อยากไปทำฮัจย์มากแต่ว่ามีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระสามารถไปทำฮัจย์ได้ไหม ถ้าไปก็รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกโกหกตัวเอง
การประกอบพิธีฮัจย์ เป็นหลักการที่ 5 ของรุก่นอิสลาม อัลลอฮฺทรงตรัสไว้ในคัมภีร์ อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อาลิอิมรอน อายะฮฺที่ 97
ความว่า : และสำหรับอัลลอฮฺ (มีบทบัญญัติ) เหนือบรรดามนุษย์ คือการทำฮัจย์ ณ บัยตุลลอฮฺ สำหรับผู้ที่มีความสามารถเดินทางไปได้
หมายถึงว่า มุสลิมที่มีสุขภาพแข็งแรง สติปัญญาสมบูรณ์ มีทรัพย์สินเพียงพอในการใช้จ่ายโดยมิต้องเป็นหนี้สินและเดือดร้อนบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ และเส้นทางที่จะเดินทางไปจะต้องปลอดภัย
การไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครมักกะฮ์ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต คือ ความฝันของมุสลิมทุกๆ คน และอีกหนึ่งฝัน คือการไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ทั้งนี้ กรณีอุมเราะห์ สามารถเดินทางไปได้ตลอดทั้งปี แต่การประกอบพิธีฮัจย์ จะมีช่วงระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน
คำถาม : อยากไปทำฮัจย์มาก เนื่องจากได้รับเงินพิเศษหรือโบนัสมา พอที่จะสามารถเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำฮัจย์ได้ตามราคาที่เขากำหนดทั่วๆ ไป แต่ว่ามีหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระสามารถไปทำฮัจย์ได้ไหม ถ้าไปก็รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกโกหกตัวเอง จะต้องบอกเจ้าหนี้อย่างไร และภาคผลบุญที่เราตั้งใจนั้นจะถูกต้องตามหลักของศาสนาหรือไม่?
- ดุอาอฺให้พ้นจากหนี้สิน
- ทำไมอิสลามจึงห้ามมีการกินดอกเบี้ย?
- ดุอาอฺขอให้พ้นจากความเกียจคร้าน อ่อนแอ ตระหนี่ วิตกกังวล หนี้สิน
ตอบโดย: อาลี เสือสมิง
กรณีการไปทำฮัจย์ของผู้มีหนี้สินนั้น สามารถไปกระทำฮัจย์ได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
1. ให้ทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร (พินัยกรรมหรือคำสั่งเสีย-วะซียะฮฺ) เอาไว้ถึงส่วนที่เป็นภาระหนี้สินนั้นว่ามีอะไรบ้าง โดยให้มีพยานรับรู้ในการทำบันทึกนั้น
2. ให้มอบหมาย (เตากีล) ผู้ทำหน้าที่แทนในการชำระหนี้สินนั้นโดยเฉพาะหนี้สินที่จำต้องชำระในขณะนั้น ถือว่า การมอบหมายดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็น (วาญิบ) และถือเป็นเรื่องที่ส่งเสริมให้กระทำ (มันดูบ) ในกรณีของหนี้สินที่ผ่อนชำระตามกำหนดเวลา
3. ให้บอกกล่าวและขออนุญาตผู้เป็นเจ้าหนี้ในการเดินทางไปทำฮัจย์ หากผู้เป็นเจ้าหนี้อนุญาต ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเมื่อกระทำเงื่อนไข 2 ประการแรกที่กล่าวมา
แต่ถ้าไม่อนุญาตก็ถือว่าเป็นที่ต้องห้ามในการเดินทาง แต่การประกอบพีธีฮัจย์นั้นถือว่า ใช้ได้ ถ้ากระทำครบถ้วนตามหลักพิธีกรรมที่กำหนดไว้ เพียงแต่การเดินทางในกรณีนี้เป็นสิ่งที่มีโทษ
นักวิชาการระบุว่า "หากผู้ที่จะไปประกอบพิธีฮัจย์มีภาระหนี้สินที่จำต้องชำระในขณะปัจจุบันโดยผู้นั้นมีความสามารถจะชำระหนี้สินได้ ผู้เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิห้ามไม่ให้ผู้นั้นออกเดินทางและกักเขาเอาไว้ได้ และถ้าหากผู้นั้นเป็นผู้ขัดสน ผู้เป็นเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิร้องขอผู้นั้น (เพราะจำเป็นที่เจ้าหนี้ต้องประวิงเวลาหรือผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้) และผู้นั้น (ลูกหนี้) มีสิทธิเดินทางโดยไม่ต้องคำนึงถึงความพอใจของเจ้าหนี้ได้
และทำนองเดียวกันถ้าหากหนี้สินเป็นประเภทผ่อนชำระ (مُؤَجَّلٌ) ลูกหนี้ก็มีสิทธิเดินทางได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงความพอใจของเจ้าหนี้ได้ แต่ส่งเสริมให้ลูกหนี้อย่าเดินทางจนกว่าจะมอบหมายผู้ทำหน้าที่ (ว่ากีล) ในการชำระหนี้แทนตนเสียก่อนเมื่อครบกำหนดการชำระหนี้ "
(กิตาบ อัลอีฎอฮฺ ฟี มะนาซิก อัลฮัจญ์ วัลอุมเราะฮฺ ; อิหม่ามอันนะวาวีย์ , มักตะบะฮฺ อัลอิมดาดียะฮฺ มักกะฮฺ (1996) หน้า 49-50
- ไปทำอุมเราะห์ก่อนไปทำฮัจย์ได้หรือไม่
- ผลบุญเท่ากับการประกอบพิธีฮัจย์ 100 ครั้ง ภายใน 3 นาที ต้องทำอย่างไรบ้าง?
- ทำไมต้องไปฮัจญ์? ไกลถึงซาอุฯ
- ใครคือ ผู้สร้างกะบะห์เป็นคนแรก ?
- ดุอาอฺแสดงความยินดีกับผู้ที่กลับมาจากการประกอบพิธีฮัจย์
- 5 ข้อผิดพลาดที่ผู้ทำฮัจญ์ควรระวัง
- 5 ความเชื่อผิดๆของ ฮุจญาตไทย
- ทำพิธีฮัจญ์ อนุญาตให้ล่าช้าได้หรือไม่?
- ภาพมุสลิมไทย ไปทำฮัจย์ ในอดีต
- จุดศูนย์กลางของโลกอยู่ที่ไหน ?
ที่มา: alisuasaming.org
เรียบเรียงโดย: สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์