7 ประการที่สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบ ผู้หญิงต้องการรับรู้ว่าสามีของเธอรักเธอ และ ผู้ชายต้องการรับรู้ว่าภรรยาของเขาให้เกียรติเขา
แด่ผู้เป็นภรรยาทั้งหลาย
ประการที่ 1 เขาต้องการ "การให้เกียรติ"
"ผู้หญิงต้องการรับรู้ว่าสามีของเธอรักเธอ" และ "ผู้ชายต้องการรับรู้ว่าภรรยาของเขาให้เกียรติเขา"
มันเป็นสิ่งสำคัญที่สตรีมุสลิมะฮฺควรทำความเข้าใจกับ "คุณค่าของการให้เกียรติต่อสามี" โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อ "สามีมุสลิม" ในอิสลามนั้น ผู้ชายได้รับการอบรมสั่งสอนตั้งแต่เมื่อครั้งยังอยู่ในวัยเด็กว่าพวกเขาจำต้องเป็น "ผู้ที่ทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว" และเป็น "ผู้ดูแลคนภายในครอบครัว"
คุณลองคิดดูสิว่า มันเลวร้ายแค่ไหนสำหรับ "ผู้ชายคนหนึ่ง" ที่พยายามอย่างสุดความสามารถในการที่จะดูแลครอบครัวของเขา และการที่ต้องมีชีวิตคู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ให้เกียรติเขาเลย เธออาจจะป่าวประกาศว่าเธอรักเขา แต่เธอปราศจากซึ่ง "การให้เกียรติต่อสามีของเธอ" แน่นอนว่าเขาย่อมหมดรักเธอได้อย่างรวดเร็ว
"ข้อคิดนี้" ได้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน อัลลอฮฺตรัสว่า
"บรรดาบุรุษนั้น คือผู้ที่ทำหน้าที่ปกครองเลี้ยงดูบรรดาสตรี เนื่องด้วยการที่อัลลอฮฺได้ทรงให้บางคนของพวกเขาเหนือกว่าอีกบางคน และด้วยการที่พวกเขาได้จ่ายไปจากทรัพย์ของพวกเขา บรรดาสตรีนั้นคือผู้จงรักภักดี ผู้รักษาในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ลับหลังสามี เนื่องด้วยสิ่งที่อัลลอฮฺทรงรักษาไว้ " (ซูเราะฮฺอันนิซาอฺ 4.34) * คัดลอกจากโปรแกรมอัลกุรอานแปลไทย
ประการที่ 2 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอกว่า.. เขาต้องการ "ความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีของคุณ"
สิ่งนี้ดำเนินควบคู่ไปพร้อมๆ กับ "การให้เกียรติ"
ไม่มีอะไรที่จะทำลาย "ชีวิตการแต่งงาน" ได้เร็วมากไปกว่า "ความคิดที่ว่าคู่ครองของคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อคุณ"
"ความคิดที่ว่าเขาหรือเธอไม่จงรักภักดีต่อคุณ"
ผมไม่ได้กำลังพูดถึงเกี่ยวกับ "การนอกใจ" เพราะนี่คือสิ่งที่มักจะเข้ามาในหัวสมอง เมื่อผู้คนพูดถึงเรื่องของ "ความซื่อสัตย์" ในชีวิตการแต่งงาน
สิ่งที่ผมหมายถึง คือ "การรับรู้ว่า "คนที่คุณเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลือทั้งหมดของคุณร่วมกับแธอ" จะอยู่ตรงนั้นเพื่อคุณเสมอ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการเธอ"
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่ยอมรับข้อเท็จจริงข้อนี้ แต่จริงๆ แล้ว พวกเราต้องการ "พวกเธอ" และพวกเราต้องการกำลังใจ แรงสนับสนุนจากคุณครับ
มันค่อนข้างจะเป็นปัญหาอย่างมากในการที่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่อาจจะไม่อยู่เคียงข้างเรา ในเวลาที่มีสถานการณ์ย่ำแย่หรือยากลำบากเกิดขึ้น
หากคุณ (มุสลิมะฮฺ) มักจะพูดขู่ "เรื่องหย่า" "เรื่องแยกทาง" หรือ "คุละอฺ (การขอหย่าจากภรรยาตามหลักการอิสลาม)" คุณคาดหวังได้ล่วงหน้าเลยว่าชีวิตการแต่งงานของคุณจะต้องพบกับความล้มเหลวในไม่ช้า
สามีของคุณต้องการรู้ว่า "คุณจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ" หากว่า
- เขาตกงาน และสถานการณ์ด้านการเงินย่ำแย่
- เขาพยายามจะทำบางสิ่งบางอย่าง (เช่นการเริ่มทำธุรกิจ หรือกลับไปเรียนอีกครั้ง) แต่ประสบกับความล้มเหลว
- ชื่อเสียงของเขาถูกทำให้เสื่อมเสีย และเกียรติของเขาถูกละเมิด
คุณควรจงรักภักดีต่อสามีคุณก่อนสิ่งอื่นใด ยกเว้น "อัลลอฮฺ" และ "ศาสนทูตมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม"
หากคุณซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อสามีของคุณ คุณมั่นใจได้เลยว่า เขาก็จะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อคุณเช่นกัน
ประการที่ 3 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอกว่า เขาต้องการ "หลับนอน มีความสัมพันธ์กับคุณ" มากกว่าปกติ
ผู้หญิงบางคนอาจจะคิดว่า "ผู้ชาย" ใจคับแคบป่าเถื่อนเหมือนสัตว์ป่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากทว่ามันเป็นความจริงครับ
ผู้ชายต้องการ "การมีความสัมพันธ์รัก" จริงๆ ครับ
ดังนั้นเมื่อคุณภรรยา ให้ข้ออ้างกับสามีของคุณว่า
ฉันปวดหัว
ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย
คุณรอจนกว่าจะถึงสุดสัปดาห์ไม่ได้เหรอ ฉันไม่มีความรู้สึกร่วมด้วยจริงๆ
คุณควรรู้ไว้เลยครับว่า สามีของคุณจะเข้านอน พร้อมกับความรู้สึกขุ่นเคืองต่อคุณอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แม้ว่าเขาจะไม่แสดงมันออกมาก็ตาม
และหากว่าคุณอ้างแบบนี้บ่อยๆ แน่นอนว่าเขาจะเริ่มไม่พอใจคุณ "ความไม่พอใจ ความขุ่นเคือง" ที่จะค่อยๆ ก่อตัวขึ้นและอาจนำพาเขาไปสู่การประพฤติตัวร้ายๆ กับคุณ หรือความรักที่เขาเคยมีให้คนอาจลดลง
จะอย่างไรเสีย ก็ขอให้คุณนึกถึงหะดีษบทนี้ไว้เสมอนะครับ
"เมื่อสามีเรียกภรรยาของเขาให้ไปที่เตียง (เพื่อร่วมหลับนอน) และนางไม่ตอบรับการเรียกร้องนั้น จนทำให้ผู้เป็นสามีเกิดความโกรธเคืองนางไปตลอดทั้งคืน เช่นนั้นมลาอิกะฮฺจะร่วมกันสาบแช่งเธอไปจนถึงรุ่งเช้า" (บุคอรียฺ และมุสลิม)
ประการที่ 4 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอกว่า...เขามีความคิดเกี่ยวกับผู้หญิงอื่น
ก่อนอื่น ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ อย่าเพิ่งหยุดอ่านบทความนี้ ผมขออธิบายให้จบก่อน
ผู้ชายทุกคนต่างก็คิดเกี่ยวกับ "ผู้หญิงอื่น" แต่....
• มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะนอกใจคุณ
• มันไม่ได้หมายความว่า เขากำลังคิดถึงการมีภรรยาคนที่สอง
• มันไม่ได้หมายความว่า เขากำลังมีความคิดเพ้อฝันจินตนาการเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นอยู่
มันแค่หมายความว่า "นี่คือสิ่งที่ ผู้ชาย (ที่เป็นผู้ชายเต็มตัว) ต่างเป็นกัน คือพอถึงจุดๆ หนึ่งในชีวิตของพวกเขา พวกเขาก็จะเกิดความคิดที่จะมีผู้หญิงอีกคน (หมายถึงภรรยา)"
คุณควรที่จะทำความเข้าใจและยอมรับกับธรรมชาตินี้ของผู้ชาย แทนที่จะมีความคิดเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับผู้ชาย
วิธีการที่ดีที่สุดในการที่จะ "ต่อสู้เพื่อเอาชนะ" "ความคิดเหล่านี้ของผู้ชาย" ให้ได้ คือการนำเคล็ดลับที่ผมกำลังจะบอกต่อไปนี้ไปใช้
1. ให้เกียรติเขา
2. ซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเขา
3. ตอบสนองความต้องการ (ความสัมพันธ์รัก) เมื่อเขาต้องการมัน
แต่ถ้าถามว่า .. เขาไม่มีวันที่จะมีภรรยาคนที่สองเลยมั้ย หากคุณทำทั้งสามสิ่งนี้.. บอกตรงๆ เลยครับว่าไม่
แต่เมื่อเขาเผลอคิดเกี่ยวกับผู้หญิงอื่น "คุณค่า ความดีงามของคุณ" ก็จะผุดขึ้นมาในหัวสมองของเขาแทน และเขาก็จะเกิดความรู้สึกต่อต้าน ยับยั้งตัวเองไม่ให้ไปมองหา "คุณสมบัติทั้งสามนี้ (การให้เกียรติ ความจงรักภักดี การตอบสนองความต้องการ)" จากที่อื่น
ดังนั้น พี่น้องมุสลิมะฮฺที่รัก หากคุณเกรงว่าชีวิตการแต่งงานของคุณจะมีปัญหา ขอให้คุณเริ่มทำความเข้าใจตั้งแต่ข้อนี้เป็นข้อแรกเลย
ประการที่ 5 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอก เขาอยากทำให้คุณมีความสุข
คุณสงสัยมั้ยว่าทำไมผู้ชายถึงทำงานหาเงินอย่างหนัก
คุณสงสัยมั้ยว่าทำไมผู้ชายถึงยอมทิ้งงานประจำของเขาและเสี่ยงที่จะทำธุรกิจ
คุณสงสัยมั้ยว่าทำไมผู้ชายถึงชอบซื้อของขวัญให้คุณ
เพราะว่าลึกๆ แล้ว พวกเราต้องการทำให้คุณมีความสุขยังไงหละ
บางครั้งเราอาจจะทำตัวแย่และลืมวันครบรอบสำคัญๆ ของครอบครัว แต่จริงๆ แล้ว หากเป็นไปได้ เราก็อยากจะจำมันให้ได้นะ เพราะเรารู้ว่ามันจะทำให้คุณมีความสุข
ดังนั้น เวลาที่สามีของคุณซื้อของขวัญให้คุณ คุณก็รับมันไปเถอะ และมีความสุขกับมัน ขอบคุณเขาให้มากๆ และใช้มันบ่อยๆ
หากเขาซื้อเครื่องประดับ (เพชรพลอย) ให้คุณ ก็สวมใส่มันซะ
หากเขาซื้อมือถือสมาร์ทโฟนให้คุณ ก็ใช้มัน
หากเขาซื้อรถให้คุณ ก็ขับมัน
และอย่ามัวแต่คอยเข้าไปรบเร้า หรือสร้างความลำบากใจให้เขา เวลาที่เขาไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณคาดหวังให้กับคุณ หรือให้ในสิ่งที่คุณต้องการซะทีเดียว เพราะหากคุณทำเช่นนั้น เขาจะเริ่มรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติ (คำนี้สำคัญมากนะ) ต่อสิ่งที่เขาทำให้คุณ
ประการที่ 6 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอกว่า หากคุณกระตุ้นเขาสักหน่อย เขาก็สามารถที่จะเป็นมุสลิมที่ดีกว่าเดิมได้
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอก
บางทีสามีของคุณอาจจะไม่ใช่นักวิชาการศาสนา เขาอาจจะไม่ใช่มุสลิมที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถที่จะกระตุ้นให้เขาเป็นมุสลิมที่ดีกว่าเดิมได้ แต่ไม่ใช่ด้วยการบังคับให้เขาเป็น
ลองทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ เพื่อช่วยทำให้อิสลามของเขาดียิ่งขึ้น
- เสนอที่จะปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาละหมาดฟัจญรฺ
- สนับสนุน ส่งเสริมให้เขาไปละหมาดที่มัสญิด
- บอกเขาว่า เขาจะดูดีแค่ไหน หากเขาไว้เครา
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความระมัดระวังและเอาใจใส่ในการสรรหาถ้อยคำที่จะพูดกับเขา สัมผัสที่อ่อนโยน การกระทำที่รอบคอบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่มีใครชอบที่จะ "ถูกสั่งสอน" หรอก (จริงมั้ย?)
หากคุณทำได้ คุณก็จะได้รับรางวัลการตอบแทนเป็นสองเท่า
รางวัลการตอบแทนที่ได้จากการได้อยู่ร่วมกับสามีผู้ศรัทธาที่มีคุณธรรม และรางวัลการตอบแทนในโลกหน้าสำหรับการส่งเสริมสนับสนุนเขาให้ยึดมั่นอยู่กับสัจธรรม
"เว้นแต่บรรดาผู้ที่ศรัทธา และผู้ที่กระทำความดีงาม และตักเตือนกันและกันไปสู่สัจธรรม และตักเตือนกันและกันให้มีความอดทน" (ซูเราะอัสรฺ 103.3)
ประการที่ 7 สามีของคุณจะไม่บอกให้คุณทราบหรอกว่า.. เขารักคุณ แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้แสดงมันออกมาก็ตาม
ผมรู้ว่า "ประการสุดท้ายนี้" มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณที่จะเชื่อ แต่มันเป็นความจริงนะ
ผู้ชายเพียงแค่ไม่เก่งในเรื่องของการแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาเท่านั้นแหละ (เว้นแต่เราจะพูดถึงเรื่องกีฬา หรือการเมือง)
เราอาจจะไม่ค่อยบอกภรรยาของเราว่า "ผมรักคุณ" บ่อยเท่าไรนัก
ก็อย่างที่บอกหละนะ ว่าเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ และการที่คุณเปรียบเทียบเรากับท่านเราะสูล (ศาสนทูตมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม) บ่อยๆ ก็จะยิ่งไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย
แน่นอนหละว่า เราควรต้องปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านเราะสูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพวกเราส่วนใหญ่ ก็ทำอย่างดีที่สุดเท่าที่พวกเราสามารถ
เพียงแต่เราอาจจะไม่สามารถปฏิบัติกับคุณ เช่นเดียวกับที่ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมปฏิบัติต่อภรรยาของท่านเท่านั้นเอง
เช่นเดียวกัน มันก็ออกจะไม่ยุติธรรมหากว่าผู้ชายจะคาดหวังว่าภรรยาของพวกเขาจะประพฤติตัวเฉกเช่นท่านหญิงอาอิชะฮฺ และภรรยาท่านอื่นๆ ของท่านเราะสูล
และเพียงเพราะว่าสามีของคุณไม่ปฏิบัติต่อคุณในแบบ (ที่คุณคิด) ที่ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ปฏิบัติต่อภรรยาของท่าน มันก็ไม่ได้หมายความว่า สามีของคุณไม่ได้รักคุณสักหน่อย
มันเพียงแค่หมายความว่า "เขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง"
มันสำคัญมากที่คุณจำต้องเข้าใจต่อสิ่งนี้
- หากว่าเขาดูแลคุณอย่างสุดความสามารถของเขา (อย่าลืมว่า ความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกัน)
- หากเขาไม่ทำร้ายคุณ หรือไปนอนที่อื่น
- หากเขาพยายามที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของคุณอย่างจริงใจ และช่วยเหลือคุณด้วยวิธีการที่ดีที่สุดเท่าที่เขาสามารถจะทำได้
เขียนโดยอบู อิบเราะฮีม
แปลเรียบเรียง เพจการครองคู่ในอิสลาม
islamhouse.muslimthaipost.com