สิ่งหนึ่งทำให้เรามักเกรงใจพี่น้องของเรา คือ การไม่ตักเตือนพี่น้องของเราในสิ่งที่เขาผิดหลักการศาสนา เรานิ่งเฉยไม่บอก การไม่บอกจึงมีผลเสีย กล่าวคือ
อิสลามห้ามแขวนรูปในบ้าน (คน,สัตว์) ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วกระมัง?
โดย: อ.มุรีด ทิมะเสน
ท่านอะลีย์ เล่าว่า
صَنَعْتُ طَعَامًا، فَدَعَوْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «فَجَاءَ فَرَأَى فِي الْبَيْتِ، تَصَاوِيرَ، فَرَجَعَ»
ความว่า: “ (วันหนึ่ง) ฉันทำอาหาร จากนั้นฉันเชิญท่านรสูลุลลอฮฺ (เพื่อมารับประทานอาหารที่บ้าน) ครั้นท่านรสูล (มาที่บ้าน) ท่านรสูลเห็นรูปภาพ (สัตว์) ต่างๆ (แปะ หรือแขวน) ที่ฝาผนังบ้าน, (เหตุนั้น) ท่านรสูลจึงเดินออก (จากบ้านท่านอะลีย์โดยไม่รับประทานอาหาร)” [หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ หะดีษที่ 3359]
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษ
สิ่งหนึ่งทำให้เรามักเกรงใจพี่น้องของเรา คือ การไม่ตักเตือนพี่น้องของเราในสิ่งที่เขาผิดหลักการศาสนา เรานิ่งเฉยไม่บอก การไม่บอกจึงมีผลเสีย กล่าวคือ พี่น้องของเราเกิดความเข้าใจผิดว่า สิ่งที่เขาทำนั้นไม่ผิดหลักการ หรือไม่เป็นไร เพราะท่านครูเห็นยังไม่พูดตำหนิอันใดเลย
พึงทราบเถิดว่า เหล่าบรรดาท่านครูนิ่งไม่เตือนลูกศิษย์ หรือคนใกล้ชิดเนี่ย ราวกับให้เครดิตเขากระทำความผิด หรือฝ่าฝืนหลักการศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ เพราะท่านครูเห็นเขาทำผิดหลักการศาสนายังไม่เตือนเลย เขาจึงคิดว่า สิ่งนั้นไม่เป็น หรือไม่ผิดหลักการ ท่านนบีของเราจึงทำไว้เป็นตัวอย่าง แม้ว่าท่านอะลีย์จะมีตำแหน่งเป็นถึงลูกเขยท่านนบีก็ตาม
ทว่าท่านนบีต้องแสดงออกถึงจุดยืนว่า ไม่การันตีเรื่องฝ่าฝืนคำสั่งศาสนา มาตรแม้นว่าสิ่งนั้นคือ “ศาสนา” แล้วไซร้ ย่อมต้องยืนหยัดอยู่วันยังค่ำ วันหนึ่งท่านอะลีย์ทำอาหารเลี้ยงท่านนบีที่บ้าน ครั้นท่านนบีเดินเข้าภายในบ้านเหลือบเห็นรูปภาพสัตว์แขวน (หรือแปะ) ข้างฝาผนัง [ซึ่งท่านนบีเคยบอกไว้ว่า “มะลาอิกะฮฺแห่งความเมตตาจะไม่เข้าบ้านซึ่งแขวนรูปภาพคน หรือภาพสัตว์ภายในบ้านหลังนั้น”]
ท่านนบีเตือนท่านอะลีย์ด้วยการเดินทางจากบ้านของเขา ซึ่งแน่นอนยิ่ง การเตือนของท่านนบีมีหลายรูปแบบ ท่านนบีรู้ว่าใครจะต้องเตือนแบบใด แน่นอนว่าท่านอะลีย์รู้แล้วว่าต้องมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในบ้านของตน ครั้นทราบเรื่องท่านอะลีย์ก็แก้ไข นี่คือการอยู่ร่วมสังคมอันเป็นพื้นฐานแห่งศรัทธาอย่างแท้จริง
ลางครั้งเราอาจถูกทดสอบในเรื่องข้างต้น ยุคนี้เรียกว่ายุค ถ้าพวกฉันผิด ฉันไม่ตำหนิ แม้ว่าพวกฉันจะทำผิดมากเพียงใดก็ตาม ฉันจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่สนใจเพราะเป็นสหายกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากมีคนอื่นมาตำหนิความผิดพวกพ้องตน ทั้งๆ ที่ผิดจริง เราก็ช่วยโต้แทนพวกพ้องของเราอีกต่างหาก
พึงทราบเถิด อิสลามสอนให้เรายืนหยัดอยู่บนสัจธรรมเสมอ กอดรัดฟัดเหวี่ยงความยุติธรรมให้ประจักษ์มิเสื่อมคลาย ใครทำผิดหลักการศาสนาก็ช่าง เราต้องตักเตือนเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความเป็นพี่น้อง ยิ่งเขาเป็นญาติเรา เพื่อนเรา หรือคนในครอบครัวเรา ยิ่งต้องเตือนและทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปสู่หนทางอันเที่ยงตรง สังคมเราต้องประคองความรัก ผดุงกัลยาณมิตรเยี่ยงนี้ตลอดไป บรรยากาศแห่งการเป็นพี่น้องมุสลิมย่อมเกิดขึ้นในไม่ช้า ผิดเราเตือน ถูกเราส่งเสริมและขอดุอาอ์ให้ หวังว่าบรรยากาศเยี่ยงนี้จักอุบัติขึ้นจริงในสังคมเราในเร็ววัน (อามีนยาร็อบบัลอาละมีน)
- อิสลามห้ามกินอะไรบ้าง (ละเอียด)
- นกฮุดฮุด นกกะรางหัวขวาน ที่ปรากฏในคัมภีร์อัลกุรอาน
- เหตุใดมุสลิมกินร้านต่างศาสนิกไม่ได้ ทั้งที่ไม่มีหมู
- มุสลิมได้เข้าสวรรค์ เพราะ..เมตตาต่อสุนัข
- มุสลิมช่วยเหลือสุนัข ก็ได้..ผลบุญเช่นกัน
- ไดโนเสาร์ ทำไมอัลกุรอานไม่พูดถึงเรื่องนี้?
- มุสลิมสวมเสื้อมีรูปสัตว์ ขณะละหมาดได้หรือไม่?
- อิสลามสัมผัสหมู เผลอกินหมูโดยไม่ตั้งใจ ต้องทำไง?
- มุสลิมกับฮวงจุ้ยบ้าน