อกแม่จะแตก ลูก(มุสลิม)จะแต่งงานกับต่างศาสนิก ช่วยด้วย!


2,862 ผู้ชม

มุสลิมในปัจจุบันแต่งงานกับคนต่างศาสนิกเพิ่มมาขึ้น จะมีวิธีป้องกันอย่างไร?


มุสลิมในปัจจุบันแต่งงานกับคนต่างศาสนิกเพิ่มมาขึ้น จะมีวิธีป้องกันอย่างไร?

ตอบโดย อ.มุรีด ทิมะเสน

ศาสนาอนุญาตให้มุสลิมทั้งชายหญิงแต่งงานกับศาสนิกอื่น โดยมีเงื่อนไขว่า ศาสนิกอื่นนั้นจำเป็นจะต้องศึกษาอิสลามจนเกิดความศรัทธาอย่างแน่นแฟ้นและมั่นคงในการปฏิบัติศาสนกิจที่มีบัญญัติไว้ ดังหลักฐานในสูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 221

وَلَا تَنكِحُوا الْمُشْرِكَاتِ حَتَّىٰ يُؤْمِنَّ وَلَأَمَةٌ مُّؤْمِنَةٌ خَيْرٌ مِّن مُّشْرِكَةٍ وَلَوْ أَعْجَبَتْكُمْ وَلَا تُنكِحُوا الْمُشْرِكِينَ حَتَّىٰ يُؤْمِنُوا وَلَعَبْدٌ مُّؤْمِنٌ خَيْرٌ مِّن مُّشْرِكٍ وَلَوْ أَعْجَبَكُمْ أُولَٰئِكَ يَدْعُونَ إِلَى النَّارِ وَاللَّهُ يَدْعُو إِلَى الْجَنَّةِ وَالْمَغْفِرَةِ بِإِذْنِهِ وَيُبَيِّنُ آيَاتِهِ لِلنَّاسِ لَعَلَّهُمْ يَتَذَكَّرُونَ

ความหมาย:  "และพวกเจ้าจงอย่าแต่งงานกับหญิงมุชริก จนกว่านางจะศรัทธา และทาสหญิงที่เป็นผู้ศรัทธานั้นดียิ่งกว่าหญิงที่เป็นมุชริก แม้ว่านางได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม และพวกเจ้าจงอย่าให้แต่งงานกับบรรดาชายมุชริก จนกว่าพวกเขาจะศรัทธา และทาสชายที่เป็นผู้ศรัทธานั้นดีกว่าชายมุชริก และแม้ว่าเขาได้ทำให้พวกเจ้าพึงใจก็ตาม ชนเหล่านี้แหละจะชักชวนไปสู่ไฟนรกและอัลลอฮ์นั้นทรงเชิญชวนไปสู่สวรรค์ และไปสู่การอภัยโทษ ด้วยอนุมัติของพระองค์ และพระองค์จะทรงแจกแจงบรรดาโองการของพระองค์แก่มนุษย์ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รำลึกกันได้"

อายะฮฺข้างต้นถูกประทานลงมาโดยมีสาเหตุดังนี้

ฃอบู มิรฺบัด อัลเฆาะนาวีย์ เป็นบุคคลที่ท่านรสูลุลลอฮฺ (ซ.ล.) ส่งไปยังนครมักกะฮฺอย่างลับๆ เพื่อนำเศาะหาบะฮฺของท่านรสูล (ซ.ล.) คนหนึ่งออกจากมักกะฮฺ (ที่มักกะฮฺนี่เอง) มีสตรีท่านหนึ่งที่อบู มิรฺษัดชอบพอนางมากในสมัยญาฮิลียะฮฺ โดยนางมีชื่อว่า “อะนากฺ” นางเข้ามาหาเขาพร้อมกล่าวแก่เขาว่า “ที่จริงอิสลามได้ทำสิ่งที่อยู่ในสมัยญาฮิลียะฮฺเป็นที่ต้องห้าม (หมายถึงอบู มิรฺษัด ขณะอยู่ในสมัยญาฮิลียะฮฺขอบพอกับนางอะนากฺ ครั้นเมื่อเขาเป็นมุสลิมแต่นางมิได้เป็นมุสลิมด้วย จึงทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถแต่งงานกันได้เพราะนับถือกันคนละศาสนา) นางกล่าวต่ออีกว่า ท่านจงแต่งงานกับฉันเถิดเขากล่าวตอบว่า ไม่ได้หรอก จนกว่าฉันจะขออนุญาตต่อท่านรสูล  (ซ.ล.) เสียก่อนจากนั้นเขาจึงมาหาท่านรสูล  (ซ.ล.) และขออนุญาตแต่งงานกับนางด้วยสาเหตุที่เขาเป็นมุสลิมและนางอะนากฺเป็นมุชริก อายะฮฺข้างต้นจึงถูกประทานลงมา”

ศาสนาไม่อนุญาตให้แต่งงานกับศาสนิกอื่น หากเขามิได้ศรัทธาอย่างจริงจังหรือศึกษาแล้วแต่ไม่เกิดความศรัทธาและไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของอิสลาม ถือว่าไม่อนุมัติให้แต่งงานเช่นเดียวกัน

ส่วนอาจมีบุคคลหนึ่งตั้งคำถามเช่นนั้นศาสนิกอื่นจะศึกษาอิสลามนานเท่าใด คำตอบคือ ศึกษาจนกว่าบุคคลนั้นๆ จะศรัทธา ทั้งนี้อาศัยหลักฐานจากอายะฮฺอัล-กุรอานข้างต้นที่ใช้สำนวนว่า “จนกว่านางหรือเขาจะศรัทธา” ฉะนั้น คำว่า “จนกว่า” จึงมิได้กำหนดตายตัวว่าประมาณกี่วันกี่เดือน หรือกี่ปี ศรัทธาด้วยความจริงใจเมื่อไรก็แต่งงานได้เมื่อนั้น

จากท่านนาฟีอฺ แท้จริงท่านอิบนุ อุมัรฺเคยถูกถามปัญหาในเรื่องการแต่งงานกับสตรีชาวคริสเตียนและสตรีชาวยิว ท่านอิบนฺ อุมัรฺจึงกล่าวตอบว่า “แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺทรงห้ามแต่งงานกับสตรีที่ตั้งภาคีกับชายผู้ศรัทธา และฉันยังไม่เคยเห็นการตั้งภาคีใดที่เลวร้ายยิ่งไปกว่า สตรีนางหนึ่งกล่าวว่า พระผู้อภิบาลของฉันคืออีซา และอีซาเป็นบ่าวคนหนึ่งของพระองค์อัลลอฮฺ”

https://islamhouse.muslimthaipost.com/

อัพเดทล่าสุด