องค์การ นาซ่า ได้ค้นพบว่า ดวงจันทร์ได้เคยแยกตัวออกเป็นสองซีกและหลังจากนั้นได้ประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม
การผ่าดวงจันทร์ของท่านศาสดา ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว!
ในนครมักกะฮ์ ในค่ำคืนที่ 14 (ของเดือนซุลฮิจญะฮ์) อบูญะฮัลพร้อมด้วยผู้รู้ชาวยิวคนหนึ่ง ได้ไปพบท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และอบูญะฮัลได้กล่าวว่า:
“โอ้มุฮัมมัด! ถ้าหากเจ้าเป็นผู้สัจจริงในการกล่าวอ้างตนเป็นศาสดา ดังนั้น เจ้าก็จงแสดงปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) และสิ่งมหัศจรรย์ให้เราเห็นกับตาเถิด มิเช่นนั้นแล้วเราจะฆ่าเจ้า” ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้กล่าวอย่างใจเย็นว่า: “ท่านต้องการให้ฉันทำอะไร?” อบูญะฮัลได้หันไปหาชาวยิวผู้นั้น โดยกล่าวว่า: “เราจะให้เขาทำสิ่งใดที่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้?”
ชายชาวยิวผู้นั้น กล่าวว่า :“มุฮัมมัดนั้นเป็นนักมายากล ไม่ว่าเราต้องการให้เขาทำสิ่งใดในหน้าแผ่นดินนี้ ดังนั้นท่านจงขอให้เขาแยกดวงจันทร์เถิด เพราะว่ามายากลนั้นจะไม่บังเกิดผลใด ๆ ในท้องฟ้า และนักมายากลนั้นจะไม่สามารถครอบครองสิ่งใดในมันได้ และเมื่อมุฮัมมัดไร้ความสามารถจากการกระทำดังกล่าว เราจะทำการสังหารเขา”
อบูญะฮัลจึงกล่าวว่า : “เจ้าจงแยกดวงจันทร์นี้ให้เราได้เห็นเถิด” ดังนั้น ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จึงวิงวอนขอดุอาอ์ และได้ชี้นิ้วไปยังดวงจันทร์ และได้แยกมันออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งหยุดอยู่กับที่ และอีกซีกหนึ่งได้เคลื่อนที่ไปอีกด้านหนึ่ง และได้ดำเนินไปเช่นนี้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นานนักอบูญะฮัลได้กล่าวว่า: “เจ้าจงทำให้ดวงจันทร์กลับสู่สภาพเดิม” ดังนั้น ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) จึงทำให้ดวงจันทร์ทั้งสองซีกประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม และกลับกลายเป็นดวงจันทร์เพ็ญอีกครั้งหนึ่ง ชายชาวยิวซึ่งเป็นผู้รู้ของศาสนายูดาย เมื่อได้เห็นปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ดังกล่าวของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) เขาได้เข้ารับอิสลาม แต่อบูญะฮัลกลับเกิดความโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า : “เขาได้ปิดตาของเราด้วยมายากล และด้วยกับไสยศาสตร์เขาได้ทำให้เราหลงคิดว่า เขาได้ผ่าดวงจันทร์ให้เราได้เห็น” เพื่อที่จะพิสูจน์คำพูดของตน
อบูญะฮัลได้กล่าวว่า : เราจะถามบรรดาผู้เดินทางทั้งจากไกลและใกล้ เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงเรื่องการแยกของดวงจันทร์ (ชักกุ้ลกอมัร) นี้ เขาได้ถามจากบุคคลเหล่านั้น บรรดาผู้เดินทางต่างกล่าวว่า : “ในช่วงเวลาดังกล่าวของค่ำคืน พวกเราได้เห็นการแยกออกของดวงจันทร์ด้วยกับตาของพวกเรา” แต่อบูญะฮัลก็ยังคงไม่ศรัทธาเช่นเดิม และได้อ้างเหตุผลเช่นนี้ว่า มายากลของมุฮัมมัดได้ส่งผลต่อบรรดาผุ้เดินทางชาวฮิญาซด้วย และบรรดาผู้ปฏิเสธชาวกุเรชผู้ทระนงตนก็ได้เชื่อตามอบูญะฮัล
ชาวกุเรชได้ขอให้ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) แสดงปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) และท่านก็ได้ใช้นิ้วมือชี้ไปยังดวงจันทร์ และดวงจันทร์เพ็ญก็ได้แยกตัวออกเป็นสองซีกด้วยเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า และได้ประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม แล้วหลังจากนั้น โองการนี้จึงถูกประทานลงมาว่า : ا قْترَبَتِ الساعَةُ وَ انشقَّ الْقَمَرُ “ กาลอวสานของโลกใกล้เข้ามาแล้ว และดวงจันทร์ได้แยกออก”
การผ่าดวงจันทร์ของท่านศาสดา ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (ของสหรัฐอเมริกา) หรือ องค์การ "นาซ่า" (NASA) ได้ค้นพบว่า ดวงจันทร์ได้เคยแยกตัวออกเป็นสองซีกและหลังจากนั้นได้ประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิม เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ภาษาอาหรับ "Al- Watan" ตีพิมพ์ในอเมริกา ได้อ้างคำพูดจากนักวิจัยด้านดาราศาสตร์ชาวจอร์แดน ได้เขียนในเรื่องนี้ว่า:
ยานอวกาศ Clementine ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำการสำรวจในการโคจรรอบดวงจันทร์มาเป็นระยะเวลาหลายปีนั้น ได้ไปถึงข้อสรุปว่า ดวงจันทร์เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมาได้แยกตัวออกเป็นสองส่วนเท่ากัน และได้ประกบเข้าด้วยกันเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง นักวิจัยชาวจอร์แดนผู้นี้ ได้ส่งคำรายงานหนึ่งไปยังองค์การนาซ่า (NASA) โดยแจ้งให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า ชาวมุสลิมเชื่อว่าปรากฏการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ 1,400 ปีที่ผ่านมา และมีความเกี่ยวข้องกับปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซะฮ์) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่เรียกว่า
"ชักกุ้ลกอมัร" (การผ่าดวงจันทร์) องค์การนาซ่าไม่สามารถหาคำอธิบายสำหรับการค้นพบของตนได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่หายากนี้ จวบจนถึงขณะนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับเทหะวัตถุแห่งท้องฟ้าใด ๆ มาก่อนเลย บนพื้นฐานของหลักฐานใดทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นตัวพิสูจน์ประเด็นการผ่าดวงจันทร์ (ชักกุลก้อมัร) ของท่านศาสดา (ซ็อลฯ)
กล้องโทรทัศน์ของอเมริกาได้ยืนยัน ถึงการแยกของดวงจันทร์ในช่วงแรกของการเรียกร้องขออิสลาม
การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันได้ค้นพบถึงความจริงในความมหัศจรรย์ของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) เกี่ยวกับเรื่องการผ่วดวงจันทร์ในช่วงแรกของการเผยแผ่อิสลามสู่ประชาชาติ และดังกล่าว ได้รับการยืนยันจากภาพถ่ายดาวเทียมของอเมริกาและได้ทำการเผยแพร่ไปทั่วโลก