรึกตรองดูสิ่งใดที่พระนางจะทรงบัญชา”
พระนางทรงกล่าวว่า
“แท้จริงเหล่ากษัตริย์นั้น เมื่อเข้าไปในเมืองใดก็ทำลายมัน และทำให้บรรดา ผู้มีอำนาจของเมืองนั้นเป็นผู้ต่ำต้อย และเช่นนั้นแหละพวกเขากระทำกัน และแท้ จริงฉันจะส่งของกำนัลไปให้พวกเขา แล้วฉันจะเขาคอยดูว่าผู้ที่ถูกส่งไปนั้นจะกลับ มาอย่างไร”
เมื่อพวกเขาได้เข้าพบโซโลมอนแล้ว โซโลมอนกล่าวว่า
“พวกท่านจะนำทรัพย์สินมากำนัลแก่เราหรือ ? สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ แก่ฉันนั้น ดียิ่งกว่าสิ่งที่พระองค์ประทานให้แก่พวกท่าน แต่พวกท่านดีใจต่อของกำนัล ของพวกท่าน จงนำมันกลับไปยังพวกเขา เพราะแน่นอน หากนางไม่ยอมรับรู้ สาส์นของเรา เราจะนำไพร่พลไปยังพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่มีกำลังที่จะต่อต้าน มันได้ และแน่นอน เราจะให้พวกเขาออกจากที่นั่นอย่างอัปยศ และพวกเขาจะเป็น ผู้ต่ำต้อย”
เมื่อตัวแทนกลับมาพวกเขาได้รายงานสิ่งที่เห็นในท้องพระโรงของโซโลมอน และบอกพระนางว่าโซโลมอนไม่ได้ปกครองเฉพาะมนุษย์ แต่ยังปกครองญินและสัตว์ ต่างๆ ด้วย เมื่อราชินีได้ยินดังนั้นจึงยอมสวามิภักดิ์และออกเดินทางมาพบโซโลมอน
เมื่อโซโลมอนรับทราบการตัดสินใจของนาง จึงกล่าวกับประชาชนของท่านว่า
“โอ้หมู่บริพารทั้งหลายเอ๋ย ผู้ใดในหมู่พวกท่าน จะนำบัลลังก์ของนางมายังฉัน ก่อนที่พวกเขาจะมาหาฉันอย่างผู้นอบน้อม”
นี่เพราะความโปรดปรานจากพระองค์อภิบาลของฉัน ทั้งนี้เพื่อที่พระองค์จะทรงทดสอบฉันว่าเป็นผู้เนรคูณ พวกเจ้าจงจัดบัลลังก์ของนางไว้พอเป็นพิธี เราจะดูว่าเมือนางมาถึงแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ราชินีบิลกิสก็เดินทางมาถึงเมืองเยรูซาเล็มและเข้าพบนบีสุลัยมาน เมือเข้ามายังท้องพระโรง ก็เหมือนนี่แหละ เรารุ้เรืองนี้แล้วว่าเป็นเดชานุภาพของอัลลอฮและเราก็ยอมเป็นมุสลิมแล้วด้วย
ที่มา: ดาบแห่งอัลเลาะห์
- อิสลามห้ามกินอะไรบ้าง (ละเอียด)
- บ่อน้ำที่นบีมูซา ได้พบลูกสาวสองคนของนบีชุอัยบ์
- ซูเราะห์ที่อ่านในวันศุกร์ มีความประเสริฐอย่างไหร่?
- ซูเราะห์ที่ควรอ่านตอนตั้งครรภ์
- ฮาดีษ เมื่อแมลงวันตกลงในน้ำ
- หมื่นผลบุญ ภายใน 10 วินาที อ่านหลังละหมาดซุบฮิเพียงครั้งเดียว
- หมอกควัน สัญญาณวันกิยามะห์ ที่อัลกุรอานกล่าวไว้
- ภรรยาไม่ตออัตต่อสามี จะไม่ได้กลิ่นอายสวรรค์