นักวิทยาศาสตร์ยอมรับ การข้ามทะเลแดงของ “นบีมูซา หรือโมเสส” ซึ่งถูกระบุในพระคัมภีร์เก่า (The Old Testament) และคัมภีร์อัลกุรอาน เคยเกิดขึ้นจริง
ประวัตินบีมูซา นักวิทย์ฯยอมรับ เคยข้ามทะเลแดงจริงตามคัมภีร์ระบุ
ผลการศึกษาใหม่ระบุว่า กระแสลมที่รุนแรงอาจทำให้เกิดปรากฎการณ์น้ำทะเลแยกออกเป็น 2 ข้างได้ เหมือนกับเรื่องราวในพระคัมภีร์
นักวิทยาศาสตร์ยอมรับ การข้ามทะเลแดงของ “นบีมูซา หรือโมเสส” ซึ่งถูกระบุในพระคัมภีร์เก่า (The Old Testament) และคัมภีร์อัลกุรอาน เคยเกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม จุดที่นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา “ปรากฏการณ์มหัศจรรย์” ดังกล่าวไม่ใช่ทะเลแดง แต่เป็นบริเวณใกล้เคียงแถบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯซึ่งศึกษาแผนที่โบราณของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่ น้ำไนล์
ชี้จุดที่ท่านนบีมูซา(อ.)หรือโมเสสอาจพาชาวอิสราเอลข้ามทะเล ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ในอดีตสาขาหนึ่งของแม่น้ำไนล์เคยไหลลงสู่ทะเลสาบ (lagoon)ซึ่งเรียกกันว่า ทะเลสาบทานิส (Lake of Tanis)
จากการวิเคราะห์หลักฐานทางโบราณคดี ภาพถ่ายดาวเทียม และแผนที่ ทำให้นักวิจัยสามารถคาดเดาความลึกและการไหลของน้ำเมื่อ 3,000 ปีก่อน
จากนั้นจึงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางสมุทรศาสตร์จำลองอิทธิพลของกระแสลมแรง ที่พัดผ่านน้ำลึก 6 ฟุต ในยามค่ำคืน
นักวิจัยพบว่า ลมตะวันออกความเร็ว 63 ไมล์ต่อชั่วโมงที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่องนาน 12 ชั่วโมง สามารถผลักดันให้น้ำไหลกลับเข้าไปในทะเลสาบและแม่น้ำ ซึ่งจะทำให้เกิด
ช่องทางเดินยาว 2 ไมล์และกว้าง 3 ไมล์ ที่มีกำแพงน้ำอยู่ 2 ด้าน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง