สมัยนบีมูซานั้นนบีมูซาท่านได้ทูลถาม ต่ออัลลอฮ์ว่า: ยาอัลลอฮ์ใครเหล่า? ที่จะได้อยู่มีบ้านเรือนเคียงข้างกับข้าพเจ้าในสวนสวรรค์กันแน่?
คนข้างบ้านเพื่อนบ้าน “นบีมูซา” ในสวนสวรรค์คือใคร?
สมัยนบีมูซานั้นนบีมูซาท่านได้ทูลถาม ต่ออัลลอฮ์ว่า:
ยาอัลลอฮ์ใครเหล่า? ที่จะได้อยู่มีบ้านเรือนเคียงข้างกับข้าพเจ้าในสวนสวรรค์กันแน่?
ในใจท่านนบีมูซาคิดไปว่าคงจะเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ ไม่ก็คงเป็นวลี หรือ อาจจะเป็นผู้รำลึกถึงพระองค์อย่างมากมายคือ นักซิกรุลลอฮ์
แต่ตำตอบที่ได้รับคือ : คนขายเนื้อ
ท่านก็งงเลยเดินตามหาชายผู้นี้จนเจอและไปสังเกตการณ์ดูท่านนี้ดูว่าคนขายเนื้อคนนี้มีความดีอะไรกันเหล่า?
ถึงได้อยู่เป็นคนข้างบ้านฉันในสวนสวรรค์?
ท่านก็รอดูจนกระทั่งใกล้ค่ำท่านก็สังเกตุเห็นชายผู้นี้ได้เก็บเนื้อส่วนที่ดีที่สุดใว้ก้อนหนึ่งแล้วนำเนื้อใส่ใว้ในภาชนะชนิดหนึ่งและเดินทางกลับบ้าน
นบีก็เดินตามไปด้วยเมื่อชายผู้นี้จะเข้าบ้านนบีมูซาก็ขออนุญาต เข้าไปด้วยและได้รับอนุญาตให้เข้าไป
เมื่อชายผู้นี้เข้าไปในบ้านสิ่งแรกที่เขาทำคือ ไปสลามแม่และกอดหอมแก้มพร้อมทำกับข้าวด้วยตัวเองและป้อนด้วยกับมือของตัวเองให้แม่ของตนทานจนอิ่ม อาบน้ำให้จนสะอาด อีกรายงานกล่าวว่า ด้วยวัยชราที่ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ลูกชายจะช่วยเคี้ยวแทนให้ละเอียดแล้วป้อนให้แม่ทาน
และในเวลาตอนเช้าท่านก็จะทำยังงี้เองเป็นประจำโดยไม่ให้ภรรยามาทำ คนขายเนื้อคนนี้จะทำเองเสมอมา
ในขณะเดียวกันหญิงชราผู้เป็นแม่ก็พรึมพรัมบางอย่างที่นบีมูซาได้ยินไม่ค่อยชัดเลยถามคนขายเนื้อว่า:
แม่ของท่านกำลังพูดอะไร ?
ท่านก็ยิ้มและตอบว่า:แม่ของฉันมักจะอวยพรให้ฉันแบบนี้เสมอว่า:โอ้อัลลอฮ์โปรดให้ลูกชายฉันคนนี้ได้อยู่ในสวนสวรรค์ที่มีบ้านเรือนติดกับนบีมูซาเป็นเพื่อนบ้านของนบีมูซาด้วย ????
ฉันก็ยิ้มให้แม่เสมอฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้หรอก???
ทันใดนั้นนบีมูซาก็ได้ตอบไปว่า มันเป็นไปแล้วและเป็นดังที่แม่ท่านได้ดุอาเพราะฉันนี้แหละคือ นบีมูซาอัลลอฮ์บอกกับฉันเอง!!!
กล่าวอีกว่า:ดุอาของแม่นั้นยิ่งใหญ่มาก
ในขณะที่พวกเขายังมีชีวิตจงพยายามหมั่นให้เขาดุอาให้เราจงรับดุอาจากพวกเขา หากพวกเขาจากไปแล้วก็จงไปเยี่ยมกุโบร์พวกเขาดุอาให้พวกเขาคือสิทธิ์ของพวกเขาที่เราควรมอบให้ !!!!
ไปเยี่ยมกุโบร์พวกท่านบ้าง?
อย่างน้อยวันละครั้งหากไม่สามารถก็อาทิตย์ละครั้งหากไม่สามารถก็เดือนละครั้งหรือปีครั้งก็ยังดี?
บรรยายโดย : เมาลานา ตอริค ญามีล
แปลเรียบเรียง ฟีโรส ข่าน
