
อัลกุรอาน ญุซที่ 1 เริ่มต้นด้วย อัลฟาตีฮะฮฺ และอัลบะเกาะเราะฮ์ หลากหลายเรื่องราวที่ถูกกล่าวไว้
สรุปความ อัลกุรอาน ญุซที่ 1
อัลกุรอาน ญุซที่ 1 เริ่มต้นด้วย อัลฟาตีฮะฮฺ และอัลบะเกาะเราะฮ์ หลากหลายเรื่องราวที่ถูกกล่าวไว้ ส่วนหนึ่งในนั้น ... ได้บอกเล่าเรื่องราว ดังต่อไปนี้ :-
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 7
____________________
อัลลอฮ ได้ทรงพูดถึงผู้ปฏิเสธศรัทธา ที่หัวใจนั้นถูกปิดผนึกไปแล้ว คำเชิญชวนใดๆ ก็ไม่เป็นผล (นาอูซุบิลลาฮฯ)
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 14-15
____________________
ทั้งยังกล่าวถึงนิสัยผู้กลับกลอก หรือมุนาฟิก ที่แสร้งทำเป็นศรัทธา แต่เมื่อใดพวกเขาอยู่ด้วยกัน เขาก็จะแสดงธาตุแท้ออกมา... คงคิดว่าจะหลอกอัลลอฮได้... แต่ไม่
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 30
____________________
จากนั้น ได้ทรงกล่าวถึง ณ ช่วงเวลาหลังจากการสรรค์สร้างโลกใบนี้เสร็จสิ้นไปในขณะหนึ่ง พระองค์จะมอบหน้าที่ดูแลหน้าแผ่นดินนี้ให้แก่มนุษย์ ... มลาอีกัต จึงถามพระองค์ว่า พระองค์จะทรงให้สิ่งมีชีวิตที่ชอบการฆ่าฟัน การหลั่งเลือดกัน มาเป็นผู้ปกครองอย่างนั้นหรือ ... ซึ่งพระองค์ก็ได้ตรัสว่า แท้จริง เรารู้ ในสิ่งที่พวกเจ้า ไม่รู้
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 33-37
____________________
หลังจากพระองค์ได้บังเกิด ท่านนบีอดัม (อ.ฮ.) พระองค์ก็ได้สอนนามของทุกสิ่งให้แก่ท่าน ได้ให้บรรดามลาอีกัต สุญูดต่อท่าน และนั่น ปรากฏ ว่าที่ศัตรูตลอดกาลของมนุษยชาติ
อิบลีส ไม่รับคำสั่งนั้น ถือเป็นบาปครั้งแรกในจักรวาล ที่เขานั้นโอหังว่าตนอยู่เหนืออดัม และเมินต่อคำสั่งของอัลลอฮ และเขา คือหัวโจกของการปฏิเสธศรัทธา
พระองค์ยังกล่าวถึง ต้นไม้ ที่พระองค์สั่งให้ท่านนบีอดัม (อ.ฮ.) พึงห่างเสมอ .. แต่ไม่วาย การหลอกลวงของอิบลีส ทำให้ท่าน พลาดละเมิดคำสั่งนั้น เป็นเหตุให้อัลลอฮ ทรงส่งท่าน ลงมาบนโลกนี้
ท่านจึงร้องสำนึกตนอย่างมากมาย และพระองค์ ก็มอบการอภัยโทษให้ ...
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 40
____________________
พระองค์ ยังได้กล่าว ถึง วงศ์วาน อิสรออีล ที่พระองค์มอบความเมตตา และปัจจัยมากมาย
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 49
____________________
ให้ระลึกถึง วัน ที่พระองค์ทำให้ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) รอดพ้นจากเงื้อมมือของ ฟิรอาวน์ ..
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 51
____________________
พูดถึง หลังจากที่ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ขึ้นไปรับบัญญัติจากพระองค์เป็นเวลา 40 คืน
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 54
____________________
แต่ ณ บริเวณที่วงศ์วาน อิสรออีล รอคอยท่านอยู่ นั้น พวกเขากลับทำชีริก โดยการหล่อรูปปั้นวัว ขึ้นมากราบไหว้... เมื่อท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ลงมา จึงกล่าวโทษผู้กระทำผิด ให้สำนึกกลับตน โดยการสังหารชีวิตตัวเองเสีย เผื่อว่าพระองค์ จะได้ให้การอภัยโทษแก่พวกเจ้า
( จากรายงานของท่าน อิบนุอับบาส (ร.ฎ.) เล่าว่า .. ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ได้สั่ง ซึ่งเป็นบัญชาจากองค์อัลลอฮ .. ให้คนที่ทำการบูชารูปปั้น นั่งลง .. และ ผู้ที่ไม่ได้บูชา ให้ยืนปกติ .. จากนั้น ให้ชักมีดออกมา .. และทำการสังหาร ผู้ที่บูชารูปปั้นเสีย .. แต่ไม่ได้สังหารทั้งหมด .. เมื่อถึงจำนวนหนึ่ง .. อัลลอฮทรงบัญชา ให้หยุด .. ทุกอย่างจึงยุติลง .. ผู้ที่ตายไป พระองค์ ก็ทรงเตาบัต .. ผู้ที่ยังอยู่ พระองค์ ก็ทรงเตาบัตให้เช่นกัน .. )
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 55
____________________
จากนั้น อายัตต่อไป จะเป็นการกล่าวถึง ในตอนที่ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ได้เลือกผู้คนของท่านมา 70 คน .. เพื่อขึ้นไปกับท่าน เพื่อพบกับอัลลอฮ ( แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเพียงเสียง ) จึงกล่าว .. เราจะไม่ศรัทธา จนกว่าเราจะเห็น องค์อัลลอฮ .. แค่นั้นแหละ .. พระองค์ จึงทรงส่งสายฟ้าฟาด ใส่พวกเขา .. ท่ามกลางสายตาของพวกเขาเอง .. (และเมื่อพวกเขาตายลง .. หลังจากท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ขอดุอาอ์ )
อัลลอฮ ก็ทรงชุบชีวิตพวกเขากลับขึ้นมา ใหม่ .. นี่ คือความยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงได้ (เป็นการย้ำเตือน พวกเขา ถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ ของพระองค์)
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 60
____________________
พระองค์ ยังกล่าวถึง ณ เวลาหนึ่ง ที่ ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) และบรรดาวงศ์วานอิสรออีล ร่อนเร่อยู่ในทะเลทราย ไม่มีน้ำให้ดื่มกิน พระองค์ จึงทรงบัญชา ให้ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ใช้ไม้เท้าของท่าน ฟาดไปยังก้อนหิน และมัน ก็แตกออก เป็นตาน้ำ 12 สาย (วงศ์วานอิสรออีล สืบทายาทมาจากท่านนบียะกู๊บ (อ.ฮ.) ซึ่งท่าน มีลูก 12 คน รวมถึง นบียูซุฟ (อ.ฮ.) ลูกคนที่ 11 ของท่าน )
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 67-74
____________________
(( จากนั้น จะเป็นเรื่องราว ของเศรษฐีชราคนหนึ่ง .. ได้เล่าไว้ในหนังสือ ตัฟซีร ของท่านอีหม่าม อิบนุกะษีร ในตัฟซีรอายัตที่ 66 นี้ว่า .. คนคนนี้มีทรัพย์สินมากมาย สุดท้ายจึงถูกหลานชายของตน สังหาร และนำศพไปทิ้งไว้กลางทาง .. เมื่อ ชาวบ้านมาเห็น จึงเป็นข่าวโจษจันกันว่าใครฆ่าคนคนนี้ .. และเรื่องก็ไปถึงท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ที่ชาวบ้านพากันมาขอความช่วยเหลือ ท่านนบีจึงขอดุอาต่ออัลลอฮ ให้ทรงช่วย อัลลอฮจึงบัญชา .. ))
พระองค์ได้ทรงบัญชา ให้เชือดสัตว์พลี ท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) จึงกล่าวแก่บรรดาวงศ์วานอิสรออีล ให้เชือดสัตว์พลี
แต่ด้วยความจู้จี้ จุกจิก ถามมาก จึงถามท่านนบีว่าอยากได้ วัวแบบไหน? (( ตรงนี้ถ้าพวกเขาไม่ถามมาก วัวแบบไหนก็ได้ อัลลอฮทรงอนุญาต .. แต่เพราะถามมาก เหมือนไม่ค่อยอยากทำ .. อัลลอฮจึงทรงทำให้การหาวัว ไม่ใช่แค่ตัวไหนก็ได้อีกต่อไป .. แต่เจาะจงต้องแบบนั้น แบบนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ยากขึ้น..))
ท่านนบีจึงตอบ ว่า เป็นวัวตัวเมีย ไม่แก่ ไม่สาว เอาปานกลาง พวกเจ้าจงปฏิบัติตามบัญชาเถอะ ... แต่พวกเขา ยังเรื่องมาก จึงถามอีก ว่า สีอะไร? ท่านนบีจึงตอบ สีเหลือง ใครพบเห็นมัน จะรู้สึกยินดี แต่พวกเขา ก็ยังคงซักไซร้ ว่าให้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าแบบไหน? ท่านนบีจึงตอบ ว่า เป็นวัวที่ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน ไม่เคยไถนา ไม่เคยวิดน้ำ มาก่อน พวกเจ้าปฏิบัติตามบัญชาที่อัลลอฮทรงสั่งใช้ได้แล้ว ... แล้วพวกเขาก็ปฏิบัติตาม
นี่เป็นการแสดงถึงนิสัยของคนเหล่านี้
(( ซึ่งปรากฏว่า วัวแบบนี้ ไม่มีในเมืองนี้ .. จึงต้องพากันตามหาให้วุ่น .. จนไปเจอเข้าจริงๆ .. เจ้าของคือ เด็กกำพร้าคนหนึ่ง .. จึงทำการขอซื้อ .. แรกๆ ก็ไม่ขาย .. ต่อรองราคากันอยู่หลายครั้ง .. แต่จะไปหาวัวตัวอื่นก็ไม่ได้ .. เพราะตัวเองถามมากเอง อัลลอฮจึงเจาะจงสมใจอยาก .. จึงต้องต่อรองจนกว่าจะซื้อได้ .. สุดท้ายเด็กคนนั้นก็ยอมขาย .. ซึ่งราคานั้น เป็นทวีคูณหลายเท่า จากครั้งแรกที่เสนอมาก .. เมื่อได้วัวแล้ว จึงพากลับมาเชือด ตามบัญชา .. จากนั้น ท่านนบีสั่งให้เอาชิ้นส่วนเนื้อของมัน เอาไปตีร่างกายเศรษฐีที่ตาย .. พลันเศรษฐีคนนั้น อัลลอฮ ก็ให้กลับมามีชีวิตขึ้นมา ... เมื่อท่านนบีมูซา (อ.ฮ.) ถามว่า "ใครฆ่าท่าน?" .. เขาจึงตอบว่า "หลานของข้าเอง" พลันชี้ไปที่หลานชายตัวเอง ที่กำลังทำเป็นร้องไห้ฟูมฟายที่ลุงตน ถูกฆ่า ทั้งๆ ที่ตัวเอง เป็นคนฆ่า .. จากนั้น เศรษฐีคนนั้น ก็กลับไปตายลงดังเดิม .. ทุกอย่างจึงคลี่คลาย ))
ซึ่งเรื่องราวส่วนหลังนี้คือ อายัตที่ 72 และ 73
"และจงรำลึกถึง ขณะที่พวกเจ้าฆ่าคนคนหนึ่ง แล้วพวกเจ้า ต้องปกป้องตัวเองในเรื่องนั้น และอัลลอฮนั้น เป็นผู้เปิดเผย ในสิ่งที่พวกเจ้าปกปิดไว้ .. และเรา (อัลลอฮ) ได้กล่าวว่า พวกเจ้าจงตีเขา (เศรษฐีที่ตายนั้น) ด้วยบางส่วนของวัวตัวนั้น .. ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮ จะทรงให้ผู้ตาย มีชีวิตขึ้นมา .. และทรงให้พวกเจ้าเห็นสัญญานต่างๆ เพื่อที่ว่า พวกเจ้าจะได้เข้าใจ" (( ซึ่งเหตุการณ์นี้แหละ ที่เป็นที่มาของชื่อ ซูเราะฮ์ อัลบะเกาะเราะฮ์ - วัวตัวเมีย - นี้ ))
จากนั้น อัลลอฮ์ ยังคงพูดถึงผู้ที่หัวใจนั้นหยาบกระด้าง แข็งดั่งหิน ไม่ยอมรับการเปิดใจใดๆ พระองค์ยังกล่าว ถึงบรรดาผู้ที่ทำความผิดนั้น การกระทำผิดมากน้อยเพียงใด ย่อมไม่มีทางเล็ดลอดจากการรับรู้ของพระองค์
พระองค์ยังได้กล่าว ถึงผู้ที่ยอมซื้อโลกหน้า แลกกับโลกนี้ แน่นอน พวกนี้จะถูกลงโทษ และจะไม่มีความช่วยเหลือใดๆมายังพวกเขา
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 98
____________________
พระองค์ยังได้กล่าวถึงผู้ที่ตั้งตน เป็นศัตรูต่อพระองค์ ต่อมลาอีกะฮ์ของพระองค์ ต่อนบีของพระองค์ ว่าแท้จริง พระองค์ จะเป็นศัตรูกับเขาผู้นั้น ผู้ปฏิเสธศรัทธา!!
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 102
____________________
พระองค์ ยังเล่าถึงท่านนบีสุไลมาน (อ.ฮ.) ที่ท่านไม่หลงกับคำของพวกชัยฏอน และยังเล่าไปถึงบททดสอบของมนุษย์ ที่พระองค์ ส่งผ่านมลาอีกัต 2 ท่านของพระองค์ ที่ชื่อ ฮารูต และ มารูต ในการสอนไสยศาสตร์แก่พวกมนุษย์
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 106
____________________
จากนั้น พระองค์ พูดถึง การยกเลิกโองการ (นาซิค) ว่ามันมีข้อดีของมัน โองการใดที่ถูกยกเลิก พระองค์จะนำสิ่งที่ดี หรือเทียบเท่าโองการนั้นมา (ซึ่งจะมีให้เห็นในหลายที่ในอัลกุรอ่าน)
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 111
____________________
พระองค์ ยังกล่าวถึง ผู้ทนงตน ยาฮูดี และ นัศรอนี ที่พวกเขากล่าวว่า ไม่มีใครได้เข้าสวรรค์ นอกจากพวกเขาเท่านั้น ซึ่งนั้น เป็นเพียงความเพ้อฝันของพวกเขาเท่านั้น
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 117
____________________
พระองค์ ทรงสร้างชั้นฟ้าและแผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่าง หากพระองค์ทรงประสงค์ เพียงพระองค์กล่าว ว่าจงเป็น สิ่งนั้น ก็จะเกิดขึ้น...
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 124-129
____________________
ในช่วงสุดท้ายของ ญุซที่ 1 นี้ พระองค์ได้กล่าว ถึงบททดสอบของท่านนบีอิบรอฮีม (อ.ฮ.) และนบีอิสมาอีล (อ.ฮ.) ได้พูดถึง กะอ์บะฮ์ ให้ท่านนบีอิบรอฮีม (อ.ฮ.) เป็นผู้ดูแล .. ได้พูดถึง ดุอา ของท่านนบีอิบรอฮีม (อ.ฮ.) ที่ได้ขอให้ดินแดนแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ ไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานสืบไป
กระทั่งปัจจุบัน แม้มักกะฮ์ จะเป็นดินแดนทะเลทราย แต่ก็มีอาหาร พืชพันธุ์ ผลไม้ อุดมสมบูรณ์ จากดุอาของท่าน และท่านยังได้ดุอา ให้ลูกหลานของท่านเป็นผู้ศรัทธา มีรอซูล ซึ่งเขาจะได้เผยแพร่คัมภีร์ของพระองค์แก่มนุษย์โลก
(ซึ่งลูกหลานของท่านคนหนึ่ง ก็ได้เป็นมหาบุรุษแห่งมนุษยชาติ ผู้เป็นนบี และรอซูลที่ดีที่สุด และเป็นมนุษย์ ที่อัลลอฮทรงรักมากที่สุด ท่านนบีมูฮัมหมัด (ซอลฯ) ของเรานั่นเอง)
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 132
____________________
พระองค์ยังกล่าว ว่า ท่านนบีอิบรอฮีม (อ.ฮ.) [ ซึ่งเป็นต้นตระกูลของสายท่านนบีมูฮัมหมัด (ซอลฯ) ] และท่านนบียะกู๊บ (อ.ฮ.) [ ซึ่งเป็นต้นตระกูลสายวงศ์วานอิสรออีล เช่น นบี ยูซุฟ (อ.ฮ.) นบีดาวูด (อ.ฮ.) นบีสุไลมาน (อ.ฮ.) นบีซะกะรียา (อ.ฮ.) นบียะฮ์ยา (อ.ฮ.) และแม้แต่ นบีอีซา (อ.ฮ.) ] .... ท่านนบีทั้ง 2 ต้นสายตระกูลนี้ ได้สอน แก่ลูกหลานของพวกท่าน ให้ยึดถือทางที่เที่ยงตรง ศรัทธาต่ออัลลอฮ และห้ามตั้งภาคีใดๆ
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 139
____________________
และอายัติสุดท้ายในญุซที่ 1 นี้ "นั่น คือกลุ่มชนที่ล่วงลับไปแล้ว สิ่งที่พวกเขาขวนขวายไว้ ก็ย่อมเป็นของพวกเขา และสิ่งที่พวกเจ้าขวนขวายไว้ ก็ย่อมเป็นของพวกเจ้า และพวกเจ้า จะไม่ถูกไต่สวน ถึงสิ่งที่พวกเขานั้น ปฏิบัติกัน"
____________________
อัลบะเกาะเราะฮ์ : 141
____________________
เป็นการยืนยันจากพระองค์ ว่าการงานของคนๆ หนึ่ง จะคิดตามการกระทำของคนๆ นั้นเท่านั้น ไม่มีคำว่า บาปของพ่อเขา ปู่เขา ลูกต้องชดใช้ หรืออะไรทำนองนี้ ฉะนั้น จงยำเกรงต่ออัลลอฮ และทิ้งความโสมมต่างๆ เพื่อให้ศาสนาของพระองค์ สูงส่งบนหน้าแผ่นดินนี้ ตลอดไป
บทความที่น่าสนใจ