การลูบหน้าหรือศีรษะเมื่อเสร็จสิ้นจากการละหมาดนั้น ถือว่าเป็นสุนัต หากผู้ใดที่ไม่ทำการลูบหน้า จึงไม่สมควรไปตำหนิเขา เนื่องจากมันเป็นสิ่งไม่วายิบ
การลูบหน้าหลังให้สลาม
ชัยคฺ ดาวูด อิบนุ อับดุลลอฮฺ อัล-ฟะฏอนีย์ ท่านได้กล่าวในหนังสือ "มุนยะตุล มุศ็อลลีย์" ว่า:
ادافون سنة يغد كرجاكن كمدين درفدا سمبهيغ مك اداله نبي صلى الله عليه وسلم افبيل سلسي درفدا سمبهيغ مثافو دعن تاغنث داتس كفلاث دان دبخاث « بسم الله الذي لا إله إلا هو الرحمن الرحيم ، اللهم أذهب عني الهم والحزن »
"ส่วนการปฏิบัติที่เป็นสุนัตหลังจากการละหมาดนั้น ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม หลังจากท่านละหมาดเสร็จ ท่านจะลูบบนศีรษะด้วยมือของท่าน และท่านจะอ่านว่า:
« بسم الله الذي لا إله إلا هو الرحمن الرحيم ، اللهم أذهب عني الهم والحزن »
"ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ซึ่งไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ โอ้อัลลอฮฺโปรดปัดความวิตกกังวลและความเสียใจออกจากตัวฉันด้วยเถิด"
การลูบหน้าหรือศีรษะเมื่อเสร็จสิ้นจากการละหมาดนั้น ถือว่าเป็นสุนัต หากผู้ใดที่ไม่ทำการลูบหน้า จึงไม่สมควรไปตำหนิเขา เนื่องจากมันเป็นสิ่งไม่วายิบ และกลุ่มที่ไม่ลูบหน้า ก็ไม่สมควรไปกล่าวหาผู้กระทำว่าเป็นบิดอะฮ์
- ขั้นตอนการละหมาดต่างๆ คำกล่าวพร้อมกับเนียต
- ทำไมมุสลิมต้องละหมาด ตั้ง 5 เวลา สงสัย?
- การละหมาดซุบฮิ วิธีละหมาดซุบฮิ
ส่วนกรณีที่วะฮาบีย์มักฮุกุ่มผู้อื่นในเรื่องการลูบเป็นบิดอะฮ์นั้น เพราะพวกเขาถือว่า การปฏิบัติด้วยหะดิษฏออีฟ เป็นบิดอะฮ์ ซึ่งผมคิดว่าจุดยืนของพวกเขานี้ ไม่สมควรที่จะเอาไปกำหนดกฏเกนฑ์ให้กับทัศนะอื่น จนเป็นเหตุกล่าวหาบิดอะฮ์กับทัศนะอื่นจากตน และพฤติกรรมดังกล่าว ก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างของสะละฟุศศอลิหฺ
وَعَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ أَنَّ الَّنِبيَّ صَلَّى اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ إِذَا صَلَّى وَفَرَغَ مِنْ صَلاَتِهِ مَسَحَ بِيَمِيْنِهِ عَلَى رَأْسِهِ وَقَالَ: بِسْمِ اللهِ الَّذِيْ لاَ إِلَهَ إِلاَّ هُوَ الرَّحْمَنُ الرَّحِيْمُ، اللَّهُمَّ أذْهَبْ عَنِّي الْهَمَّ وَالحَزَنَ
รายงานจาก ท่านอะนัส บิน มาลิก ว่า "แท้จริง ท่านนบี(ซ.ล.) เมื่อท่านได้ทำการละหมาด และเมื่อเสร็จสิ้นจากละหมาดนั้น ท่านได้เอามือขวาลูบที่ศรีษะของท่าน และกล่าวว่า "ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ ผู้ซึ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ผู้ทรงเมตตาปราณี โอ้ผู้อภิบาลของฉัน โปรดจงให้ความความโศกและความเศร้าหายไปจากฉันด้วยเถิด"
وَفِيْ رِوَايَةٍ: مَسَحَ جَبْهَتَهُ بِيَدِهِ الْيُمْنَى وَقَالَ فِيْهَا: اللَّهُمَّ أذْهَبْ عَنِّي الْهَمَّ وَالْحَزَنَ
มีอีกรายงานหนึ่ง กล่าวว่า " ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ลูบหน้าผากของท่านด้วยมือขวา และกล่าวว่า "ด้วยพระนามของอัลเลาะฮ์ ผู้ซึ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ผู้ทรงเมตตาปราณี โอ้ผู้อภิบาลของฉัน โปรดจงให้ความความโศกและความเศร้าหายไปจากฉันด้วยเถิด"
رَوَاهُ الطَّبَرَانِي فِي الأَوْسَطِ وَالَبزَّارُ بِنَحْوِهِ بِأَسَانِيْدِ، وَفِيْهِ زَيْدُ الْعَمِّى وَقَدْ وَثَّقَهُ غَيْرُ وَاحِدٍ وَضَعَّفهُ الْجُمْهُوْرُ، وَبَقِيَّةُ رِجَالِ أَحَدِ إِسْنَادَيِ الطَّبَرَانِي ثِقَاتٌ وَفِيْ بَعْضِهِمْ خِلاَفٌ
รายงานโดยท่าน อัฏฏ๊อบรอนีย์ ไว้ใน (มั๊วะญัม) อัลเอาซัฏ และท่าน อัลบัซ
ซาร ก็ได้รายงานเหมือนกันนี้ ด้วยหลายสายรายงาน และในสายรายงานนั้น มี ท่านซัยดฺ อัล-อัมมีย์ ซึ่งเขานั้น มีนักหะดิษไม่ใช่คนเดียวเลย ที่ให้การเชื่อถือ ثقة กับเขา และส่วนมากกล่าวว่า เขานั้นฏออีฟ และนักรายงานที่เหลือจากทั้งสองสายรายงานของท่านอัฏฏ๊อบรอนีย์นั้น ต่างเชื่อถือได้ และในบางส่วนก็มีการขัดแย้งกัน "
ดู หนังสือ มัจญฺมะอฺ อัลซะวาอิด ของท่าน นูรุดดีน อัลฮัยษะมีย์ เล่ม 10 หน้า 110 หะดิษที่ 16971 และ 16972