อัลกุรอาน มาจากรากศัพท์ของคำว่า ( قرأ ) มีความหมายเดียวกับคำว่า ( تلا ) ซึ่งแปลว่าการอ่าน หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนจากรากศัพท์ให้เป็นคำนาม เพื่อที่จะหมายถึงคำพูดที่ถูกประทานลงมาให้กับท่านนบีมูฮำมัด ดังที่อัลลอฮ์ ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ของพระองค์ว่า:
قال تعالى: { فَإِذَا قَرَأْنَاهُ فَاتَّبِعْ قُرْآنَهُ} سورة القيامة: 18
" ดังนั้นเมื่อเราอ่าน อัลกุรอาน เจ้าจงติดตามการอ่านนั้น"
อัลกุรอาน คือคำที่บ่งบอกถึงลักษณะ ( وصف ) เป็นคำที่ถูกแยกออกมาจากคำว่า ( القرء ) ซึ่งหมายถึง การรวบรวม ตัวอย่างเช่น " قرأت الشيء قرآناً " หมายถึง ฉันได้รวบรวมสิ่งหนึ่งเอาไว้
ท่านอิบนุลอะษีรได้กล่าวว่า เหตุที่เรียกว่าอัล-กุรอานนั้นเพราะเป็นการรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ทั้งข้อสั่งใช้และข้อห้าม, คำสัญญาและคำขู่, อายะฮ์ต่างๆและซูเราะห์ต่างๆ ( لسان العرب، ص 3563 )
คำนิยามของ อัล กุรอาน ทางด้านวิชาการ
อัลกุรอาน คือ
“ คำพูดของอัลลอฮ์ ที่ได้ถูกประทานลงมาให้กับท่านนบีมูฮำมัด ถ้อยคำของอัลกุรอานเป็นที่น่าอัศจรรย์ การอ่านอัลกุรอานถือเป็นอิบาดะฮ์ ถูกบันทึกไว้เป็นเล่มๆ ถูกถ่ายทอดมายังเราโดยสายรายงานที่ติดต่อกัน “ ( المدخل لدراسة القرآن الكريم، ص 21 )
และอีกความหมายหนึ่งคือ
“ คำพูดของอัลลอฮ์ ที่ถูกประทานลงมาให้กับท่านนบีมูฮำมัด เริ่มต้นด้วยซูเราะห์อัลฟาติฮะห์ และสิ้นสุดด้วยซูเราะห์อัลนาส “ (مناهل العرفان في علوم القرآن ، ص 20 )
7 เหตุผลที่มุสลิมทุกคนต้องอ่านกุรอาน
1. อัลกุรอาน เลียนแบบไม่ได้
อัลลอฮท้าให้เราหาข้อหักล้างกุรอาน ยังไง? นบีกล่าวว่า มนุษย์ไม่สามารถจะเขียนหนังสือเช่นนี้ได้ แม้ว่าจะใช้ความรู้ที่มีอยู่ทั้งหมดในโลกนี้ หรือจะให้วิญญาณต่างๆมาช่วยก็ตาม กุรอานถูกเขียนไว้กว่าพันสี่ร้อยปีมาแล้ว และ ยังไม่มีใครหาข้อหักล้างความรู้ต่างๆ ในกุรอานได้เลย เรามีหนังสือเป็นหลายๆพันล้านเล่ม แต่ไม่มีสักเล่มที่เหมือนอัลกุรอาน
2. อัลกุรอาน ไม่ถูกดัดแปลง
อัลกุรอาน เป็นคัมภีร์ศาสนาเล่มเดียวที่มีมานานและยังคงบริสุทธิ์ เหมือนกับครั้งแรกที่กุรอานถูกเขียนและกล่าวโดยนบีมูฮัมหมัด ศาสนทูตของพระเจ้า กุรอานถูกเก็บรักษาไว้ ไม่มีการแต่งเติม สอดแทรก และไม่ถูกลบออกเลยนับตั้งแต่ได้มีโองการลงมายังนบี นับเป็นเวลากว่าพันสี่ร้อยปีมาแล้ว
3. อัลกุรอาน ไม่มีต่อจากนี้
กุรอานเป็นการเผยโองการต่างๆของพระเจ้าครั้งสุดท้าย หรือ คัมภีร์เล่มสุดท้าย พระเจ้าเผยคัมภีร์เตาร็อต (Torah) แก่ศาสดามูซา คัมภีร์ซะบูร (Psalms of David) แก่ศาสดาดาวูด หรือ เดวิด คัมภีร์ไบเบิ้ล (Gospel) แก่ศาสนาเยซู และ สุดท้าย คัมภีร์กุรอานแก่ศาสดามูฮัมหมัด จะไม่มีคัมภีร์จากพระเจ้าลงมาอีกหลังจากคัมภีร์กุรอาน คัมภีร์เล่มสุดท้าย
4. อัลกุรอาน โต้แย้งไม่ได้
กุรอานทนทานต่อการทดสอบ และพิสูจน์ต่างๆ มายาวนาน ไม่มีใครสามารถโต้แย้งความจริงของหนังสือเล่มนี้ กุรอานกล่าวถึงอนาคตแล้วก็เป็นจริง กล่าวถึงอดีตแล้วมันก็พิสูจน์ได้ว่าถูกต้อง กล่าวถึงรายละเอียดของปรากฏการณ์ทางด้านฟิสิกส์ซึ่งยังไม่มีใครมีความรู้ในเวลานั้น ได้ถูกค้นพบในเวลาต่อมาและได้พิสูจน์ว่ากุรอานนั้นถูกต้องมาตลอด หนังสือเล่มอื่นๆต้องถูกแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับความรู้สมัยใหม่ แต่กุรอานเท่านั้นที่ไม่เคยขัดแย้งกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกค้นพบ
5. อัลกุรอาน เป็นแนวทางของชีวิตและหลังความตาย
กุรอานเป็นหนังสือนำทางชีวิตที่ดีที่สุด ไม่มีหนังสือเล่มไหนที่บอกอย่างเป็นระบบที่ครอบคลุมเกี่ยวเนื่องรอบด้านของชีวิตมนุษย์ กุรอานยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการรักษาความสุขตลอดกาลในชีวิตหลังความตาย และเป็นแนวทางที่แสดงให้เห็นว่าจะเข้าสวรรค์ได้อย่างไร
6. อัลกุรอาน เป็นของขวัญของพระเจ้า
พระเจ้าไม่เคยทิ้งคุณลำพัง คุณถูกสร้างมาอย่างมีเหตุผล พระเจ้าบอกคุณว่าสร้างคุณมาทำไม ต้องการอะไรจากคุณและเตรียมอะไรไว้ให้คุณ ถ้าให้เปรียบเทียบ ถ้าคุณสั่งงานเครื่องจักรตรงข้ามกับที่เครื่องจักรถูกออกแบบมา คุณจะทำเครื่องจักรนั้นพัง ในทำนองเดียวกัน แล้วตัวคุณเองล่ะ? คุณมีวิธีการดำเนินชีวิตซึ่งสร้างมาจากเจ้าของหรือยัง? กุรอานมาจากผู้สร้างคุณ มันเป็นของขวัญสำหรับคุณเพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ก้าวเดินไปอย่างสำเร็จ ลดความผิดพลาดให้น้อยลง มันเป็นการรักษาจากพระเจ้า มันทำให้เรามีความสุข จิตใจสะอาด มันลบล้างความสงสัยและนำมาซึ่งความสันติสุข
7. อัลกุรอาน เป็นบัตรเรียกให้สื่อสารกับพระเจ้า
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราชอบที่จะสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตที่มีปัญญา มีความฉลาด กุรอานบอกเราว่าจะสื่อสารอย่างไร กับต้นกำเนิดของสิ่งมีปัญญา ต้นกำเนิดของชีวิตทั้งมวล นั่นคือ พระเจ้าองค์เดียว กุรอานบอกเราพระเจ้าคือใคร เราควรเรียกด้วยชื่ออะไร และวิธีสื่อสารกับอย่างไร เจ็ดสิ่งนี้ยังไม่เพียงพอที่จะอ่านกุรอานอีกหรอ?
เตือนตนเอง เตือนทุกท่าน...
ที่มา: มหัศจรรย์อัลกุรอาน