เหตุการณ์ที่ฏอริกได้ยกพลขึ้นบก ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหน้าผาสูงตระหง่าน ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อตามชื่อของเขาว่า "ญะบัล อัฏ-ฏอริก" (Jabel At-Tariq)
เหตุการณ์ที่ ฏอริก ได้ยกพลขึ้นบก ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหน้าผาสูงตระหง่าน ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อตามชื่อของเขาว่า "ญะบัล อัฏ-ฏอริก" (Jabel At-Tariq) แปลว่า ภูเขาของฏอริก ซึ่งปัจจุบันก็คือ "ยิบรอลตา" นั่นเอง เมื่อขึ้นฝั่ง เขาสั่งให้เผาเรือทิ้งทั้งหมด และกล่าวว่า "โอ้ พี่น้อง เราไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว ทะเลอยู่ข้างหลังพวกท่าน และศัตรูก็อยู่ตรงหน้าพวกท่าน ข้าสาบานต่อพระเจ้า พวกท่านมีแค่ความตั้งใจและความอดทนเท่านั้น"
เหตุการณ์นี้ มีนักวิชาการหลายคนระบุว่า “ไม่ใช่เรื่องจริง” ซึ่งสามารถศึกษาได้จากหนังสือ “อิหฺรอก ฏอริก บิน ซิยาด ลิ อัส-สุฟุน อุสฏูเราะฮฺ ลา ตารีค” โดยอับดุลหะลีม อุวัยสฺ
ข้อสังเกตของเหตุการณ์นี้คือ
1. การเผาเรือเป็นเหตุการณ์สำคัญ สมควรแก่การบันทึก แต่หนังสือประวัติศาสตร์ทั่ว ๆ ไปหรือหนังสือประวัติศาสตร์อันดะลุส (Andalusia) ก่อน ๆ ไม่มีระบุเรื่องการเผ่าเรือของท่านฏอริกเลย ส่วนหนังสือเล่มแรกที่ระบุเรื่องการเผาเรือของท่าน คือหนังสือ "นุซฮะตุล มุชต็าก ฟิ อิคติรอกิล อาฟาก" โดย มุหัมมัด อัลอิดรีสีย์ (เสียชีวิต ฮ.ศ ที่ 560) นั่นคือหลังจากเหตุการณ์นั้น 300 กว่าปี
2. การระบุของมุหัมมัด อัล-อิดรีสีย์ไม่มีสายรายงาน
3. เรือเป็นสมบัติหลวง ไม่ได้เป็นสมบัติส่วนตัวของท่านฏอริก แล้วไฉนท่านถึงทำลายของหลวง
4. เลือดเนื้อมุสลิมมีเกียรติ์ยิ่ง ณ อัลลอฮฺ การเผาเรือก็เสมือนกับการนำพากองทัพมุสลิมสู่ความหายนะ
5. ท่านฏอริกจะเผาเรือซึ่งเป็นยานพาหนะได้การเดินทางกลับสู่ประเทศของตนและทหารได้อย่างไร
6. การเผาเรือก็เสมือนกับการตัดทอนกองกำลังเสริม แล้วแม่ทัพผู้ชาญฉลาดอย่างฏอริกจะเผาเรือไปทำไม
เครดิต: Faisal Alhadi
