ท่านศาสดามูฮัมหมัดเป็นคนบ้าจริงหรือ? (ชมคลิป)
"มีบางคนที่บอกว่า(นะอูซุบิลลาฮฺ)ท่านศาสดามูฮัมหมัดเป็นคนบ้า Mythomania (บ้าหรือคลั่งไคล้ที่จะพูดเรื่องไม่จริง)
นี่คือคนที่มีความปกติทางจิต ซึ่งกำลังหยัดเยียดคนอื่นว่าเป็นคนโกหก และเขาก็เชื่อว่านั่นมันเป็นเรื่องจริง
Mythomania คือคนบ้าหรือคลั่งไคล้ที่จะพูดเรื่องไม่จริง และเขาก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และจิตแพทย์ที่รักษาคนประเภทนี้
จะคอยพิสูจน์ให้ข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น มีคนบอกว่า "ฉันเป็นกษัตริย์" จิตแพทย์จะไม่บอกว่าคุณเป็นบ้า แต่จิตแพทย์จะพูดว่า "คุณเป็นกษัตริย์ แล้วราชินีอยู่ไหนล่ะ?"
เขาจะตอบว่า ราชินีของเขาไปหาแม่ของฉัน
แล้วนายกฯอยู่ไหนล่ะ?
เขาตอบว่า นายกฯได้เสียชีวิตแล้ว
แล้วทหารอยู่ไหนล่ะ?
คือยิ่งท่านพิสูจน์ข้อเท็จจริงจากเขาไปเรื่อยฯ...สักพักเขาก็จะยอมพูดว่า"ฉันคิดว่าฉันไม่ได้เป็นกษัตริย์"
และหากท่านยิ่งวิภาคเหตุการณ์จากอัลกรุอาน
อัลกรุอานก็จะให้ข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความหลากหลายข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ด้วย
ฉะนั้นแล้วอัลกรุอานคือ นักบำบัดรักษาชั้นดีเยี่ยมสำหรับพวกเขา Mythomania
ซึ่งไม่ใช่ตำราที่ถูกเขียนโดยคนบ้าหรือคลั่งไคล้ที่จะพูดเรื่องไม่จริง (นะอูซุบิลลาฮฺ)
ยิ่งกว่านั้น..พวกเขายังมาวิพากวิจารณ์และพวกเขาก็เชื่อในทฤษฎีมายาทางศาสนา ที่กล่าวว่าท่านศาสดามูฮัมหมัดนั้นเขียน อัลกรุอานจากความรู้ของเขา จากประสบการณ์ของเขา จากเหตุการณ์ต่างฯและสังคมรอบฯ
เขานั้นไม่รู้เลยว่าเขาคือ ผู้คิดเขียนอัลกรุอาน
บางคนบอกว่าเขาคือ คนบ้า
แต่ความจริงไม่มีหรอกในคนบ้าหรือคนมายาที่สามารถนำมาซึ่งความถูกต้องอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 23 ปี
อัลกรุอานไม่ได้ถูกประทานลงมาในระยะเวลาสั้นฯหรือในหนึ่งวันหรือในช่วงเวลาหนึ่ง
อัลกรุอานไม่ได้ถูกประทานลงมาในระยะเวลาสั้นฯ หรือในหนึ่งวันหรือในช่วงเวลาหนึ่ง แต่อัลกรุอานถูกประทานลงมาซึ่งใช้เวลานานถึง 23 ปีครึ่ง
ไม่มีหรอกคนที่บ้าหรือคนประสาทเสีย จะสามารถนำมาซึ่งความแม่นยำตลอดระยะเวลา 23 ปีครึ่ง และมีตัวอย่างหลายเหตุการณ์ เช่นในซูเราะห์อัลกะฮฺฟี โองการที่22
เมื่อท่านบีมูฮัมหมัด(ซล.) ถูกถามเกี่ยวกับเรื่องของชาวถ้ำ..เรื่องราวของซุลก็อรนัยน์...
ท่านกล่าวว่า "พรุ่งนี้ฉันจะตอบพวกท่าน"
แต่ท่านนบีไม่สามารถตอบได้ในวันพรุ่งนี้ ท่านจึงต้องเลื่อนเวลาตอบคำถามจนถึง 15 วัน จนกระทั่งโองการได้ถูกประทานลงมา ในซูเราะห์ อัลกะฮฺฟี โองการที่ 23-24
ความว่า "และเจ้าอย่ากล่าวเกี่ยวกับสิ่งใดว่า “แท้จริงฉันจะเป็นผู้ทำสิ่งนั้นในวันพรุ่งนี้”
เว้นแต่อัลลอฮ์ทรงประสงค์ จงรำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าของเจ้าเมื่อลืม และจงกล่าวว่า “บางทีพระผู้เป็นเจ้าของฉันจะทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องที่ใกล้กว่านี้แก่ฉัน”
นึกถาพดูซิ!..นานถึง 15วัน ทำไมวจนะถึงไม่ประทานลงมาและแล้วอัลลอฮฺจึงประทานวจนพลงมาว่า " และเจ้าอย่ากล่าวเกี่ยวกับสิ่งใดว่า “แท้จริงฉันจะเป็นผู้ทำสิ่งนั้นในวันพรุ่งนี้ โดยมิได้กล่าวว่า อินชาอัลลอฮฺ
แต่พอเราได้พิสูจน์แล้ว..ท่านนบีจะเป็นคนบ้าได้ยังไง? พวกเขาก็แถไปว่า "ไม่..เขา(มูฮัมหมัด)เป็นคนโกหก"
พอเราพิสูจน์ว่าท่านนบีไม่ใช่คนโกหก พวกเขาก็กล่าวหาว่า ท่านนบีเป็นทั้งสองอย่าง ทั้งบ้าทั้งโกหก
คนอาจจะเป็นคนบ้าได้หรือเป็นคนโกหกได้...แต่ไม่สามารถเป็นทั้งสองอย่างได้
เพราะเมื่อท่านถามคนบ้า คนบ้าจะตอบโดยไม่สนใจว่า มีเหตุผลหรือไม่มีก็ตาม
ส่วนคนโกหกเขาจะคิดก่อนแล้วค่อยฯพยายามให้คำตอบ
ฉะนั้นทั้งสองมันจะขัดแย้งกัน และเราทราบว่าท่านนบีไม่ใช่คนบ้า,ไม่ใช่คนโกหก ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
ดังนั้นด้วยกับคำตอบเหล่านี้ทั้งหมด เราสามารถเข้าใจแล้วว่า ท่านนบีมูฮัมหมัด(ซล.)ไม่ได้้เป็นคนคิดเขียนอัลกรุอานแต่อย่างใด
ดร.ซากิร ไนค์