ความประเสริฐของซูเราะอัลวากีอะห์ คำอ่านพร้อมคำแปลไทย
ซูเราะห์อัลวากีอะห์ นี้กล่าวครอบคลุมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในวันกิยามะห์ และสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น ความหวาดกลัว การแบ่งแยกมนุษย์ออกเป็นสามกลุ่ม คือกลุ่มขวา กลุ่มซ้าย และกลุ่มแนวหน้า
ซูเราะห์อัลวากีอะห์ นี้ได้กล่าวถึงชะตากรรมของทุก ๆ กลุ่ม และสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ. ) ทรงจัดเตรียมไว้ให้กับพวกเขา คือการตอบแทนอย่างยุติธรรมในวันแห่งการตัดสิน นอกจากนี้ยังได้พิสูจน์หลักฐานให้เป็นที่ประจักษ์ถึงการมี และการเป็นเอกภาพของพระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ. ) และเดชานุภาพอย่างสมบรูณ์ของพระองค์ในการสร้าง และการประดิษฐ์ของพระองค์อย่างสวยงามที่สุด ในการสร้างมนุษย์ ในการสร้างพืชพันธุ์ต่าง ๆ ให้งอกเงยขึ้น ในการให้น้ำฝนโปรยปรายลงมา และสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้เกิดพลังในนรก ซูเราะห์ได้กล่าวถึงอัล-กุรอานนุลอะซีม ว่าเป็นการประทานลงมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก และสิ่งที่มนุษย์จะได้พบกับความหวาดกลัว และความหนักใจขณะจวนจะตาย
ซูเราะห์อัลวากีอะห์ ได้จบลงด้วยการกล่าวถึงบุคคลสามจำพวก พวกเขาเหล่านั้น คือกลุ่มที่มีความสุข กลุ่มที่มีความทุกข์ และกลุ่มแนวหน้าที่แข่งขันกันไปสู่ความดี คือพวกที่ได้รับความโปรดปราน ซูเราะห์อัลวากีอะห์ ได้ชี้แจงบั้นปลายของทุก ๆ กลุ่ม ทั้งหมดนี้ได้กล่าวไว้อย่างละเอียดตามที่ปรากฎอยู่ในตอนต้น ๆ ของซูเราะห์ และได้กล่าวสรรเสริญเยินยอด้วยการกล่าวถึงคุณงามความดีของกลุ่มแนวหน้าที่มีความใกล้ชิดทั้งในตอนเริ่มและตอนจบของซูเราะห์อัลวากีอะห์
ความประเสริฐของ ซูเราะห์อัลวากิอะห์ คือ ไม่ยากจน
ท่านนบีมูฮัมหมัด ( ซ.ล. ) ได้กล่าวว่า “ ผู้ใดอ่านซูเราะห์อัลวากิอะห์ทุกคืน ความไม่ยากจนจะไม่ประสบแก่เขา ” ( รายงานโดย บัยหะกี )
ด้วยพระนามขออัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
1. เมื่อเหตุการณ์ ( วันกิยามะห์ ) ได้เกิดขึ้น
2. ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธต่อเหตุการณ์ของมัน
3. ต่อเหตุการณ์นั้นทำให้กลุ่มชนหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง
4. เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
5. และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย
6. และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน
7. และพระเจ้าจะแยกออกเป็น 3 กลุ่ม
8. คือกลุ่มทางขวา ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย ) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร ?
9. และกลุ่มทางซ้าย ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย ) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร ?
10. และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า
11. เขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด
12. ในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ
13. เป็นกลุ่มชนจำนวนมาก จากชนรุ่นก่อน
14. และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อย จากชนรุ่นหลัง ๆ
15. โดยอยู่บนเตียงที่ประดับด้วยทองคำ
16. พวกเขานอนเอกเขนกอยู่บนนั้น โดยผิวหน้าเข้าหากัน
17. มีเด็ก ๆ ที่มีอายุเช่นนั้น วนเวียนรับใช้พวกเขาตลอดไป
18. ถ้วยภาชนะใหญ่ และแก้วที่มีหู และจอกใส่สุราที่ไหลรินมา
19. พวกเขาจะไม่มึนศีรษะ และไม่หมดสติเมื่อดื่มสุรานั้น
20. และผลไม้หลากชนิดตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน
21. และเนื้อนกที่พวกเราอยากรับประทาน
22. และหญิงสาวที่มีนัยตาคมสวยงาม
23. ประหนึ่งไข่มุกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี
24. ทั้งนี้เป็นการตอบแทนเนื่องจากความดีที่พวกเขากระทำไว้
25. ในสวนสวรรค์นั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินคำพูดที่ไร้สาระ และเป็นบาป
26. เว้นแต่คำกล่าวที่ว่า ศานติศานติ
27. และกลุ่มทางขวา ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา ) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางขวาเป็นอย่างไร ?
28. ( พวกเขา ) อยู่ภายใต้ต้นพุทราที่ไร้หนาม
29. และต้นกล้วยที่ออกผลเป็นเครือตั้งแต่ยอดจรดโคนต้น ( ไม่เห็นลำต้น )
30. และร่มเงาที่แผ่กระจาย
31. และน้ำที่ไหลรินตลอดเวลา
32. และผลไม้อันมากหลาย
33. โดยไม่หมดสิ้นตามฤดู และไม่เป็นที่ต้องห้าม
34. และเตียงนอนที่ถูกยกให้สูงขึ้น
35. แท้จริง เราได้บังเกิดพวกนางเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ
36. แล้วเราได้ทำให้พวกนางเป็นสาวพรหมจรรย์
37. เป็นที่น่ารักชื่นชมแก่คู่ครอง อยู่ในวัยสาวคราวเดียวกัน
38. สำหรับกลุ่มทางขวา ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา )
39. ( คือ ) กลุ่มชนจากรุ่นก่อน ๆ
40. และกลุ่มชนจากรุ่นหลัง ๆ
41. และกลุ่มทางซ้าย ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย ) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางซ้ายเป็นอย่างไร ?
42. อยู่ในลมร้อน และน้ำกำลังเดือด
43. อยู่ใต้ร่มเงาของควันที่ดำทึบ
44. ไม่ร่มเย็น และไม่เป็นที่น่าชื่นชม
45. แท้จริง พวกเขาแต่กาลก่อนนั้นเป็นพวกเจ้าสำราญ
46. และพวกเขาเคยดื้อรั้นในการทำบาปใหญ่ ๆ อยู่เป็นเนือง
47. และพวกเขาเคยกล่าวว่า เมื่อเราตายไปแล้ว และเราได้กลายเป็นดินผง และกระดูกป่น แล้วเราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพอีกกระนั้นหรือ ?
48. และรวมทั้งบรรพบุรุษของเราแต่กาลก่อนนั้นด้วยหรือ ?
49. จงกล่าวเถิด ( มูฮัมหมัด ) แท้จริง ชนรุ่นก่อน ๆ และรุ่นหลัง ๆ นั้น
50. จะถูกรวบรวมไว้จนกระทั่งถึงวันอันเป็นที่รู้กัน ( คือวันกิยามะห์ )
51. แล้วรวมทั้งพวกเจ้าอีกด้วย โอ้บรรดาผู้หลงผิด บรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหลาย
52. แน่นอน พวกเจ้าจะเป็นผู้กินต้นซักกูม
53. และพวกเขาจะใส่มันเข้าไปเต็มท้อง
54. และพวกเขาจะดื่มน้ำกำลังเดือดตามลงไป
55. พวกเขาจะดื่มน้ำ เช่นการดื่มของอูฐที่กระหายน้ำจัด
56. นี่คือที่พำนักของพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน
57. เรานั้นได้สร้างพวกเจ้าขึ้นมา ไฉนพวกเจ้าจึงไม่เชื่อ ( ในวันฟื้นคือชีพ )
58. พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหลั่นออกมา ( อสุจิ ) แล้วมิใช่หรือ ?
59. พวกเจ้าสร้างมันขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้สร้าง
60. เรานั้นเป็นผู้กำหนดความตายขึ้นในระหว่างพวกเจ้า และเราก็จะไม่ถูกขัดขวาง
61. ในการที่เราจะเปลี่ยนบุคคลเยี่ยงพวกเจ้า และเราจะให้พวกเจ้าเกิดขึ้นมาอีกในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้
62. และโดยแน่นอน พวกเจ้าได้รู้มาแล้วถึงการเกิดครั้งแรก แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่ใคร่ครวญ
63. พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหว่านมาแล้วมิใช่หรือ ?
64. พวกเจ้าทำให้มันงอนเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอนเงยขึ้นมา ?
65. หากเราประสงค์ทำให้มันหักเป็นชิ้น ๆ แล้ว แน่นอนเราก็ย่อมทำมันได้ แล้วพวกเจ้าคงประหลาดใจ
66. ( พวกเจ้าจะกล่าวขึ้นว่า ) แท้จริง เราได้รับความหายนะแล้ว
67. ไม่เพียงแต่เท่านั้น เรายังขาดแคลนปัจจัยเพาะปลูกอีกด้วย
68. พวกเจ้าเห็นน้ำที่พวกเจ้าดื่มแล้วมิใช่หรือ ?
69. พวกเจ้าเป็นผู้หลั่งมันลงมาจากก้อนเมฆ หรือว่าเราเป็นผู้หลั่งมันลงมา
70. หากเราประสงค์ เราจะทำให้มันเค็มจัด แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่กตัญญู ?
71. พวกเจ้าเห็นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมาแล้วมิใช่หรือ ?
72. พวกเจ้าเป็นผู้ทำให้ต้นไม้ของมันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกขึ้นมา
73. เราได้ทำให้มันมีขึ้นเพื่อเป็นการเตือนสติ และอำนวยประโยชน์แก่ผู้เดินทางรอนแรม
74. ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด
75. ข้า ( อัลลอฮ์ ) ขอสาบานด้วยตำแหน่งต่าง ๆ ของดวงดาว
76. และแท้จริง มันเป็นการสาบานอันยิ่งใหญ่ หากพวกเจ้ารู้
77. นั่นคือ อัล-กุรอานอันทรงเกียรติ
78. ซึ่งอยู่ในบักทึกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้
79. ไม่มีผู้ใดจะแตะต้องอัล-กุรอาน นอกจากบรรดาผู้บริสุทธิ์เท่านั้น
80. ถูกประทานลงมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
81. และด้วยเรื่องนี้ ( อัล-กุรอาน ) กระนั้นหรือที่พวกเจ้าปฏิเสธเย้ยหยัน ?
82. และทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า พวกเจ้าก็ยังคงปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์ กระนั้นหรือ
83. และเมื่อวิญญาณได้มาถึงคอหอย ( คือกำลังจะตาย ) แล้วพวกเจ้าสามารถยับยั้งไว้ได้หรือ ?
84. และในขณะนั้นพวกกำลังมองดูกันอยู่
85. และเรานั้นอยู่ใก้ลชิดเขายิ่งกว่าพวกเจ้า แต่ทว่าพวกเจ้ามองไม่เห็น ( มลาอิกะห์ )
86. หากว่าพวกเจ้ามิได้อยู่ภายใต้อำนาจของผู้ใด และไม่มีพระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว
87. ไฉนเล่า พวกเจ้าจึงไม่ให้วิญญาณกลับมาสู่ร่างอีก หากพวกเจ้าพูดจริง ?
88. สำหรับผู้ที่หากว่าเขา ( ผู้ตาย ) เป็นผู้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์
89. ดังนั้น ความอิ่มเอิบสดชื่น และสวรรค์อันเป็นที่โปรดปรานจะได้แก่เขา
90. แล้วถ้าหากว่าเขาอยู่ในกลุ่มทางขวา ( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา )
91. ดังนั้น ความปลอดภัยก็จะเป็นของเจ้าในฐานะเป็นผู้อยู่ในกลุ่มทางขวา
( ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา )
92. และหากว่าเขาอยู่ในหมู่ผู้ปฏิเสธ ผู้หลงทาง
93. ดังนั้น สิ่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาก็คือ น้ำร้อนที่กำลังเดือด
94. และเปลวไฟที่ลุกไหม้
95. แท้จริง นี่แหละคือความจริงที่แน่นอน
96. ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามพระเจ้าของเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด
มาฟังและอ่านซูเราะอัลวากีอะห์กัน
ที่มา: http://bisminlah.tripod.com/wakiah.HTM
คลิป: sabikoon