เป็นการรายงานตัวของท่านต่อพระองค์อัลลอฮ์ ว่าท่านได้มาตามคําเชิญของพระองค์มาสู่พิธีฮัจญ์ ตามที่พระองค์ได้บัญชาให้นบีอิบรอฮีมเป็นผู้ประกาศคําเชิญนี้
ข้อคิดในพิธีฮัจญ์ ที่ผู้แสวงบุญควรรู้
1. ขณะเมื่อท่านได้ตั้งเจตนาเนียต และกล่าวคําตัสบียะห์
เป็นการรายงานตัวของท่านต่อพระองค์อัลลอฮ์ ว่าท่านได้มาตามคําเชิญของพระองค์มาสู่พิธีฮัจญ์ ตามที่พระองค์ได้บัญชาให้นบีอิบรอฮีมเป็นผู้ประกาศคําเชิญนี้ เป็นการแสดงสถานะของท่านว่าเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์เป็นพระเจ้า ท่านพร้อมรับบัญชาของพระองค์ พร้อมแสดงการภักดีต่อพระองค์ และรับบัญชามาปฏิบัติทันที โดยไม่ลังเลและไม่ต้องหาเหตุผล และการที่ท่านกล่าวคําตัลบียะห์ อยู่ตลอดเวลาก็เพื่อย้ำสถานะของท่านและความพร้อมของท่านที่จะแสดงการภักดีต่ออัลลอฮ์
- จ้างทำฮัจย์แทนคนที่ตายแล้วได้ไหม?
- สรุปขั้นตอน การประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮฺ (ฮัจญ์ตะมัตตัวะอฺ)
- เตรียมตัวไปทําฮัจย์ ต้องทำอย่างไร? ความสำคัญของฮัจย์
- การทําฮัจญ์มีกี่แบบ คู่มือไปทำฮัจญ์
- การทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอ์ พร้อมเนียตเอียะห์รอมอุมเราะห์
- การทําฮัจญ์แบบอิฟรอด (ฮัจญ์ก่อนอุมเราะห์)
- การทําฮัจญ์แบบกิรอน (เนียตฮัจญ์และอุมเราะห์พร้อมกัน)
- ไปทำฮัจย์ อุมเราะห์ แต่มีหนี้สินอยู่ ไปได้หรือไม่?
2. ขณะเมื่อท่านอยู่ในชุดเอียะฮ์รอม
เป็นการแสดงตัวตนที่แท้จริงของท่าน เพราะท่านได้สลัดเครื่องแบบทั้งหลายที่ท่านเคยสวมใส่ออกไป รวมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ที่ท่านครองอยู่ ตลอดจนเครื่องประดับทั้งหลาย แม้กระทั้งเครื่องหอม บัดนี้ ท่านเหลือแต่ตัวตนที่แท้จริงของท่าน ท่านได้แสดงตนเป็นบ่าวของอัลลอฮ์ที่ต้องพึ่งพาพระองค์ เป็นบ่าวที่ยอมจํานน และศิโรราบต่อพระองค์อย่างแท้จริง และท่านจะอยู่ในสภาพเช่นนั้นจนเสร็จพิธีฮัจญ์
- ชุดเอียะรอม ภาพวิธีใส่ชุดเอียะรอม ข้อห้ามขณะครองเอียะห์รอม
- การทำฮัจญ์แบบตะมัตตัวะอ์ พร้อมเนียตเอียะห์รอมอุมเราะห์
3. ขณะมื่อท่านวุกุฟ ที่ทุ่งอะรอฟะห์ พักค้างที่มุซดะลิฟะห์และมินา
เป็นการจําลองเหตุการณ์ ที่ท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะต้องฟื้นคืนชีพในวันกิยามะห์และถูกนําไปรวมกับผู้คนทั้งหลายใน “มะฮ์ชัร” ที่ท่านจะต้องถูกสอบสวน และพิพากษาตัดสิน ท่านจะทําอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนั้น ในสถานการณ์ที่ท่านไม่อาจเพิ่มเติมความดีใดๆให้แก่ตัวท่าน ไม่มีใครจะให้ ความช่วยเหลือแก่ท่านได้ แต่ที่ทุ่งอะรอฟะห์ และในดินแดนมะชาอิร ในช่วงเวลาอันจํากัด ท่านยังมีโอกาสที่จะทําความดีเพิ่มเติม ด้วยการกล่าว คําซิกุ้ลเลาะห์ อ่านอัลกุรอาน กล่าวคําสดุดีอัลลอฮ์ วิงวอนขอความเมตตา ขออภัยโทษต่อพระองค์ เพราะในวันอะรอฟะห์ อัลลอฮ์จะปลดปล่อยบ่าวของพระองค์จํานวนมากให้รอดพ้นจากไฟนรก
4. ขณะเมื่อท่านตอวาฟ เวียนรอบกะบะห์
ขณะที่ท่านเดินวนรอบกะบะห์ ในสภาพเดินวนซ้ายทวนเข็มนาฬิกา ท่านกําลังรวมตัวของท่านให้เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลอาณาจักร อันไพศาลของอัลลอฮ์ ที่ต่างก็มีเส้นทางโคจรวนซ้ายทวนเข็มนาฬิกาทั้งสิ้น ท่านจะเกิดสํานึกว่าท่านเป็นหน่วยหนึ่งของจักวาล และเป็นหน่วยที่เล็กมาก จนแทบไม่มีความสําคัญใดๆเลย ขณะนั้นจิตสํานึกของท่านจะมีแต่ความถ่อมตน สลัดทิ้งความหยิ่งยะโสและโอหังออกไป ท่านจะต้องนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ และศิโรราบต่อพระองค์ และถ่อมตนต่อเพื่อนมนุษย์
- ตอวาฟ กะบะฮ์ เผลอโดนผิวหนังผู้อื่น เสียน้ำละหมาดหรือไม่?
- หินดำ คือ? กะบะฮ์ คือ? ต่างกันอย่างไร มีคำตอบ
- ท่านทราบหรือไม่ ประตูอัลกะบะห์เป็นฝีมือช่างไทย มีใครบ้าง?
- ใครคือ ผู้สร้างกะบะห์เป็นคนแรก ?
5. ขณะเมื่อท่านเดินสะแอ
ขณะที่ท่านเดินสะแอ ท่านจะนึกถึงความมานะพยายามของพระนางฮาญร ที่เดินหาน้ำให้แก่ลูกน้อย อิสมาอีล ระหว่างภูเขา ซอฟา และมัรวะห์ เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า จนในที่สุดพระนางได้พบน้ำและได้กลายเป็นบ่อน้ำซัมซัม
ให้ผู้คนได้ดื่มกินตราบถึงวันนี้ ด้วยเดชานุภาพของอัลลอฮ์ พระองค์จะประทานน้ำให้แก่พระนางตั้งแต่เที่ยวแรกของการ เดินหาน้ำก็ได้ แต่เพื่อเป็นบทเรียนให้แก่มนุษย์ว่า การช่วยเหลือของพระองค์ หรือชัยชนะนั้นพระองค์จะประทานให้แก่ผู้ที่ใช้ความมานะ พยายามอย่างถึงที่สุดเสียก่อนเสมอ บางคนอาจเรียกร้องหาความ ช่วยเหลือ หรือแสวงหาชัยชนะทั้งที่เขายังไม่ได้ใช้ความพยายาม หรือใช้ความพยายามยังไม่ถึงที่สุด แล้วเขาจะได้รับความช่วยเหลือหรือได้รับชัยชนะได้อย่างไร
6. ขณะที่ท่านขว้างก้อนหิน
ขณะที่ท่านขว้างก้อนหิน ที่เสาหินทั้งสามต้นนั้น เท่ากับท่านได้ประกาศตัวเป็นศัตรู กับชัยตอนมารร้ายอย่างเป็นทางการ ตามบัญชาของอัลลอฮ์ที่ว่า “ท่านจงเอาชัยตอนเป็นศัตรู เมื่อท่านได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกับมันแล้ว ไม่มีวันที่ท่านจะกลับไปคืนดีเป็นมิตรกับมัน และไม่มีวันที่ท่านจะเดินตามรอยเท้าของมัน ท่านจะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ศัตรูเข้ามาใกล้ตัวท่าน ท่านจะกล่าวคําขอป้องกันจากอัลลอฮ์ให้พ้นไปจากมัน ท่านจะต้องไม่ลืมว่า ไม่ว่าท่านจะระมัดระวังตัว และขอป้องกันให้พ้นไปจากชัยตอนมารร้ายอย่างไร มันก็จะไม่ลดละความพยายามที่จะเข้ามาใกล้ท่าน และทําลายท่านด้วยการลวงล่อท่านให้ติดบ่วงของมัน และลากจูงท่านไปสู่ความชั่ว ท่านจะต้องระลึกอยู่เสมอว่าชัยตอนมารร้ายคือศัตรูของท่านที่ท่านจะไม่ยอมสยบให้แก่มันเป็นอันขาด