ตอนนี้ เราต่างก็เตรียมตัวที่จะกลับภูมิลำเนา ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงอยากให้โอวาทแก่ตัวเองและบรรดาหุจญาตอาคันตุกะแห่งอัลลอฮฺที่เคารพรักทุกท่าน ด้วยโอวาทบางประการดังนี้
โอวาท 10 ข้อสำหรับหุจญาตที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา
แขกของอัลลอฮฺ กำลังทยอยกลับสู่มาตุภูมิ ทำให้นึกถึงโอวาทคลาสสิค 10 ข้อนี้ ซึ่งดูๆ แล้วถ้าเกิดว่าหุจญาจสามารถทำได้จริง...คิดว่าสังคมน่าจะเข้มแข็งน่าดู
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานียิ่งเสมอ
โอวาท 10 ข้อสำหรับหุจญาตที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา
อัสสลามุอะลัยกุม วะเราะห์มะตุลลอฮิ วะบะเราะกาตุฮฺ
อัลหัมดุลิลลาฮฺ ด้วยนิอฺมัตของพระองค์ทำให้การงานที่ดีทั้งหลายเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งด้วยเตาฟีกและความช่วยเหลือจากพระองค์ หุจญาตทั้งหลายจึงได้บรรลุผลสำเร็จในการประกอบพิธีหัจญ์และอุมเราะฮฺ พร้อมกับการซิยาเราะฮฺมัสยิดของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ด้วยดีทุกประการ
تَقَبَّلَ اللهُ مِنَّا وَمِنْكُمْ حَجًّا مَبْرُوْرًا، وَعُمْرَةً مُتَقَبَّلَةً، وَسَعْيًا مَشْكُوْرًا، وَذَنْبًا مَغْفُوْرًا
เราแน่ใจว่า พวกเราทุกคนคงได้รับหัจญ์มับรูรซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เราคู่ควรได้เป็นชาวสวรรค์ ด้วยอนุมัติแห่งพระองค์อัลลอฮฺ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามีหน้าที่จะต้องดูแลชีวิตของเราในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านอิบาดะฮฺและการเข้าสังคม เพื่อให้เหมาะสมกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนที่จะเป็นชาวสวรรค์(หัจยี หรือผู้ที่ผ่านการทำหัจญ์มาแล้ว)
ตอนนี้ เราต่างก็เตรียมตัวที่จะกลับภูมิลำเนา ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงอยากให้โอวาทแก่ตัวเองและบรรดาหุจญาตอาคันตุกะแห่งอัลลอฮฺที่เคารพรักทุกท่าน ด้วยโอวาทบางประการดังนี้
1. ส่งเสริมให้ผู้ที่จะเดินทางนำของขวัญต่างๆ เพื่อมอบให้กับภรรยาและลูกๆ ตามที่มีหะดีษเฎาะอีฟจากอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา ที่มีความว่า “เมื่อพวกท่านเดินทางกลับจากการเดินทางไกลใดๆ ก็ควรที่จะเตรียมของขวัญให้กับลูกๆ และภรรยาของท่าน แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม”
2. ให้ทุกคนต่างเฏาะวาฟ วะดาอฺ ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน เพราะหุก่มของมันคือวาญิบเหนือทุกๆ คนที่จะเดินทางร่ำลาจากมัสยิดหะรอม(นครมักกะฮฺ)ในทัศนะของญุมฮูรฺอุละมาอ์ รวมทั้งมัซฮับชาฟิอีย์ด้วย ส่วนคนที่เหตุจำเป็น เช่น ผู้หญิงที่มีประจำเดือนหรือนิฟาสก็อนุโลมให้โดยไม่ต้องเฏาะวาฟวะดาอฺ ถ้าหากว่านางได้เฏาะวาฟอิฟาเฎาะฮฺเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากเฏาะวาฟวะดาอฺแล้วไม่ควรที่ง่วนกับงานอีก ยกเว้นเกี่ยวกับการเตรียมตัวและรอที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเท่านั้น
3. เมื่อเฏาะวาฟวะดาอฺเสร็จ ส่งเสริมให้มุ่งไปยัง มุลตะซัม คือบริเวณระหว่างมุมหินดำและประตูกะอฺบะฮฺ พร้อมทั้งให้แนบหน้าอกและท้องไปยังบัยตุลลอฮฺ ถ้าหากทำได้ และให้ขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮฺในทุกๆ สิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีๆ ในดุนยาหรืออาคิเราะฮฺ ในจำนวนดุอาอ์เหล่านั้นก็คือดุอาอ์ตามที่มีรายงานโดยอัล-บัยฮะกีย์และคนอื่นๆ จากอิมามอัช-ชาฟิอีย์ว่า
اللهم إِنَّ الْبَيْتَ بَيْتُكَ، وَالْعَبْدَ عَبْدُكَ، وَابْنُ عِبْدِكَ، وَابْنُ أَمَتِكَ، حَمَلْتَنِيْ عَلَى مَا سَخَّرْتَ لِيْ مِنْ خَلْقِكَ، حَتَّى سَيَّرْتَنِيْ فِيْ بِلاَدِكَ وَبَلَّغْتَنِيْ بِنِعْمَتِكَ حَتَّى أَعَنْتَنِيَ عَلَى قَضَاءِ مَنَاسِكِكَ، فَإِذَا كُنْتَ رَضِيْتَ عَنِّيْ فَازْدَدْ عَنِّيْ رِضًا، وَإِلاَّ فَمُنَّ اْلآنَ قَبْلَ أَنْ تَنْأَى عَنْ بَيْتِكَ دَارِيْ، هَذَا أَوَانُ انْصِرَافِيْ إِنْ أَذِنْتَ لِيْ، غَيْرَ مُسْتَبْدَلٍ بِكَ وَلاَ بِبَيْتِكَ، وَلاَ رَاغِبٍ عَنْكَ وَلاَ عَنْ بَيْتِكَ، اَللَّهُمَّ فَاصْحِبْنِيْ بِالْعَافِيَةِ فِيْ بَدَنِيْ، وَالْعِصْمَةِ فِيْ دِيْنِيْ، وَأَحْسِنْ مُنْقَلَبِيْ، وَارْزُقْنِيْ طَاعَتَكَ مَا أَحْيَيْتَنِيْ
ความว่า : โอ้ พระผู้อภิบาลของเรา แท้จริงบ้านแห่งนี้เป็นบ้านของพระองค์ และบ่าวคนนี้ก็เป็นบ่าวของพระองค์ เป็นบุตรของบ่าวชายของพระองค์ เป็นบุตรของบ่าวหญิงของพระองค์ พระองค์ได้นำข้ามาบนพาหนะที่พระองค์ทรงอำนวยให้ จนกระทั่งพระองค์ได้พาข้าพระองค์ผ่านดินแดนต่างๆ ของพระองค์ และให้ข้าพระองค์ได้มาถึงยังที่แห่งนี้ด้วยนิอฺมัตของพระองค์ และพระองค์ได้ช่วยเหลือข้าพระองค์ให้ประกอบพิธีหัจญ์แก่พระองค์ได้ลุล่วงเสร็จสิ้นด้วยดี ดังนั้น ถ้าหากพระองค์ทรงโปรดปรานข้าพระองค์ ก็ขอทรงเพิ่มความโปรดปรานนั้นแก่ข้าพระองค์ หากไม่แล้ว ก็ขอทรงประทานความโปรดปรานนั้น ณ บัดนี้ก่อนที่ตัวข้าพระองค์จะห่างไกลออกจากบ้านของพระองค์ นี่คือเวลาที่ข้าพระองค์ต้องจากไปแล้วหากพระองค์ทรงอนุมัติให้แก่ข้าพระองค์ โดยที่ข้าพระองค์ไม่ได้จากไปเพราะต้องการเปลี่ยนไปจากพระองค์หรือบ้านของพระองค์ และไม่ใช่เพราะความรังเกียจต่อพระองค์และบ้านของพระองค์ โอ้อัลลอฮฺ ขอทรงมอบสุขภาพที่ดีแก่ตัวข้าพระองค์ การปกป้องดูแลในศาสนาของข้าพระองค์ ขอทรงทำให้การกลับไปของข้าพระองค์เป็นสิ่งที่ดี และขอทรงประทานให้ข้าพระองค์ได้เชื่อฟังพระองค์อยู่เสมอตราบใดที่พระองค์ได้ให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ (ดู อัล-อุมม์ ของ อัช-ชาฟิอีย์ 2/574-575)
อิบนุ อับบาส กล่าวว่า “บริเวณระหว่างมุมหินดำและประตูกะอฺบะฮฺ เรียกว่า มุลตะซัม ซึ่งไม่ว่าบ่าวจะขอดุอาอ์อะไรจากอัลลอฮฺ ณ ที่นั้น อัลลอฮฺก็จะทรงประทานให้กับเขา” (หะดีษเมากูฟ ใน อัส-สุนัน อัล-กุบรอ ของ อัล-บัยฮะกีย์ 5/164)
4. เมื่อหุจญาตออกจากที่พักของแต่ละคนเพื่อเดินทางกลับ ให้ทุกคนกล่าวว่า
بِسْمِ اللهِ، تَوَكَّلْتُ عَلَى الله، لاَ حَوْلَ وَلاَ قُوَّةَ إِلاَّ بِاللهِ
บิสมิลลาฮฺ, ตะวักกัลตุ อะลัลลอฮฺ, ลาเหาละ วะลา กุว์วะตะ อิลลา บิลลาฮฺ
“ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ข้าขอมอบหมายต่ออัลลอฮฺ ไม่มีความสามารถและอำนาจใดเว้นแต่ด้วยอัลลอฮฺเท่านั้น” (หะดีษบันทึกโดย อบู ดาวูด หมายเลข 5095, อัต-ติรมิซีย์ หมายเลข 3426, อิบนุ หิบบาน หมายเลข 822)
พร้อมทั้งปฏิบัติตามมารยาทในการเดินทางที่ได้เคยกล่าวไว้แล้วในภาคผนวกในหน้าที่ ...
5. ส่งเสริมให้มีการติดต่อแจ้งให้ทางบ้านทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับเวลาที่จะกลับถึงบ้าน เพื่อให้พวกเขาได้เตรียมตัวด้วยสำรับอาหารและการต้อนรับที่ดี และเมื่อถึงบ้านแล้ว ตามสุนนะฮฺนั้นให้เข้าไปยังมัสยิดที่อยู่ใกล้บ้านที่สุดก่อนและละหมาดสองร็อกอะฮฺในมัสยิดนั้น จากนั้นจึงเข้าบ้านไป และส่งเสริมให้ละหมาดอีกสองร็อกอะฮฺในบ้านพร้อมทั้งขอดุอาอ์ด้วยการสรรเสริญอัลลอฮฺและขอบคุณพระองค์ต่อทุกๆ นิอฺมัตที่ทรงทำให้ลุล่วงในการทำหัจญ์และได้เห็นคุณประโยชน์ต่างๆ มากมายในหัจญ์และการได้ซิยาเราะฮฺมัสยิดนะบะวีย์ และได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมกันนั้นให้พบปะทักทายกับคนที่มาต้อนรับด้วยการแสดงความยินดีที่จริงจังและอบอุ่น เช่นการสลามและการกอดซึ่งกัน
6. ส่งเสริมให้คณะหุจญาตทุกกลุ่มที่เดินทางกลับภูมิลำเนาได้อิสติฆฟารฺและขอดุอาอ์ให้มาก ทั้งต่อตัวเอง บิดามารดา ลูกและภรรยา ครูบาอาจารย์ และทุกคนที่มีบุญคุณแก่เขา ไม่ว่าจะเป็นเครือญาติ มิตรสหาย และบรรดาพี่น้องมุสลิม เพื่อให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้กล่าวในดุอาอ์ของท่านที่ว่า
اللهم اغْفِرْ لِلْحَاجِّ وَلِمَنِ اسْتَغْفَرَ لَهُ الْحَاجُّ
ความว่า : “โอ้ อัลลอฮฺ ขอทรงอภัยให้กับผู้ทำหัจญ์ และให้กับคนที่ผู้ทำหัจญ์นั้นได้กล่าวขออภัยโทษให้” (หะดีษบันทึกโดย อัล-หากิม หมายเลข 1612 ท่านกล่าวว่าเป็นหะดีษเศาะฮีหฺตามเงื่อนไขของอิมามมุสลิม, อิบนุ คุซัยมะฮฺ หมายเลข 2516, อัล-บัยฮะกีย์ หมายเลข 10161)
เช่นการกล่าวดุอาอ์ว่า
رَبِّ اغفِرْلِيْ وَلِوَالِدَيَّ وَلأَوْلاَدِيْ، وَلأَزْوَاجِيْ وَلمَشَايِخِيْ وَلِذُّرِّيًاتِيِ وَلأَصْدِقَائِي وَلِمَنْ أَحْسَنَ إِلَيَّ، وَلِمَنْ أَوْصَانِي بِالدُّعَاءِ، وَلِلْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ، إِنَّكَ أَنْتَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ
7. ให้กล่าวขอบคุณต่อบรรดาอุละมาอ์และผู้ที่คอยให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการบริษัท หัวหน้ากลุ่ม(แซะฮฺ) ผู้นำและเจ้าหน้าที่คณะผู้แทนหัจญ์ ฝ่ายสาธารณสุข คณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่ได้เหน็ดเหนื่อยตรากตรำในการให้บริการเพื่อให้เราได้ทำหัจญ์จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี พร้อมกับขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางการในประเทศของเรา รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย และหน่วยงานราชการในนครมักกะฮฺ ที่ได้ให้บริการต่างๆ อย่างดีแก่เรา เพราะคนที่ไม่ขอบคุณแก่คนที่ทำดีกับเขา ย่อมหมายความว่าเขาไม่ได้ขอบคุณต่ออัลลอฮฺด้วยเช่นกัน
8. พยายามดำรงไว้ซึ่งเครื่องหมายของหัจญ์มับรูรฺ นั่นคือคนที่มีคุณลักษณะเหมาะสมจะเป็นชาวสวรรค์ ที่มีความสมถะต่อโลกดุนยาที่จะสูญสิ้น และมีความปรารถนาต่ออาคิเราะฮฺที่ยิ่งใหญ่และสถาพรตลอดกาล พร้อมทั้งให้รักษาการตักวาต่ออัลลอฮฺในทุกๆ ด้านของชีวิต ห่างไกลจากมะอฺศิยะฮฺการทำผิด ชุบฮะฮฺหรือความคลุมเครือ ชิริก และบิดอะฮฺ และไม่หันกลับไปทำสิ่งต้องห้ามที่ได้เลิกไปแล้ว และต้องตั้งใจแน่วแน่เพื่อกลับไปทำหัจญ์อีกในปีต่อๆ ไป ถ้าเป็นไปได้ห้าปีต่อครั้ง และช่วยกันส่งเสริมให้คนอื่นๆ ได้ไปทำหัจญ์มับรูรฺด้วย เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันของประชาชาติอิสลามและเผยแผ่ความเมตตาแห่งอิสลามแก่โลกทั้งมวล ขออัลลอฮฺประทานเตาฟีก
9. จงดำรงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งสองคำปฏิญาณ นั่น ข้อเท็จจริงของถ้อยคำ “อัชฮะดุ อัลลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ” นั่นคือคุณลักษณะแห่งความอิคลาศ ความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺเท่านั้น ในทุกๆ ด้านของชีวิต และข้อเท็จจริงของ “อัชฮะดุ อันนะ มุหัมมะดัร เราะสูลัลลอฮฺ” ซึ่งได้ผูกวิถีการทำอิบาดะฮฺและมารยาทต่างๆ กับการปฏิบัติตามสุนนะฮฺของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ตามการอธิบายของบรรดาอุละมาอ์ที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะเหล่าสะลัฟ ศอลิหฺ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นผลจากการทำอิบาดะฮฺหัจญ์ นั่นคือ การเฏาะวาฟที่กะอฺบะฮฺที่เป็นสัญลักษณ์ของ “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ” และการเยี่ยมมัสยิดนะบะวีย์ที่เป็นการประกาศความรักต่อสุนนะฮฺของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมันคือเครื่องหมายของ “มุหัมมะดัร เราะสูลุลลอฮฺ” นั่นเอง
10. ในจำนวนสิ่งที่สำคัญและต้องดูแลให้ดีเมื่ออยู่ ณ ภูมิลำเนาของตนก็คือ
1) รักษาการละหมาดห้าเวลาพร้อมกับญะมาอะฮฺที่มัสยิดให้ครบสำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงนั้นให้ละหมาดที่บ้านตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อเข้าเวลา ด้วยความอิคลาศและคุชูอฺ
2) หมั่นรักษาการกล่าววิริดหลังละหมาด และบทซิกิรฺเช้าเย็น พร้อมกับเรียนรู้ความหมายของมันและภาคภูมิใจกับสุนนะฮฺดังกล่าว
3) อ่านอัลกุรอานอย่างสม่ำเสมอทุกๆ วัน ถ้าเป็นไปได้วันละหนึ่งญุซอ์
4) ศึกษาความรู้เกี่ยวกับอัลกุรอานและสุนนะฮฺอย่างสม่ำเสอม รวมทั้งความรู้อื่นๆ จากครูผู้สอนที่ไว้ใจได้ พร้อมกับเชิญชวนให้ครอบครัวและคนอี่นๆ ได้ร่วมกันเรียนรู้และปฏิบัติอะมัลที่ดี และร่วมกันเชิดชูศาสนาอิสลามและแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสันติวิธี ความจริงใจ และใช้ความสุขุมรอบคอบ
5) ฟื้นฟูการบริจาคทานเศาะดะเกาะฮฺและการเลี้ยงอาหาร ถ้าเป็นไปได้ให้ทำทุกวันตามความสามารถที่ทำได้ ด้วยการเนียตมอบผลบุญดังกล่าวแก่คนตาย พร้อมๆ กับการหมั่นไปเยี่ยมสุสานตามสุนนะฮฺ ด้วยจุดประสงค์รำลึกถึงอาคิเราะฮฺและขอดุอาอ์แก่คนตายในกุบูรฺ
6) พยายามคบกับคนที่ศอลิหฺ(คนดีมีคุณธรรม) คนที่มีความรู้ เหล่าดาอีย์ผู้เชิญชวนสู่อิสลาม และผูกสัมพันธ์ที่ดีกับมิตรสหายที่ได้ร่วมเดินทางไปทำหัจญ์พร้อมกันที่มักกะฮฺ และห่างไกลจากการคบหาและเข้าไปยังที่ที่อาจจะนำเราไปสู่การตกหลุมพรางของวิถีชีวิตแบบญาฮิลียะฮฺ
7) ฟื้นฟูจิตวิญญาณแห่งความรักใคร่และความอ่อนโยนต่อภรรยาและลูกๆ เพื่อการสร้างครอบครัวอิสลามที่มีความสุข พยายามดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบ และเกียรติในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ
8) มีมารยาทที่ดีต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือผู้ไม่ใช่มุสลิม พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่ดีในการเผยแผ่ความเมตตาของอิสลามแก่โลกทั้งมวล และจงห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดหายและความตกต่ำ
9) ปลุกฟื้นสัญลักษณ์แห่ง “ลับบัยกะ” คือการสนองต่อพระบัญชาของอัลลอฮฺและสุนนะฮฺของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม และคำสั่งของผู้นำที่ไม่ค้านกับคำสอนของอัลลอฮฺและแนวทางของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม
10) หมั่นพยายามขวนขวายและขอดุอาอ์ เพื่อให้ได้รับริซกีที่หะลาล บริโภค ใช้ และสนับสนุนสิ่งที่หะลาลและมีคุณค่า (หะลาลัน ฏ็อยยิบัน) และหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่หะรอมและคลุมเครือ
นี่คือคำสั่งเสียของข้าพเจ้าต่อตัวเอง พี่น้องชายหญิงบรรดาหุจญาตที่รักทุกคน และข้าพเจ้าขอดุอาอ์ว่า
أَسْتَوْدِعُ اللهَ دِيْنَكُمْ، وَأَمَانَتَكُمْ، وَخَوَاتِيْمَ أَعْمَالِكُمْ، رَبَّنَا تَقَبَّلْ مِنَّا إِنَّكَ أَنْتَ السَّمِيْعُ الْعَلِيْمُ، رَبَّنَا آتِنَا فِي الدُّنْيَا حَسَنَةً وَفِي اْلآخِرَةِ حَسَنَةً، وَقِنَا عَذَابَ النَّارِ. اَللَّهُمَّ اجْعَلْهُ لَنَا وَلَكُمْ حَجًّا مَبْرُوْرًا، وَسَعْيًا مَشْكُوْرًا، وَذَنْبًا مَغْفُوْرًا، وَعَوْدَةً حَمِيْدَةً، وَحَيَاةً طَيِّبَةً، وَعَيْشَةً مُبَارَكَةً فِي الدُّنْيَا وَاْلآخِرَةِ، وَصَلَّى اللهُ عَلَى سَيِّدِناَ مُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ وَسَلَّمَ، سُبْحَانَ رَبِّكَ رَبِّ الْعِزَّةِ عَمَّا يَصِفُوْنَ، وَسَلاَمٌ عَلَى الْمُرْسَلِيْنَ، وَالْحَمْدُ ِللهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ.
พี่น้องของท่าน
อิสมาอีล ลุตฟี จะปะกียา
อะมีรุลหัจญ์ไทยปี 1430