สิทธิและหน้าที่ระหว่างสามีและภรรยา ในศาสนาอิสลาม ที่มุสลิมทุกคนควรรู้
สิทธิและหน้าที่ระหว่างสามีและภรรยา ในศาสนาอิสลาม ที่มุสลิมทุกคนควรรู้
หน้าที่ของสามีที่มีต่อภรรยาดังนี้ คือ
1.) จะต้องปฏิบัติตนในฐานะผู้นำของครอบครัว โดยมีความซื่อสัตย์ มีความเมตตา กรุณา มีความรัก มีความเห็นอกเห็นใจ มีความขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ เพื่อเลี้ยงดูและดูแลครอบครัว
อัลลอฮ์ ตรัสว่า "ชายทั้งหลายคือผู้ดูแลหญิง ด้วยความโปรดปรานที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานมายังบางคนเหนืออีกบางคน และด้วยสิ่งที่พวกเขาได้จ่ายไป" (อันนิซาอ์ - 34)
2.) จะต้องให้เกียรติต่อภรรยาโดยการปรึกษาหารือกับนางในกิจการต่างๆของครอบครัว
อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า "และสูเจ้าทั้งหลายจงอยู่ร่วมกับพวกนางด้วยความดี"(อันนิซาอ์ - 9)
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "ผู้ที่ดีที่สุดของพวกท่าน คือผู้ที่ดีที่สุดต่อครอบครัวของเขา"(ตริมีซีย์)
หากว่าภรรยาปฏิบัติตนไม่เหมาะสมสามีจะต้องตักเตือนนาง โดยบอกให้นางได้รู้ว่านางกำลังฝ่าฝืนคำสั่งของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงโกรธกริ้ว และพระองค์จะทรงลงโทษนาง ถ้าหากนางไม่เชื่อฟังให้ลงโทษนางโดยไม่นอนร่วมห้องกับนาง ถ้าไม่เป็นผลให้ลงโทษนางสถานเบาโดยตีด้วย"มิสวาก"(ไม้ที่ใช้สำหรับใช้ถูฟัน)
3.) จะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูแก่ภรรยาตามความเหมาะสม
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "สำหรับนางทั้งหลายมีสิทธิ์เหนือพวกท่านทางเครื่องยังชีพของพวกนาง และเครื่องแต่งกายของพวกนางโดยดี" (มุสลิม)
4.) จะต้องให้ความรู้ทางศาสนาแก่นาง และห้ามปรามมิให้นางปฏิบัติสิ่งที่เป็นการละเมิด บทบัญญัติของอัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา
พระองค์ทรงตรัสว่า "โอ้ผู้ศรัทธาแล้วทั้งหลาย เจ้าทั้งหลายจงป้องกันตัวของพวกเจ้า และครอบครัวของเจ้าให้พ้นจากไฟนรก"(อัตตะห์รีม 6)
5.) ห้ามไม่ให้สามีและภรรยานำความลับส่วนตัวร่วมกัน ไปเล่าให้ผู้อื่นฟัง
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "แท้จริงบุคคลที่เลวที่สุด ณ อัลลอฮ์ ในวันกิยามะฮ์คือ ผู้ชายที่อยู่ตามลำพังกับภรรยาของเขา โดยที่เขาได้เปิดเผยแก่ภรรยาของเขา และภรรยาของเขาก็ได้เปิดเผยแก่เขา แล้วเขาก็นำเอาความลับของนางมาเปิดเผย" (มุสลิม)
6.) จำเป็นที่สามีจะต้องประกอบอาชีพโดยสุจริต แสวงหาทรัพย์สินที่หะล้าล(ที่ดี)มาเลี้ยงครอบครัว
พระองค์ทรงตรัสว่า "โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงบริโภคจากสิ่งที่ดีๆ ซึ่งสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า และจงขอบคุณต่ออัลลอฮ์เถิด"(อัลบะเกาะเราะฮ์ 172)
หน้าที่ของภรรยาที่มีต่อสามีดังนี้ คือ
1.) จะต้องปฏิบัติตัวโดยอยู่ในโอวาทและเชื่อฟังสามี ในเมื่อการเชื่อฟังนั้นชอบด้วยบัญญัติศาสนา
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "แท้จริงการเชื่อฟังนั้นอยู่ในความถูกต้องตามบทบัญญัติศาสนาเท่านั้น"
2.) จะต้องดูแลบ้านและลูกๆ พร้อมทั้งรักษาทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้าน ไม่ให้ชำรุดสูญหาย
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "และผู้หญิงเป็นผู้ดูแลบ้านของสามี และนางจะต้องรับผิดชอบต่อการดูแลของนาง"(มุดตะฟักอะลัยฮิ)
3.) เมื่อสามีเรียกให้นางร่วมหลับนอน จำเป็นที่นางจะต้องปฏิบัติตาม
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "เมื่อชายคนหนึ่งเรียกให้ภรรยาของเขาไปยังที่นอนของเขา(ร่วมหลับนอน) นางไม่ยอมไปหาเขา แล้วสามีหลับนอนไปโดยมีความโกรธนาง มลาอิกะฮ์จะสาปแช่งนางจนกระทั่งรุ่งเช้า"(บุคอรีย์และมุสลิม)
4.) เมื่อภรรยาจะไปทำธุระนอกบ้านจะต้องบอกให้สามีทราบ ถ้าสามีอนุญาตินางจึงออกไปนอกบ้านได้ หากไม่มีความจำเป็นนางไม่ควรไปเตร็ดเตร่อยู่นอกบ้าน
อัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า "และนางทั้งหลายจงอยู่ภายในบ้านของพวกนาง พวกนางอย่าได้ออกไปโอ้อวดโฉม ดังเช่นการโอ้อวดของชนสมัยยุคญาฮิลิยะฮ์(ยุคแรกก่อนอิสลาม)"(อัลอะห์ซาบ 33)
5.) เมื่อนางจะออกจากบ้าน นางจะต้องไม่ใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นโชย เพราะ
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "หญิงใดที่ใส่น้ำหอม แล้วนางออกจากบ้านเดินผ่านกลุ่มชนหนึ่ง พวกเขาได้กลิ่นหอมของนาง นางคือหญิงที่ทำซินา(ผิดประเวณี) และสายตาทุกคู่(ที่มองดูนาง) ก็ได้ทำซินาเช่นกัน(ผิดประเวณี)"(อะหมัด นะซาอี และฮากิม)
6.) จำเป็นที่นางจะต้องใช้จ่ายเงินทองอย่างประหยัด อย่างมีคุณค่า อย่าได้ทำการใดเกี่ยวกับครอบครัวโดยพละการ และอย่าได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของสามีไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสามี
7.) ต้องมีความตักวา(ยำเกรง) เตือนสามีให้มีความยำเกรง แสวงหาริสกีที่หะล้าลมาเลี้ยงครอบครัว
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า "มนุษย์ที่มีความทุรนทุรายมากที่สุดในวันกิยามะฮ์ คือ ผู้ชายที่แสวงหาทรัพย์สินจากสิ่งที่ไม่เป็นที่อนุมัติ(หะล้าล) สำหรับเขาแล้ว มันก็ได้นำเขาเข้านรก"
8.) จำเป็นที่ภรรยาต้องให้เกียรติและอยู่ในโอวาทของสามี ในฐานะที่สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว อย่าได้แสดงอำนาจหรือใช้คำดูถูกเหยียดหยามผู้เป็นสามีอย่างเด็ดขาด
ท่านหุซอยน์ อิบนุมิห์ซอน กล่าวว่า"อาหญิงของเขาได้ไปหาท่านนะบีมุฮัมมัด
ท่านนะบีได้ล่าวกับนางว่า เธอมีสามีแล้วหรือ
นางกล่าวว่า มีค่ะ
ท่านนะบีกล่าวว่า แล้วเธอปฏิบัติอย่างไร
นางกล่าวว่า ฉันไม่ชักช้าในการปฏิบัติต่อเขา นอกจากสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำได้
ท่านนะบีกล่าวว่า แล้วเธอมีฐานะเช่นใดกับเขา แท้จริงเขาคือสวรรค์ของเธอ หรือนรกของเธอ"อีกหะดิษหนึ่งกล่าวว่า
"หญิงใดที่ตายไป โดยที่สามีของนางพอใจในตัวนาง นางจะได้เข้าสวรรค์"
9.) สร้างบรรยากาศ เพื่อสร้างความชื่นอกชื่นใจ มีความยินดี มีความอิ่มเอิบใจ มีความอบอุ่นใจ เพื่อให้สามีคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน
10.) จำเป็นที่ภรรยาต้องสำนึกอยู่เสมอว่า อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา ทรงเฝ้าดูนางอยู่ในฐานะที่นางมีหน้าที่ดูแลบ้านเรือนและลูกๆ ดังนั้นจำเป็นที่นางจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของนางอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ รักษาเกรียติของนางและของสามี ไม่ว่าจะต่อหน้าและลับหลังสามีก็ตาม
11.) ควรแบ่งเบาภาระของสามี และไม่สร้างความหนักอกหนักใจให้แก่สามี โดยไม่เรียกร้องในสิ่งที่เกินความสามรถของสามีที่สรรหามาได้ พึงระลึกอยู่เสมอว่า ผู้ที่มีเกรียติ ณ อัลลอฮ์ ซุบฮาน่าฮูว่าตะอาลา คือผู้ที่มีความเกรงกลัว(ตั๊กวา) ต่ออัลลอฮ์ มากที่สุดเท่านั้น มิใช่ผู้ที่ร่ำรวยที่สุด ผู้ที่มีอำนาจ ผู้ที่มีชื่อเสียง ผู้ที่มีความสามารถมากที่สุด
ที่มา : ชมรมผู้บริหารมัสยิดหนองจอก