อิบรอฮีมบุตรชายของท่านนบีมูฮัมหมัด


33,427 ผู้ชม

ประวัติ อิบรอฮีมบุตรชายของท่านนบีมูฮัมหมัด...


อิบรอฮีมบุตรชายของท่านนบีมูฮัมหมัด(ซล.)

อิบรอฮีมบุตรชายของท่านนบีมูฮัมหมัด

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

ท่านศาสดามูฮัมหมัดกับการมีบุตรชายในวัยชรา

อัลลอฮฺทรงประทานบุตรชายให้แก่ท่านนบีฯจากภรรยา ที่เป็นชาวคอปต์ (อียิปต์) ซึ่งภรรยาคนนี้ของท่านนั้น เป็นสตรีหนึ่งในสองคนที่ อาร์ตบิช็อป นิกายคอปติก ชาวคริสต์แห่งอเล็กซานเดรีย แห่งอียิปต์ที่ท่านส่งสารเชิญชวนให้มารับอิสลาม ได้ตอบรับโดยมอบ ทาสหญิงสองคนและล่อสีขาวมาให้ หนึ่งในสองคนของทาสหญิงนั้นท่านได้แต่งงานด้วย คือ มารีญะฮ์ และได้ยกย่องดูแลนาง ฐานะภรรยา 

เราจะเห็นได้ว่า เมื่อตอนที่ท่านแต่งงานกับภรรยาคนแรกของท่านตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนบี(ศาสนทูต)ของพระเจ้า ที่ชื่อคอดีญะฮ์ซึ่งเป็นหญิงหม้าย ที่เคยมีบุตรกับสามีเก่ามาแล้ว และแก่กว่าท่านถึงสิบห้าปี เมื่ออยู่กับท่านนบีนางก็ยังให้กำเนิดบุตรแก่ท่านถึง หกคน ภรรยาคนแรกของท่านอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่านอยู่ถึงสิบปี จนนางจากไป และท่านได้แต่งงานใหม่เมื่อท่านเข้าสู่วัยห้าสิบต้นๆนั้น แม้ท่านจะมีภรรยาหลายคนในช่วงเวลานั้นด้วยเหตุผลต่างๆกันไป แต่เธอเหล่านั้นก็ไม่เคยมีบุตรเลย แม้ในบรรดาภรรยาของท่านเหล่านั้นจะเป็นสตรีที่มีอายุอยู่ในวัยสาวที่พร้อมจะตั้งครรภ์อยู่หลายคนก็ตาม

เนื่องจากนางมารีญะฮ์นั้นเป็นทาสที่ถูกมอบมาให้ เพื่อลดปัญหากับภรรยาคนอื่นๆของท่าน ท่านจึงไม่ได้สร้างห้องของนางไว้ที่บ้านข้างมัสยิดของท่านเหมือนภรรยาคนอื่นๆ แต่ได้จัดหาบ้านหลังหนึ่งให้แก่นาง มารีญะฮ์ แห่งหนึ่งที่ชานเมืองมะดีนะฮ์ และตำบลนี้ก็ได้ชื่อว่า มัซเราะบัต อุมมุ อิบรอฮีม (บ้านคุณแม่ของอิบรอฮีม) มาจนถึงทุกวันนี้บ้านของนางนั้นล้อมรอบได้ด้วยไร่องุ่น ซึ่งท่านนบีมักจะมาเยี่ยมนางอยู่บ่อยๆ ท่านไม่เคยคาดหวังว่าท่านจะมีบุตรอีกครั้ง หลังจากที่ คอดีญะฮ์ ภรรยาคนแรกของท่านจากไป 

ดังนั้น เมื่อรู้ว่าท่านจะมีบุตร เหตุการณ์นี้ย่อมนำความยินดีมาสู่ท่านเป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านมีอายุใกล้จะหกสิบปีแล้ว ท่านยิ่งมีความรักต่อนางมารีญะฮ์มากขึ้น และท่านนั้นมองนางเป็นอิสระชนและเป็นที่โปรดปรานของท่าน และนางได้คลอดบุตรที่เป็นชายแก่ท่าน ท่านตั้งชื่อให้แก่เขาว่า อิบรอฮีม(อับราฮัม) เหมือนกับนบีในอดีตที่เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งให้รื้อฟื้น หลักการอันถูกต้องในการนับถือพระเจ้าองค์เดียวให้กลับมาสู่โลกอีกครั้ง ผู้ที่สร้าง วิหารกะอ์บะฮ์ บ้านแห่งพระเจ้าไว้ที่เมืองมักกะฮ์ ก่อนหน้าท่านเกิดราวสี่พันปี

อิบรอฮีมบุตรชายของท่านนบีมูฮัมหมัด

ภาพไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

เกิดสุริยะคราสในวันสิ้นใจของลูกชายของท่านศาสดามูฮัมหมัด

ในวันที่ อิบรอฮีม ลูกชายของท่านนบี(ศาสนทูต)มูฮัมหมัดเสียชีวิตนั้น ได้เกิดสุริยะคราสขึ้น มุสลิมหลายคนต่างคิดว่ามันคือ ปาฏิหาริย์ พวกเขาต่างพูดและตีความกันไปในทำนองที่ว่า ดวงอาทิตย์นั้นโศกเศร้าเสียใจไปกับการสิ้นลมของลูกชายของท่านนบี เมื่อท่านนบีได้ยินเข้า ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดที่ฟังดูดีประหนึ่งให้ความสำคัญต่อลูกชายที่ท่านรักยิ่ง อาจจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องเสียหายใดๆก็ได้หากท่านแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจกับคำพูดในแง่ดีเช่นนี้ และปล่อยให้เป็นเรื่องคล้ายกับปาฏิหาริย์อันเพิ่มศรัทธาแก่มุสลิมก็น่าจะได้หากคิดกันแบบผิวเผิน แต่ท่านนบีมิได้ปล่อยให้ความเชื่ออย่างผิดๆนี้ผ่านไปโดยไม่ตักเตือน ท่านได้มองหน้าคนที่กล่าวเช่นนี้ และพูดว่า

“ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์คือเครื่องหมายของพระผู้เป็นเจ้า มันมืดไปมิใช่เพราะการเกิดการตายของใคร เพราะฉะนั้นเมื่อเห็นจันทรุปราคา หรือสุริยุปราคา ก็จงรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้า และหันมาหาพระองค์ด้วยการละหมาด(นมาซ)”

เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ท่านนบีนั้นมั่นคงในแบบอย่างในเรื่องการนับถือพระเจ้าองค์เดียว โดยมิให้สิ่งใดมาทำให้ท่านต้องออกจากหลักการยึดมั่นของอิสลาม บรรดานักเขียนประวัติศาสตร์ของท่านนบีมูฮัมหมัดนั้น เป็นที่ยอมรับกันโดยนักประวัติศาสตร์ทั้งของมุสลิมและตะวันตก และนักบูรพาคดีทั้งหลายว่า ท่านไม่เคยเสียจุดยืนในเรื่องการนับถือพระเจ้าองค์เดียวและไม่เคยขัดแย้งกันในประเด็นนี้เลย
ขอพระเจ้าทรงประทานความเมตตาแก่เราทั้งสอง..อามีน

Abu Abbas bin HumzaH

https://islamhouse.muslimthaipost.com/article/20247

อัพเดทล่าสุด