ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม


21,096 ผู้ชม

ริสกี คือ สิ่งที่อัลเลาะห์ให้กับมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย ซึ่งมันไม่ได้หมายถึงปัจจัยยังชีพอย่างเดียว มันรวมถึงอาหาร ทั้งทางสมองและทางจิตใจ....


ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม

ลูกคือ.. ของขวัญจากอัลลอฮ ลูกคือ.. ริสกี ที่ยิ่งใหญ่จากอัลลอฮ ลูกคือ.. อามานะห์จากอัลลอฮฺ อามานะห์ ที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อม กับอามานะห์ที่ใหญ่ยิ่ง

ริสกี คือ สิ่งที่อัลเลาะห์ให้กับมนุษย์และสัตว์โลกทั้งหลาย ซึ่งมันไม่ได้หมายถึงปัจจัยยังชีพอย่างเดียว มันรวมถึงอาหาร ทั้งทางสมองและทางจิตใจ สิ่งที่เรากลัวที่สุด คือ อัลเลาะห์ (ซบ) ไม่พอพระทัย และตัดริสกีของเรา ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม เพราะถ้าใครก็ตามที่หมดริสกี นั่นหมายถึง พระองค์ให้เรากลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์ (อ่านเพิ่ม: ริสกี หมายถึง เงินอย่างเดียว จริงหรือ?)

“ลูก” ถือเป็นริสกีอันประเสริฐ ของขวัญอันล้ำค่าที่อัลลอฮ์ประทานแก่สามีภรรยาให้ได้มีสถานะเป็นพ่อแม่

ความปรารถนาสำคัญประการหนึ่งของคู่สามีภรรยา คือ ได้มีสถานะเป็นพ่อแม่ มีความปรารถนาอยากจะมี ”ลูก” อัลฮะดีส บันทึกในมุสนัดของท่านอบูยะอ์ลา รายงานจากท่านอบูสอี๊ด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า 

ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม

الْوَلَدُ ثَمَرَةُ الْقَلْبِ ، وَإِنَّهُ مَجْبَنَةٌ مَبْخَلَةٌ مَحْزَنَةٌ

ควมว่า:  “ลูกเปรียบดั่งผลของหัวใจ และเป็นสาเหตุของความขลาด ความตระหนี่ และความเสียใจ”

นักวิชาการอธิบายว่า ثَمَرَةُ คือ ผลไม้ ซึ่งเป็นผลผลิตของพันธุ์ไม้ต่างๆ ดังนั้น الْوَلَدُ ثَمَرَةُ الْقَلْبِ  จึงเปรียบลูกดั่งผลผลิตของพ่อ และลูกก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อแม่เกิดความขลาด ความตระหนี่ และความวิตกกังวล ความเสียใจ

          مَجْبَنَةٌ เป็นสาเหตุให้เกิดความขลาด เพราะกลัวการพลัดพรากจากกัน เช่น ทำให้พ่อไม่อยากออกไปทำสงครามญิฮาด หรือไม่อยากให้ลูกออกไปทำสงครามญิฮาด กลัวว่าจะต้องตายจากกัน

          مَبْخَلَةٌ เป็นสาเหตุให้เกิดความตระหนี่ เช่น ไม่กล้าบริจาคมาก เพราะต้องการทุ่มเทให้กับลูก กลัวลูกไม่พอกินพอใช้ กลัวว่าลูกจะไม่ได้รับความสุขความสบาย

          مَحْزَنَةٌ เป็นสาเหตุให้เกิดความวิตกกังวล ความเศร้าโศกเสียใจ เพราะเป็นห่วงลูก เช่น เมื่อเวลาที่ลูกเจ็บไข้ได้ป่วย หรือเมื่อลูกต้องประสบปัญหา หรือได้รับสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม

ทั้งหมดนั่นก็เพราะ ”ลูก” คือสุดยอดความรักของพ่อแม่ ”ลูก” ถือเป็นสิ่งดีงามในชีวิต เป็นโซ่คล้องใจ เป็นห่วงสร้างความผูกพัน เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่

ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม

แต่...ไม่ใช่ว่า...สามีภรรยาทุกคู่จะได้เป็นพ่อแม่  ไม่ใช่ว่า...สามีภรรยาทุกคู่จะมีลูกได้สมใจปรารถนา  บางคู่ไม่มีลูกเลย  ถึงแม้อยากจะมี ทำอย่างไรก็ไม่มี  บางคู่มีแต่ลูกชาย  บางคู่มีแต่ลูกหญิง  บางคู่มีทั้งลูกชายลูกหญิง  

ดังนั้น “ลูก” จึงถือเป็นริสกีอย่างหนึ่ง  และถือเป็นริสกีอันประเสริฐ  อีกทั้งยังเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาประทานแก่สามีภรรยาคู่นั้นๆ  ให้ได้มีสถานะเป็นพ่อแม่  อัลฮะดีสในบันทึกของอิมามอิบนุมาญะฮ์  รายงานจากท่านอิบนุ อับบ๊าส ร่อฎิยัลลอฮฺอันฮุเล่าว่า  ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า   

ควมว่า: “ท่านทั้งหลายจงให้เกียรติบรรดาลูกของพวกท่าน และอบรมบ่มนิสัยพวกเขาให้มีมารยาทที่ดีงาม เพราะแท้จริง บรรดาลูกของพวกท่านเป็นของขวัญแก่พวกท่าน”

ในขณะเดียวกัน “ลูก” ก็เป็นอะมานะฮ์  เป็นของฝาก เป็นหน้าที่  เป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงวางไว้บนบ่าทั้งสองของพ่อแม่ด้วยเช่นกัน  เพราะในวันกิยามะฮ์ คนที่มีสถานะเป็นพ่อแม่จะต้องถูกสอบสวนถึงอะมานะฮ์  หน้าที่และความรับผิดชอบในเรื่องนี้  ในอัลกุรอานซูเราะฮฺอัตตะห์รีม  อายะฮ์ที่ 6  อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาตรัสว่า 

يَٰٓأَيُّهَا ٱلَّذِينَ ءَامَنُواْ قُوٓاْ أَنفُسَكُمۡ وَأَهۡلِيكُمۡ نَارٗا وَقُودُهَا ٱلنَّاسُ وَٱلۡحِجَارَةُ 

ควมว่า: “โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย  จงปกป้องตัวของพวกเจ้า และครอบครัวของพวกเจ้าให้พ้นจากไฟนรก  เพราะเชื้อเพลิงของมันคือมนุษย์และก้อนหิน (รูปปั้นรูปเจว็ดต่างๆ)”

ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม

อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงสั่งบรรดาผู้ศรัทธา “ให้ดูแลตัวของพวกเจ้า  และครอบครัวของพวกเจ้าให้พ้นจากไฟนรก...” บรรดาซอฮาบะฮ์ได้อธิบายส่วนนี้ไว้ในหลายความหมายที่เป็นไปในทางเดียวกัน  โดยสรุปคือ หัวหน้าครอบครัวต้องดูแลตัวเองให้เป็นผู้ที่ศรัทธาและยำเกรงอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา   ปฏิบัติตัวให้อยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติศาสนา  เมื่อตัวเองได้ปฏิบัติแล้ว  ก็ต้องดูแลคนในครอบครัวของเขาด้วยเช่นกัน

ถ้าหากหัวหน้าครอบครัวไม่ดูแลเอาใจใส่ในเรื่องนี้  ก็เป็นไปได้ที่ทั้งตัวเขาและคนในครอบครัวของเขาจะเป็นคนที่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติศาสนา  ซึ่งผลตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับในวันกิยามะฮ์ก็คือ  เป็นเชื้อเพลิงให้กับไฟนรก

เมื่อพ่อแม่ได้เข้าใจแล้วว่า  “ลูก” เป็นอะมานะฮ์  เป็นของฝาก เป็นหน้าที่ เป็นความรับผิดชอบ    พ่อแม่จะตระหนักได้ว่า ”ลูก”ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของพวกตน  แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาผู้ทรงสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง  เพราะพระองค์ทรงประสงค์จะเอาพวกเขากลับคืนไปเมื่อไรก็ได้  โดยพ่อแม่ไม่สามารถยับยั้งได้เลย  ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องอบรมเลี้ยงดูลูกโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ความพึงพอพระทัยของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา  ไม่ใช่เลี้ยงดูตามความพึงพอใจของตัวเอง   แต่ต้องเลี้ยงพวกเขาให้อยู่ในขอบเขตของบทบัญญัติศาสนา   เลี้ยงพวกเขาให้เป็นผู้ศรัทธา เป็นมุสลิม เป็นมุอ์มิน  เพราะพ่อแม่ต้องคืนอะมานะฮ์นี้แด่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ผู้ทรงเป็นเจ้าของของฝาก  เป็นผู้ทรงมอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบนี้แก่พ่อแม่   

อัลฮะดีสในบันทึกของอิมามอบูดาวู๊ด และอิมามอัตติรมีซีย์  รายงานจากท่านอบีฮุรอยเราะฮ์  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า  ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า 

أَدِّ الأَمَانَةََ إِلَى مَنِ ائْتَمَنَكَ وَلا تَخُنْ مَنْ خَانَكَ 

“จงมอบอะมานะฮ์คืนแก่ผู้ที่ฝากท่าน  อีกทั้งจงรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ท่านได้รับมอบหมาย  และจงอย่าทุจริตต่อของฝากหรือหน้าที่นั้น”

เมื่อมีผู้นำของมาฝากท่านให้ดูแล  ให้ถือเป็นหน้าที่  เป็นความรับผิดชอบที่ต้องดูแลของฝากนั้นอย่างดี  เพื่อจะได้ส่งคืนของฝากนั้นให้อยู่ในสภาพเดิม  เพราะถ้าของฝากไม่อยู่ในสภาพเดิม  ก็ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่  นี่คือ อะมานะฮ์

เมื่อพ่อแม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว  ก็ต้องตระหนักด้วยว่า  การที่ลูกจะได้รับทางนำนั้นอยู่ในพระหัตถ์ของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา  พระองค์ทรงให้ทางนำแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วยความกรุณาของพระองค์  และทรงให้หลงทางแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ด้วยความยุติธรรมของพระองค์  ในอัลกุรอานซูเราะฮ์อัลเกาะศ็อศ  อายะฮ์ที่ 56 

إِنَّكَ لَا تَهۡدِي مَنۡ أَحۡبَبۡتَ وَلَٰكِنَّ ٱللَّهَ يَهۡدِي مَن يَشَآءُۚ وَهُوَ أَعۡلَمُ بِٱلۡمُهۡتَدِينَ  

“แท้จริง เจ้าไม่สามารถชี้แนะทางนำที่ถูกต้องแก่ผู้ที่เจ้ารักได้  แต่อัลลอฮ์ทรงชี้แนะทางนำที่ถูกต้องแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์  และพระองค์ทรงรู้ดียิ่งถึงผู้ที่อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง”

พ่อแม่จึงต้องคอยขอดุอาอ์อยู่เสมอ  ให้ลูกเป็นคนซอและห์และได้รับทางนำที่ถูกต้อง  

رَبَّنَا هَبْ لَنَا مِنْ أَزْوَاجِنَا وَذُرِّيَّاتِنَا قُرَّةَ أَعْيُنٍ وَاجْعَلْنَا لِلْمُتَّقِينَ إِمَامًا

“โอ้พระเจ้าของเรา  ขอพระองค์โปรดประทานแก่เราซึ่งคู่ครองและลูกหลานของเรา ให้เป็นที่ชื่นตาชื่นใจแก่สายตาของเรา  และทรงทำให้เราเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้ยำเกรง”

رَبّ ٱجْعَلْنِى مُقِيمَ ٱلصَّلوٰةِ وَمِن ذُرّيَتِى رَبَّنَا وَتَقَبَّلْ دُعَاء

“โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์  โปรดให้ข้าพระองค์ และจากลูกหลานของข้าพระองค์เป็นผู้ดำรงละหมาด

โอ้พระเจ้าของเรา  ขอพระองค์ทรงตอบรับการวิงวอนขอด้วยเถิด”

พ่อแม่จะต้องระมัดระวังไม่พูดจาสาปแช่งลูก  ไม่ว่าลูกในทางร้าย  เพราะดุอาอ์ของพ่อแม่ที่ขอให้ลูกเป็นดุอาอ์มุสตะญาบ  เป็นดุอาอ์ที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาทรงตอบรับ อัลฮะดีสในบันทึกของอิมามมุสลิม  รายงานจากท่านญาบิร บิน อับดิลลาฮ์  ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุเล่าว่า  ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮฺวะซัลลัมกล่าวว่า 

لَا تَدْعُوا عَلَى أَنْفُسِكُمْ، وَلَا تَدْعُوا عَلَى أَوْلَادِكُمْ، وَلَا تَدْعُوا عَلَى أَمْوَالِكُمْ، لَا تُوَافِقُوا مِنْ اللَّهِ سَاعَةً يُسْأَلُ فِيهَا عَطَاءٌ فَيَسْتَجِيبَ لَكُمْ

“พวกท่านอย่าขอดุอาอ์ที่ไม่ดีแก่ตัวเองและแก่ลูกๆของท่าน  ทรัพย์สินของพวกท่าน อย่าให้ดุอาอ์(ที่ไม่ดี)นั้นตรงกับช่วงเวลาที่อัลลอฮ์ทรงตอบรับดุอาอ์ (เพราะสิ่งที่ไม่ดีจะประสบกับพวกท่านและพวกเขา)

เมื่อพ่อแม่ได้ขอดุอาอ์อยู่อย่างสม่ำเสมอแล้ว  พ่อแม่ก็จงมอบหมายความสำเร็จไปยังอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตาลา  พร้อมทั้งยอมรับผลที่จะเกิดขึ้น  ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดีก็ตาม

 ลูกคือ..ริสกี ดุอาขอให้มีลูก ลูกที่ดีในอิสลาม

ดุอาขอให้มีลูกนั้น มีหลายสำนวนและสามารถขอได้ทุกเวลา โดยเฉพาะหลังละหมาดเสร็จหรือในช่วงเวลาที่ดุอาอฺมุสตะญาบ เช่น ขณะฝนตก ขณะไก่ขัน หรือระหว่างการอะซานกับอิกอมะฮฺ เป็นต้น ส่วนสำนวนดุอาอฺ เช่น 

أَللّهمَّ ارْزُقْنِيْ وَلَدًا صَا لِحًا وذَرِّ يَّةً طَيِّبَةً

คำอ่าน: อัลลอฮุมมัรซุกนี ว่าล่าดัน ซอลี่ฮัน ว่าซัรรียะตัน ตอยยี่บ่าตัน

ความว่า: “โอ้ อัลลอฮฺ ขอพระองค์ทรงประทานบุตรที่ดี และลูกหลานที่ดีแก่ฉัน” 

رَبِّ هَبْ لِيْ مِنْ لَدُنْكَ وَلِيَّا وَاجْعَلْهُ رَبِّ رَضِيَّا 

คำอ่าน: ร๊อบบี่ฮับลี มินล่าดุนก้า ว่าลียา วัจอัลฮุ ร๊อบบี่ ร่อดียัน

ความว่า: “โอ้ พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดประทานบุตรที่ดี ซึ่งจะดูแลกิจการหลังจากฉันจากพระองค์ท่าน และของจงบันดาลให้เขาเป็นที่พึงพระทัย ณ พระองค์ โอ้พระผู้อภิบาลของฉัน” (เป็นดุอาอฺเลียนแบบสำนวนจากดุอาอฺของนบีซะกะรียา (อ.ล.)  หรือจะขอดุอาอฺ ร็อบบานา อะตินา ก็ได้ เพราะครอบจักรวาลอยู่แล้ว

ลูกที่ดีในอิสลาม

ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านพี่น้องครับ ส่วนหนึ่งจากอิบาดะฮ์อันประเสริฐยิ่งที่บ่าวคนหนึ่งได้สนองคำบัญชาใช้ของอัลเลาะฮ์ตาอาลาก็คือ  การปฏิบัติดีต่อบิดามารดา  และสิ่งที่ชี้ถึงความสำคัญและความยิ่งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ

คำตรัสของอัลเลาะฮ์ ตาอาลา  ความว่า

وَقَضَى رَبُّكَ أَلَّا تَعْبُدُوا إِلَّا إِيَّاهُ وَبِالْوَالِدَيْنِ إِحْسَاناً

"องค์อภิบาลของเจ้าได้บัญชาไว้ว่า  พวกเจ้าทั้งหลายอย่านมัสการสิ่งใด  นอกจากพระองค์เท่านั้น  และจงทำดีกับผู้ให้กำเหนิดทั้งสอง" อัลอิสรออ์ 23

และวจนะของท่านรอซูลลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ความว่า "ช่างต่ำต้อยเหลือเกิน  สำหรับคนหนึ่งที่ได้อยู่ร่วมกับบิดามารดาของเขาหรือคนใดจากทั้งสองหรือทุก ๆ จากทั้งสอง โดยที่ทั้งสองไม่ทำให้เขาเข้าสวรรค์"  รายงานโดยมุสลิม

ดังนั้น ลูกที่ดีในอิสลาม หากท่านต้องการความสำเร็จในทั้งโลกนี้และโลกหน้า ท่านก็จงปฏิบัติตามสิ่ง ต่อไปนี้

1. ลูกที่ดีในอิสลาม พูดจากับบิดามารดาด้วยมีมารยาท  จงอย่ากล่าวด้วยถ้อยคำที่เบื่อหน่าย  และจงกล่าวพูดจากับทั้งสองอย่างอ่อนโยน

2. ลูกที่ดีในอิสลาม ตออัตพ่อแม่ของท่านอย่าสม่ำเสมอในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืน  ดังนั้น  ไม่มีการตออัตต่อมัคโลกที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนพระเจ้าผู้ทรงสร้าง

3. ลูกที่ดีในอิสลาม มีความอ่อนโยนต่อท่านทั้งสอง  อย่าทำหน้าบึ้งใส่  และอย่าเหลือบมองทั้งสองด้วยหางตา

4. ลูกที่ดีในอิสลาม จงรักษาชื่อเสียง , เกียรติ , และทรัพย์สินของท่านทั้งสอง  ท่านอย่าเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดนอกจากได้รับการอนุญาตจากทั้งสองเสียก่อน

5. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านจงปฏิบัติสิ่งที่ให้ความสะดวกแก่ท่าน  หากแม้นว่าทั้งสองจะไม่ได้สั่งใช้ก็ตาม  เช่นการรับใช้บริการ  ซื้อของที่จำเป็น ๆ ให้ และขยันศึกษาเล่าเรียน

6. ลูกที่ดีในอิสลาม จงขานรับการเรียกของท่านทั้งสองด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม  โดยกล่าวว่า  ครับพ่อ , ค่ะแม่ ,  ขอรับพ่อ , จ๊ะแม่ , เป็นต้น

7. ลูกที่ดีในอิสลาม จงให้เกียรติเพื่อน ๆ และเครือญาติของท่านทั้งสอง  ไม่ว่าในยามที่ท่านทั้งสองมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

8. ลูกที่ดีในอิสลาม อย่าโต้เถียงและกล่าวหาว่าผิดกับท่านทั้งสอง  แต่จงพยายามชี้แจงสิ่งที่ถูกต้องด้วยมารยาทที่ดีงาม

9. ลูกที่ดีในอิสลาม อย่าดื้อดึงและพูดจาอันเสียงดังต่อหน้าท่านทั้งสอง  และจงนิ่งสดับฟังคำพูดของท่านทั้งสอง  ท่านจงปฏิบัติด้วยจรรยามารยาทที่ดีงามด้วยกับทั้งสอง  และอย่าแกล้งพี่น้องของท่านเพื่อให้เกียรติแด่ท่านทั้งสอง

10. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านจงยืนให้เกียรติเมื่อท่านทั้งสองเข้ามาหา และจงจูบที่หน้าผากและเท้าของทั้งสอง

11. ลูกที่ดีในอิสลาม จงช่วยเหลือมารดาเกี่ยวกับงานบ้านและจงอย่ารีรอจากการช่วยบิดาทำงาน

12. ลูกที่ดีในอิสลาม เธออย่าเดินทาง เมื่อทั้งสองไม่ได้อนุญาต  หากแม้นว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญก็ตาม

13. ลูกที่ดีในอิสลาม อย่าเข้าไปหากท่านทั้งสองโดยไม่ได้รับอนุญาต  โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ทั้งสองกำลังนอนและทำการพักผ่อน

14. ลูกที่ดีในอิสลาม อย่ารับประทานอาหารก่อนท่านทั้งสอง  และจงให้เกียรติท่านทั้งสองในการรับประทานอาหารและดื่ม

15. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านอย่ากล่าวหาโกหกและอย่าทำการตำหนิ  เมื่อท่านทั้งสองได้กระทำสิ่งหนึ่งที่ไม่ทำให้ท่านประทับใจ

16. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านอย่าคิดว่าภรรยาและบุตรของท่านดีกว่าท่านทั้งสอง  ท่านจงสร้างความพึงพอใจแก่ท่านทั้งสองก่อนอื่นใด  ดังนั้นการพึงพอใจของอัลเลาะฮ์  ย่อมอยู่ในการพอใจของบิดามารดา และความโกรธกริ้วของพระองค์  ย่อมอยู่ในความโกรธของทั้งสอง

17. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านอย่านั่งในสถานที่หนึ่งที่สูงกว่าท่านทั้งสอง  และท่านอย่ายืนเท้าในขณะที่อยู่ต่อหน้าท่านทั้งสอง

18. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านโอ้อวดในการแอบอ้างไปยังบิดาของท่าน  หากแม้นว่าท่านจะมีตำแหน่งที่สูงก็ตาม  และจงระวังการปฏิเสธความหวังดีของทั้งสองและอย่าทำให้ทั้งสองเดือดร้อน  ถึงแม้นว่าจะด้วยถ้อยคำพูดเดียวสักทีก็ตาม

19. ลูกที่ดีในอิสลาม อย่าตระหนี่ในการเลี้ยงดูต่อท่านทั้งสอง  จนทำให้ทั้งสองเป็นทุกข์  เพราะมันเป็นความน่าอับอายสำหรับท่าน  ซึ่งต่อไปท่านจะได้เห็นว่าสิ่งดังกล่าวนั้น  บรรดาลูกๆ ของท่านก็จะทำอย่างนั้นกับท่านเช่นกัน

20. ลูกที่ดีในอิสลาม จงเยี่ยมเยือนท่านทั้งสองให้มาก ๆ และจงนำของฝากมาให้ท่านทั้งสองอย่างสม่ำเสมอ  ท่านจงกตัญญูรู้คุณต่อการเลี้ยงดูและความเหนื่อยยากของทั้งสองที่มีต่อท่าน  และท่านจงพิจารณาดูบรรดาบุตรของท่านเถิด  ซึ่งพวกเขาก็จะกระทำเหมือนกับที่ท่านได้ปฏิบัติต่อบิดามารดาของท่าน

21. ลูกที่ดีในอิสลาม มนุษย์ที่มีสิทธิ์ในการให้เกียรติยิ่งคือ มารดา หลังจากนั้น  บิดา  และท่านจงรู้เถิดว่า  สวรรค์นั้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา

22. ลูกที่ดีในอิสลาม จงระวังการทรพีและสร้างความไม่พอใจต่อท่านทั้งสอง  จนเป็นเหตุให้ท่านต้องเป็นคนเลวทั้งในโลกนี้และโลกหน้า และต่อไปบรรดาลูก ๆ ของท่านก็จะปฏิบัติต่อท่านเฉกเช่นที่ท่านได้ปฏิบัติต่อบิดามารดาของท่าน

23. ลูกที่ดีในอิสลาม เมื่อท่านต้องการสิ่งใดจากท่านทั้งสอง  ก็จงอ่อนโยนและขอบคุณหากทั้งสองได้มอบให้  และท่านจงผ่อนปรนเมื่อทั้งสองงดให้แก่ท่าน  และท่านก็จงอย่าขอสิ่งใดให้มากนักเพื่อท่านจะได้ไม่รบกวนท่านทั้งสอง

24. ลูกที่ดีในอิสลาม เมื่อท่านกลายเป็นผู้สามารถประกอบอาชีพได้แล้ว  ดังนั้น  ท่านก็จงทำงานและช่วยเหลือท่านทั้งสอง

25. ลูกที่ดีในอิสลาม ท่านย่อมมีสิทธิหน้าที่ที่มีต่อบิดามารดาของท่าน  และมีต่อภรรยาของท่าน  ดังนั้นท่านจงให้ตามสิทธิ์ที่ชอบธรรม  และพยายามให้ทั้งสองมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเกี่ยวกับกรณีที่มีการพิพาษเกิดขึ้น  และจงมอบของกำนัลให้แก่ทั้งสองฝ่ายแบบลับ ๆ

26. ลูกที่ดีในอิสลาม เมื่อบิดามารดาของท่านโต้แย้งกับภรรยาของท่าน  ดังนั้น  ท่านก็จงเป็นผู้มีความชาญฉลาด  และจงทำให้ภรรยาเข้าใจว่าท่านอยู่พร้อมกับนางหากว่าความถูกต้องอยู่ที่ฝ่ายนาง  และท่านจำเป็นต้องวอนให้บิดามารดาอภัยและมีความพอใจต่อท่าน

27. ลูกที่ดีในอิสลาม เมื่อท่านขัดแย้งกับบิดามารดาเกี่ยวกับเรื่องการต่างงานและการหย่า  ดังนั้น  พวกท่านก็จงให้หลักตัดสินของศาสนา  ซึ่งเป็นสิ่งที่ดียิ่งที่จะมาช่วยเหลือสำหัรบพวกท่าน

28. ลูกที่ดีในอิสลาม การดุอาอ์ของบิดามารดาย่อมถูกตอบรับ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ก็ตาม   ดังนั้น  ท่านจงระวังการขอดุอาของท่านทั้งสองที่เกี่ยวกับสิ่งไม่ดีที่ต้องการให้ประสบแก่ตัวท่าน

29. ลูกที่ดีในอิสลาม มีการปฏิบัติดีต่อเพื่นมนุษย์  ดังนั้น ผู้ใดทำการด่าทอเพื่อนมนุษย์  แล้วพวกเขาก็ด่าทอท่าน  ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ กล่าวว่า "ส่วนหนึ่งจากบาปใหญ่นั้นคือ  ชายคนหนึ่งได้ด่าทอบิดามารดาของเขา  แล้วเขาก็ด่าทอบิดาของชายคนนั้น  จนเป็นเหตุให้มีการด่าบิดามารดาของกันและกัน"

30. ลูกที่ดีในอิสลาม จงเยี่ยมเยือนบิดามารดาของท่านทั้งสอง  ไม่ว่าในขณะที่มีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว  และท่านจงบริจาคท่านและขอดุอาอ์ให้กับท่านทั้งสองให้มาก ๆ ว่า

"โอ้ผู้อภิบาลของฉัน  พระองค์โปรดทรงอภัยโทษให้แก่ฉันและบิดามารดาของฉันทั้งสอง โอ้ผู้อภิบาลของฉัน พระองค์ทรงโปรดเมตตาเอ็นดูต่อท่านทั้งสองเหมือนกับที่ทั้งสองได้เลี้ยงดูฉันแต่ตั้งเยาว์วัย"

ที่มา: www.islammore.com

ภาพจาก อินเทอร์เน็ต

 https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด