การยิ้มแย้ม แจ่มใส ครองใจคน ในแบบฉบับท่านนบี
ยิ้มแย้ม แจ่มใส
การยิ้มเป็นภาษาที่ไม่ต้องอาศัยการตีความใดๆ เป็นกุญแจสู่หัวใจ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาก็ทะทุทะลวงไปถึงหัวใจ ยิ้มที่อ่อนโยนจะช่วยปัดเป่าทุกความหมองเศร้า ขจัดทุกความบาดหมาง ทำลายทุกสิ่งที่กีดกัน เพียงยิ้มแย้มเข้าไว้ ยิ้มอย่างจริงใจ ยิ้มทุกที่ ยิ้มให้กับทุกคน มีใบหน้าที่สดชื่น มีอารมณ์ที่แจ่มใส ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกอบอุ่นและมีความสุข
ท่านนบี (ซ.ล.) มีรอยยิ้มพิมพ์ใจยากที่จะหาใครเทียบได้ ท่านอับดุลลอฮิ อิบนุล ฮาริษ (ร.ด.)กล่าวไว้ว่า :
“ ฉันไม่เคยเห็นใครยิ้มแย้มแจ่มใสมากไปกว่าท่านร่อซู้ลลุ้ลลอฮฺ เลย ” (บันทึกโดยอิหม่ามอัตติรมิซัย์)
และท่านญะรี้ร (ร.ด.) ก็ได้กล่าวว่า “ ท่านนบี (ซ.ล.) ไม่เคยกีดกันไม่ให้ฉันพบท่านเลย นับตั้งแต่ฉันรับนับถืออิสลาม และคราใดที่ท่านพบฉันท่านจะยิ้มแย้มกับฉัน ” (บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์)
การยิ้มที่อ่อนโยนและจริงใจนั้นไม่เพียงแต่จะครองใจคนได้เพียงอย่างเดียว หากแต่ยังจะเสริมให้ตราชั่งแห่งความดีงามของเรานั้นมีน้ำหนักมากขึ้นในวันกิยามะฮฺ การยิ้มเป็นอิบาดะฮฺ และเป็นการทำทานในเวลาเดียวกัน ดังที่ท่านร่อซูล (ซ.ล.) ได้สั่งสอนประชาชาติของท่านไว้ว่า
“ การที่ท่านยิ้มแย้มเมื่อพบหน้าพี่น้องของท่านนั้น นับเป็นทาน (ซอดะเกาะฮฺ)” (บันทึกโดย อัตติรมิซีย์)
ท่านยังกล่าวกำชับอีกว่า :
“ ท่านอย่าได้ดูถูกที่จะทำความดี แม้เพียงน้อยนิด แม้เพียงพบปะพี่น้องของพวกท่านด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ” (บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
ท่านร่อซูล (ซ.ล.) จะยิ้มเสมอ แม้ในขณะที่ท่านไม่พึงพอใจ ท่านยะก๊ะอฺบิ อิบนิ มาลิก (ร.ด.) ได้มาหาท่านร่อซูล (ซ.ล.) ภายหลังจากที่สารภาพผิดกับเนื้อกลับตัวในการฝ่าฝืนอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ท่านได้กล่าว่า :
“ แล้วฉันก็มาหาท่าน และเมื่อฉันให้สลามท่าน ท่านก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มของผู้ที่ไม่พึงพอใจ ( ในการฝ่าฝืนของยะก๊ะอฺบ) ” (บันทึกโดย อิมามมุสลิม)
ท่านยังยิ้มได้ แม้ในขณะที่มีชายชาวอาหรับชนบทคนหนึ่งได้มาหาท่านและกระชากปลายผกเสื้อคลุมที่เป็นผ้าเนื้อหยาบของท่านอย่างแรง ทำให้เกิดรอยแดงที่คอของท่าน ชายผู้นี้ได้กล่าวกับท่านว่า : “ โอ้มูฮัมหมัด ท่านจงมอบทรัพย์สินของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) ที่อยู่กับท่านให้เราบ้างสิ ท่านร่อซูล (ซ.ล.) หันไปหาเขายิ้มให้เขา และท่านก็กล่าวกับคนของท่านว่า : จัดเงินให้แก่ชายผู้นี้ด้วย ” (บันทึกโดย อิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)
ที่มา: หนังสือ นดา อีซา ฮะกีมี