ดุอาอฺเมื่อถูกชัยฏอนครอบงำ


22,231 ผู้ชม

เมื่อรู้สึกว่าถูกชัยฏอนครอบงำ ให้กล่าวว่าอย่างไร...


ดุอาอฺเมื่อถูกชัยฏอนครอบงำ

เมื่อรู้สึกว่าถูกชัยฏอนครอบงำ ให้กล่าว

أَلْعَنُكَ بِلَعْنَةِ اللَّهِ  

คำอ่าน:  อัลอะนุกะ บิละอฺนะติลลาฮฺ

ความว่า: "ฉันขอละอฺนัตเจ้า(ชัยฏอน) ด้วยการละอฺนัตของอัลลอฮฺ" (ละอฺนัต ในที่นี้คือสาปแช่ง)

ในบรรดาสิ่งถูกสร้าง คือ มลาอิกะห์ ญิน และ มนุษย์ 

มลาอิกะห์ คือ ผู้รับใช้พระผู้เป็นเจ้าที่ถูกสร้างจากรัศมีหรือแสงสว่าง มีคุณลักษณะคือ ไม่มีเพศ ไม่กิน ไม่ดื่ม ไม่หลับนอน และ ไม่ฝ่าฝืนพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า นี่คือลักษณะเฉพาะของ มลาอิกะห์
ไม่มีมลาอิกะห์ท่านใด ที่จะฝ่าฝืนพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า ลักษณะนี้ จะไม่เหมือนกับ เทวดาหรือเทวทูตในความเชื่ออื่น   ที่บางครั้งจะมีลักษณะที่ขัดขืนหรือกระทำหน้าที่ผิดจากคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า ทำให้เพื่อนต่างศาสนิกมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ มลาอิกะห์

ส่วน ญิน  เป็นสิ่งถูกสร้างอีกชนิดหนึ่ง โดยสร้างจากไฟที่ไร้ควัน มีคุณลักษณะเหมือนกันกับ มนุษย์ นั่นคือ มีเพศชาย หญิง มีการกิน ดื่ม หลับนอน มีอิสระเช่นเดียวกันกับมนุษย์ ดังนั้นในบรรดาญิน ก็จะมีญินที่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ และ ญินที่ฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์เหมือนกับมนุษย์

ดุอาอฺเมื่อถูกชัยฏอนครอบงำ

ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ญินนั้น ได้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงสร้างมนุษย์

ในเรื่องนี้ ได้มีบอกไว้อย่างชัดเจน ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานบทที่15 โองการที่ 26 – 50 ความว่า...

[15.26]  และโดยแน่นอน เราได้สร้างมนุษย์จากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

[15.27]  และญินนั้น เราได้สร้างมันมาก่อนจากไฟของลมร้อน

[15.28]  และจงรำลึกเมื่อพระเจ้าของเจ้าตรัสแก่มลาอิกะฮ์แก่ แท้จริงข้าเป็นผู้สร้างมนุษย์จากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

[15.29]  ดังนั้น เมื่อข้าได้ทำให้เขามีรูปร่างสมส่วนและเป่าวิญญาณจากข้าเข้าไปในตัวเขา ฉะนั้นพวกเจ้าจงก้มลงสุญูดต่อเขา

[15.30]  ดังนั้น มลาอิกะฮ์ทั้งหมดได้ก้มลงสุญูด

[15.31]  เว้นแต่อิบลีสมันปฏิเสธที่จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้สุญูด

[15.32]  พระองค์ตรัสว่า โอ้อิบลีส ทำไมเจ้าจึงไม่อยู่ร่วมกับบรรดาผู้สุญูด ?

[15.33]  มันกล่าวว่า ข้าพระองค์จะไม่สุญูดต่อมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างเขาจากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

[15.34]  พระองค์ตรัสว่า ดังนั้นเจ้าจงออกไปจากที่นี่แท้จริงเจ้าเป็นผู้ถูกขับไล่

[15.35]  และแท้จริง การสาบแช่งจงประสบแก่เจ้า จนกระทั่งวันแห่งการตอบแทน

[15.36]  มันกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์ได้โปรดประวิงเวลาให้แก่ข้าพระองค์จนถึงวันฟื้นคืนชีพด้วยเถิด

[15.37]  พระองค์ตรัสว่า ดังนั้น แท้จริงเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ถูกประวิงเวลา

[15.38]  จนกระทั่งถึงวันแห่งเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว

[15.39]  มันกล่าวว่า โอ้พระเจ้าของข้าพระองค์โดยที่พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์หลงผิดไปแล้วแน่นอน ข้าพระองค์ก็จะทำให้เป็นที่เพริศแพร้วแก่พวกเขาในแผ่นดินนี้ และแน่นอนข้าพระองค์จะทำให้พวกเขาทั้งหมดหลงผิด

[15.40]  เว้นแต่ปวงบ่าวของพระองค์ ในหมู่พวกเขาที่มีใจบริสุทธิ์เท่านั้น

[15.41]  พระองค์ตรัสว่า นี่คือทางอันเที่ยงธรรมของข้า

[15.42]  แท้จริงปวงบ่าวของข้าเจ้าจะไม่มีอำนาจใด ๆ เหนือพวกเขา เว้นแต่ผู้ที่เชื่อฟังเจ้าในหมู่ผู้หลงผิดเท่านั้น

[15.43]  และแท้จริงนรกญะฮันนัม แน่นอนคือสัญญาของพวกเขาทั้งหมด

[15.44]  มันมีเจ็ดประตู สำหรับทุกประตูมีส่วนที่ถูกจัดไว้แล้ว

[15.45]  แท้จริง บรรดาผู้ยำเกรงอยู่ในสวนสวรรค์มากหลาย และตาน้ำพุ

[15.46]  พวกเจ้าจงเข้าไปในนั้นด้วยความศานติและปลอดภัย

[15.47]  และเราได้ขจัดความขุ่นแค้นที่มีอยู่ในหัวอกของพวกเขาให้กลายเป็นพี่น้องกัน โดยพำนักอยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน

[15.48]  ความเหนื่อยยากจะไม่ประสบแก่พวกเขาในนั้น และพวกเขาจะไม่ถูกนำออกจากที่นั้น

[15.49]  จงแจ้งแก่ปวงบ่าวของข้าว่า แท้จริงข้าคือผู้อภัย ผู้เมตตาเสมอ

[15.50]  และแท้จริงการลงโทษของข้านั้น เป็นการลงโทษที่เจ็บแสบ

จากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานนี้ได้บอกให้ทราบถึงจุดกำเนิดของการฝ่าฝืน เริ่มจาก  ญินตนหนึ่งมีนามว่าอิบลีส ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ทราบได้ว่า  อิบลีสเป็นญิน มิใช่ มลาอิกะห์ ถึงแม้ว่าในกุรอานจะไม่ได้กล่าวถึงก็ตามนั่นก็คือ  ซีฟัตหรือคุณลักษณะของมลาอิกะห์ที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น

[ “...เพื่อการไขปริศนาดังกล่าว เราต้องทราบว่าชัยฏอนคือศัตรูประเภทเดียวของมนุษย์หรือไม่ หรือมนุษย์อาจมีศัตรูประเภทอื่นที่อาจมีอันตรายร้ายแรงกว่าชัยฏอน จากการพิจารณาในอายะฮ์กุรอาน จะพบว่ามนุษย์มิได้มีศัตรูเพียงประเภทเดียว แต่มนุษย์มีศัครูสำคัญถึงสามประเภท 

1. ชัยฏอน “..แท้จริง มันคือศัตรูตัวฉกาจของพวกเจ้า” (2 : 168) 

2. มนุษย์ผู้มีพฤติกรรมเฉกเช่นชัยฏอน “..บรรดาชัยฏอนทั้ง(ประเภท)มนุษย์และ(ประเภท)ญิน...” (6 : 112) 

3. นัฟซู “..แท้จริงจิตบัญชาสู่ความชั่วร้ายเสมอ..” (12 : 53) 

ฉะนั้น นอกจากศัตรูตัวฉกาจเช่นชัยฏอนแล้ว มนุษย์ยังมีศัตรูร้ายแรงอีกถึงสองประเภท 

มนุษย์ผู้มีพฤติกรรมคล้ายชัยฏอน คือ ผู้ที่ชักชวนผู้อื่นสู่การฝ่าฝืนพระเจ้า เพื่อนฝูงที่สกัดกั้นเรามิให้มุ่งสู่หนทางแห่งการภักดีพระองค์ และทำทุกสิ่งที่คล้ายกับกิจวัตรของชัยฏอน แม้เพื่อนประเภทนี้บางคนอาจเป็นเพื่อนสนิทและเป็นกำลังใจให้เราในบางโอกาส แต่มีโทษมากกว่าคุณประโยชน์แน่นอนหากไม่ได้รับการขัดเกลาจิตใจ ดังนั้น จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการเลือกคบเพื่อน เพื่อไม่ให้เสียใจในภายหลังเมื่อต้องถูกลงโทษในนรกเพราะการคบบุคคลประเภทนี้ 

“โอ้ความวิบัติแก่ข้า ข้าไม่น่าจะคบเขาเป็นเพื่อนเลย” (25 : 28) 

ดุอาอฺเมื่อถูกชัยฏอนครอบงำ

ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ส่วนนัฟซู ในที่นี้หมายถึง ความต้องการใฝ่ต่ำของมนุษย์นั่นเอง ซึ่งเป็นศัตรูที่ฉุดกระชากมนุษย์จากฐานันดรภาพอันสูงส่งที่พระองค์ได้ประทานให้...”  ]

ในขณะที่เราคิดชั่วอยู่ นั่นคือการที่ญินกาเฟรเหล่านั้นได้สิงสู่เราอยู่

เป็นไปได้หรือไม่ที่ การกระซิบกระซาบในใจมนุษย์ไม่เกี่ยวข้องกับบรรดาญิน (มารร้ายที่ไร้รูป) เหล่านั้น หรือเพราะจิตใจชั่วร้ายของเราเอง ไม่เกี่ยวกับญินกาเฟร

เป็นไปได้เพราะบางครั้ง ในการที่เรานั้น.กระทำความชั่วด้วยตัวเราเองเราอาจจะกลับไปโทษชัยฏอนว่าเป็นเพราะชัยฏอน บางทีมันอาจจะร้องเรียนได้  เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวเช่นในเดือนรอมฎอน ชัยฏอนทั้งหมดจะถูกล่ามโซ่ไว้  ดังนั้นมันไม่อาจจะไปล่อลวงใครให้ทำชั่วได้เป็นเวลา 1 เดือน  แต่หากใครที่ทำชั่วในช่วงนั้นก็เป็นความชั่วที่เกิดจากตนเองเพียวๆไม่ใช่เกิดจากชัยฏอนแน่ๆ

หรือคำว่า "ชัยฏอน" เป็นคำที่มีอะไรแฝงอยู่หรือไม่  นั่นคือ กระแสไฟฟ้าแห่งความชั่วร้าย (ญิน) ที่เดินหน้ากระตุ้นสมองเพื่อให้มนุษย์ตัดสินใจ

การเกิดขึ้นของ ชัยฏอน เกิดจากอิบลีสที่คิดว่าตนนั้นคิดว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น จนกระทั่งสามารถฝ่าฝืนได้แม้คำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า ทั้งๆที่อิบลีสนั้นเป็นผู้ที่ปฏิบัติดีเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้ามาโดยตลอด ดังนั้นจุดกำเนิดของความชั่วช้าทั้งหลายนี้จึงเกิดจากความพ่ายแพ้ต่อความชั่วที่อยู่ภายในจิตใจของตนเองนั่นเอง

ญิน เป็นสิ่งที่อัลลฮฮฺทรงสร้างมาโดยแยกไปจากมนุษย์ และมลาอิกะฮฺ แต่พวกมันมีคุณสมบัติ คล้ายมนุษย์เช่นสติปัญญาและการแยกแยะ ความดีและความชั่ว ดังนั้น จึงมีทั้งญินที่ศรัทธา และญินที่ปฏิเสธ (ชัยฏอน)

มาเพิ่มเติมลักษณะของญิน “ ญิน มี 3 ประเภท หนึ่ง บินในอากาศ อีกปะเภทหนึ่งปรกอบไปด้วยงูและสุนัข ประเภทที่ 3 อยู่ในสถานที่หนึ่งแต่ร่อนเร่ไปมา ” (ฮะดีษนี้เล่าโดย อัล-ฮากิม มเฏาะ-บะรอนีและบัยยฮะกี )

รายงานจากท่าน อบูอัด-ดัรดา ได้กว่าว่า ท่านร่อซูล ซล. ได้กล่าว่า  “ อัลลอฮฺทรงสร้างญิน มา3 ประเภทด้วยกัน ประเภทหนึ่งเป็นงูและแมลงป่องและสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดิน อีกประเภทหนึ่งเป็นเหมือนลมในอากาศ และอักประเภทหนึ่งที่จะต้องถูกสอบสอนและถูกลงโทษ ” 

-  อัลลอฮฺได้ทรางกล่าวถึงความละเอียดอ่อนของสรีระของญฺนไว้ว่า   “  แน่นอน มัน(ชัยฏอน)และเผ่าพันธุ์ของพวกมันมองเห็นพวกเจ้าโดยที่พวกเจ้ามองไม่เห็นพวกมัน  ” (กุรอาน 7:27 )

-   ญินมีความสามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างได้ มันอยู่ในรูปงูและแมลงป่อง ในรูปของนก  และปรากฏตัวในรูปของมนุษย์ ขอยก 1 รายงาน เกียวกับการเปลี่ยนรูปร่างของญิน    

โดยมีรายงานว่า  ชัยฏอนได้แปลงร่างเป็นชายชราแห่งแคว้นนัจญ์เมื่อพวกกุเรชได้มาชุมชุมกันที่ดารุลนัดวะฮฺเพื่อพูดถึงปัญหาเรื่องที่จะจัดการอย่างไรกับท่านนบี  จะด้วยการฆ่า หรือขังคุกหรือเนรเทศ ชัยฏอนได้แนะนำพวกกุเรซให้ฆ่าท่าน 

ที่ท่านคลื่นแทรกสงสัยเรื่องการกระซิบกระซาบของชัยฏอนนั้น  “การกระซิบ” คือการเคลื่อนไหวและเสียงต่ำๆ โดยที่เราไม่รู้และไม่สามารถป้องกันได้ การกระซิบคือการแอบใส่เข้าไปในตัวตน  

แต่มันกระซิบเข้าไปถึงหัวใจได้อย่างไร  เมื่อมันเข้าไปในร่างของลูกหลานอาดัมเพราะมันเป็นร่างที่ละเอียดอ่อนแล้วจึงกระซิบ มันได้ยั่วยุตัวตนของมนุษย์    (นับซู อารมณ์ใฝ่ต่ำ ) ด้วยความคิดเลวทราม อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า  “ มันกระซิบอยู่ในหัวอกของมนุษย์   ” 

 ชัยฏอนเรียกร้องมนุษย์ไป สู่อะไร ??? 

สิ่งแรกที่ชัยฏอนต้องการจากผู้รับใช้มันคือ การปฏิเสธอัลลอฮฺ และการเอาสิ่งหนึงสิ่งใดมาเป็นพระเจ้าควบคู่กันไปกับอัลลอฮฺ การเป็นศัตรูต่ออัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ หากมันสามารถทำให้ลูกหลานอาดัมหลงทางได้ มันก็จะเบาใจและพักงานหนักของมัน  อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า  เช่นเดียวกับชัยฏอนเมื่อมันกล่าวแก่มนุษย์ว่า “จงปฏิเสธ” ดังนั่นเมื่อเขาปฏิเสธศรัทธาแล้ว  มันก็กล่าวว่า  “แน่นอน ฉันขอปลีกตัวออกจากท่าน ”  (กุรอาน 59:16 ) 

เมื่อชัยฏอนไม่ประสบผลสำเร็จในหนทางดังกล่าว มันก็จะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกลานอาดัม ไปสู่การทำผิดและฝ่าฝืน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่   

อัลลอฮฺทรงกล่าวว่า  “ มันเสี้ยมสอนสูเจ้าให้กระทำในสิ่งที่ชั่วช้าลามก และชักนำสูเจ้าให้กล่าวถึงอัลลอฮฺในสิ่งที่สูเจ้าไม่รู้  ”  (กุรอาน 2: 169 )    

“  มันกล่าวว่า ด้วยเหตุที่พระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์ตกอยู่ในความหลงผิด แน่นอนข้าพระองค์จะซุ่มคอยพวกเขา ซึ่งทางอันเที่ยงตรงของพระองค์ แล้วข้าพระองค์จะจู่โจมใส่พวกเขาจากทุกด้าน จากเบื้องหน้าของพวกเขา และจากเบื้องหลังของพวกเขาและจากเบื้องขวาของพวกเขา และจากเบื้องซ้ายของพวกเขา และพระองค์จะไม่พบว่าส่วนมากของพวกเขานั้น เป็นผู้กตัญญู ”     ( กุรอาน 7 : 16-17 )                   

หน้าที่ของมันโดยรวม คือการถึงให้ออกไปสู่ความชั่วร้าย ถึงออกไปสู่การปฏิเสธ และการทำความผิดต่างๆ นานา โดยการล่อลวงในรูปแบบต่างๆ 

เพราะญินจะคลุกคลีกับมนุษย์อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยินและได้เห็นในสิ่งที่มนุษย์กระทำ และจะเข้าสิงหรือซุกซ่อนอยู่ในร่างของมนุษย์เมื่อใดที่เขาสามารถควบคุมจิตใจของผู้ที่อ่อนแอกว่า ดังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง 

แต่ก็มีดุอาอฺและอายะฮฺอัลกุรอานที่ส่งเสริมให้อ่านเพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันตนเองจากความชั่วร้ายของพวกเขา อาทิเช่น กุลอาอูซุบิร็อบบิลฟะลัก (สุเราะฮิอัลฟะลักทั้งหมด) กุลอาอูซุบิร็อบบินนาส (สุเราะฮฺอันนาสทั้งหมด) และอายะฮฺอัลกุรสีย์ เป็นต้น

ดังนั้น ผู้ที่มีความศรัทธามั่น ชัยฏอน ก็จะไม่สามารถทำอะไรเขาได้

ที่มา: pantip.com

อัพเดทล่าสุด