ทะเลสาบที่ดัจญาลพูดถึง


112,838 ผู้ชม

ทะเลสาบที่ดัจญาลพูดถึงว่า: มันจะเหือดแห้งแล้วตัวมันก็จะออกมา พิจารณาดูจากภาพเอาเอง


ทะเลสาบที่ดัจญาลพูดถึง

ทะเลสาบที่ดัจญาลพูดถึงว่า: มันจะเหือดแห้งแล้วตัวมันก็จะออกมา พิจารณาดูจากภาพเอาเอง

ครั้งหนึ่งซอฮาบะห์ของท่านนบีคนหนึ่งได้ออกทะเลและเจอคลื่นหนักไปติดเกาะแห่งหนึ่งกลางทะเลแล้วได้มีโอกาสพบเจอพูดคุยกับดัจญาล ดัจญาลได้ถามท่านหลายอย่าง ถามถึงท่านนบี มูฮัมหมัดว่า:  มาหรือยัง

ถ้าจำไม่ผิดซอฮาบะห์ที่เจอคือ ท่าน ตามีม อัดดารีย์  จากข้อมูลที่ค้นคว้ามา ได้กล่าวว่า:

ทะเลสาบนั้นคือทะเลสาบ  ไทบีเรส หรือทะเลสาบกาลีลี อยู่ที่ปาเลลสไตน์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่เลี้ยงอิสราเอลและปาเลสไตน์

และคำถามหนึ่งในคำถามที่เราลงภาพคือ ถามถึงแม่น้ำแห่งนี้ว่า ยังมีน้ำอยู่มัยมันเหือดแห้งหรือยัง?

และดัจญาลก็ได้กล่าวว่า:  แม่น้ำแห่งนี้จะเหือดแห้งแล้วมันก็จะได้ออกมาในที่สุด

คุณลองดูภาพทะเลสาปที่ดัจญาลกล่าวถึงในวันนี้สิ

มันเหือดแห้งแล้วครับ...โอ้พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

วัลลอฮูอลัม

เรียบเรียงโดย :  ฟีโรส ข่าน

ดัจญาล คืออะไร ดัจญาล มีรากศัพย์มาจากคำว่า "ดาญาลา" หมายถึง "การโกหกชนิดเขี้ยวลากดิน" ในรายงานต่างๆอย่างมากมายที่ได้ให้ความหมายของดัจญาล ในนามของผู้โกหก ผู้หลอกลวง ผู้ชั่วร้าย ผู้ปกปิด ฯลฯ

ซึ่งสามารถที่จะสรุปได้ว่า บุคคลใดก็ตามที่เป็นผู้ที่โกหกชนิดเขี้ยวลากดิน และในแต่ละวันอยู่แต่กับการโกหกหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาคือดัจญาลในวจนะของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) และหากวันใดที่หน้าแผ่นดินนี้เต็มไปด้วยบุคคลเหล่านี้ วันนั้นคือวันซึ่งอิมามมะฮ์ดี (อ.) ตัวแทนแห่งพระผู้เป็นเจ้าคนสุดท้ายจากวงศ์วานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) จะมาปรากฏกายในไม่ช้า


เพิ่มเติม:  

หะดีษที่เกี่ยวกับดัจญาล

ฟาตีมะฮฺ บุตรีเกียส ได้กล่าวว่า ฉันได้ยินเสียงเรียกของท่านศาสดามูฮัมหมัดว่า ?  ละหมาดคือศูนย์รวม ฉันก็ได้ออกไปยังมัสยิด และละหมาดพร้อมกับท่านศาสดามูฮัมหมัดโดยนั่งทัดจากชายกลุ่มหนึ่ง เมื่อท่านศาสดาเสร็จจากละหมาด ท่านก็มานั้งบนมิมบัรโดยหัวเราะ แล้วก็กล่าวว่า จำเป็นต่อทุกคนต้องยึดที่ละหมาดของตน (ให้นั่งอยู่กับที่) แล้วกล่าวต่อไปว่า พวกท่านรู้หรือไม่ว่า ฉันรวมพวกท่านมาเพื่อเหตุใด?

พวกเขากล่าวว่า อัลลอฮฺและศาสดาเท่านั้นที่รู้ดียิ่ง ท่านศาสดากล่าวต่อไปว่า ฉันและอัลลอฮฺไม่ได้รวมพวกท่านมาเพื่อต้องการหรือขมขู่หรอก แต่ทว่าฉันรวมพวกท่านมาก็เพราะว่าท่านตามีมอัดดารีย์ที่เป็นชาวคริสเตียน เขาได้มาแล้วทำาการให้สัตยาบัน และได้เข้ารับอิสลาม เขาได้เล่าเรื่อง ๆ หนึ่งที่ตรงกับเรื่องที่ฉันเคยเล่าให้พวกท่านได้ฟังมาแล้วจากเรื่องของดัจ ญาล เขาเล่าให้ฉันฟังว่า เขาแล่นเรือเดินทะเล พร้อมกับคนอีก 30 คนที่เป็นโรคเรื่อน เรือของพวกเขาได้โต้คลื่นนานถึง 1 เดือนในทะเล แล้วพวกเขาก็ได้ไปติดเกาะ ๆ หนึ่งจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก โดยพวกเขาก็นั่งอยู่ที่เรือ แล้วก็เดินเขาไปในเกาะ จนกระทั่งมีสัตว์ตัวหนึ่งที่มีขนมากมายมาพบกับพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าด้านไหนหลังด้านไหนหน้า (เพราะว่าขนมันเยาะ) พวกเขาจึงอุทานว่า ?ชิบหายล่ะ แกคืออะไรกันแน่? มันก็ได้พูดว่า ฉันคือยัซซาซะฮฺ พวกเขาก็ได้พูดต่อไปว่า อะไรคือยัซซาซะฮฺ มันก็พูดว่า ทุกคนจงไปหาชายที่อยู่ในโบรถสิ เขาอยากได้ยินข่าวจากพวกท่านใจจะขาด ท่านตามีมก็ได้กล่าวว่า

เมื่อยัซซาซะฮฺมันได้บอกกับเราถึงชายคนหนึ่ง เราก็ได้แยกจากมัน ปรากฏว่ามันเป็นชัยตอน ท่านตามีมก็ได้กล่าวว่า เราก็ได้รีบด่วนไปจนเข้าไปในโบรถ ในนั้นมีชายร่างใหญ่ เราได้เห็นมันในสภาพที่เป็นมนุษย์ ถูกมัดไว้แน่น โดยรวบมือทั้ง 2 ไว้ที่ต้นคอ ล่ามขาหรือหน้าแข้งด้วยกับเหล็ก เราจึงอุทานว่า ชิบหายล่ะ ท่านคืออะไรกัน มันจึงพูดว่า พวกท่านสามารถบอกข่าวให้กับฉันได้ ดังนั้นจงบอกข่าวให้ฉัน พวกท่านเป็นใคร ? พวกเขาได้กล่าวว่าเราเป็นชาวอาหรับ เราได้นั่งเรือมา บังเอิญทะเลเกิดปั่นป่วน พวกเราจึงโต้คลื่นอยู่นานถึง 1 เดือน ต่อมาเราก็มาติดเกาะของท่านนี่แหละ เราก็ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ เรือ แล้วเราก็เดินเขามาในเกาะ แล้วก็พบกับสัตว์มีขนมาก (แล้วพูดคุยกับมัน)....ชายในโบรถนั้นจึงกล่าวว่า พวกท่านจงบอกฉันถึงเรื่องอินทผลัมบัยซานซิ เราก็กล่าวว่า ท่านต้องการรู้เรื่องอะไรของมัน ?

ชายในโบรถจึงกล่าวว่า ฉันจะถามพวกท่านว่าอินทผลัมนี้มีผลหรือไม่ เราก็ตอบว่า ?ใช่ มันมีผล? ชายผู้นั้นก็ได้กล่าวว่า ?แน่นอนมันเกือบที่จะไม่ออกผลแล้ว? แล้วก็กล่าวต่อไปว่า ?พวกท่านจงบอกกับฉันถึงเรื่องทะเลสาบต็อบรีย์ซิ? เราจึงกล่าวว่า ?ท่านต้องการรู้เรื่องอะไรของมัน ? มันจึงกล่าวว่า ?ในนั้นมีน้ำหรือไม่? พวกเขาก็บอกว่า ?มันมีน้ำมาก? มันก็กล่าวต่อไปว่า ?น้ำในทะเลสาบนั้นเกือบที่จะแห้งหมดแล้ว? แล้วก็พูดว่า ?พวกท่านจงบอกฉันถึงเรื่องตาน้ำซูค๊อร? พวกเขาก็บอกว่า ?ท่านต้องการรู้เรื่องอะไรของมัน? ชายผู้นั้นตอบว่า ?ในตาน้ำมีน้ำหรือไม่ แล้วชาวบ้านซูค๊อรใช้ตาน้ำนี้ทำการเพาะปลูกหรือเปล่า? เราก็บอกว่า ?ใช่ มันมีน้ำมากและใช้ทำการเพาะปลูกด้วย? ชายผู้นั้นกล่าวว่า ?จงบอกกับฉันซิ ถึงเรื่องนบี อัลอุมมีย์ (นบีที่ไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ คือนบีมูฮัมหมัด) ว่าเขาทำอะไรบ้าง? พวกเขาบอกว่า ?นบีได้ออกมาจากมักกะห์มุ้งไปยังเมืองยัซร๊อบ? ชายผู้นั้นก็พูดว่า ?อาหรับจะฆ่าเขาใช่ไหม? เราก็บอกว่า ?ใช่? แล้วมันก็เล่าให้ชายผู้นั้นฟังว่า ?อย่างไรที่เขาทำกับอาหรับ? เราก็บอกว่า ?อาหรับจะติดตามเขา และภักดีต่อท่านนบี?

ชายผู้นั้นก็กล่าวว่า ?ใช่อย่างที่เล่ามาหรือ? เราก็บอกว่า ?ใช่? แล้วชายผู้นั้นก็กล่าวว่า ?หากมันเป็นเช่นนั้น มันก็ดีกับพวกเขาจากการที่พวกเขาภักดีต่อนบี และฉันก็จะบอกกับพวกท่านถึงเรื่องฉัน ฉันคือมาเซียฮฺ (ดัจญาล) ฉันเกือบที่จะถูกอนุญาตให้ออกไปแล้ว แล้วฉันก็จะออกเดินทางไปบนหน้าแผ่นดิน ฉันจะไม่เว้นไปสักหมู่บ้านเดียว แต่ฉันจะไปทุก ๆ หมู่บ้านภายใน 40 คืน นอกจากมักกะห์และตอยยีบะห์ สองเมืองนี้ถูกห้ามสำหรับฉัน ทุก ๆ ครั้งที่ฉันต้องการจะเข้าไปในเมือง ๆ หนึ่ง จะมีบรรดามะลาอิกะฮฺถือดาบวิ่งมาขัดขวางไม่ให้ฉันเข้าไป และถูก ๆ ถนนจากสองเมืองก็จะมีมะลาอิกะฮฺ มารักษาความปลอดภัยอยู่? ท่านฟาติมะฮฺได้เล่าว่า ท่านนบีได้กล่าว และเอานิ้วก้อยจิ้มไปที่มีมบัร ?นี่แหละตอยยีบะฮฺ (หมายถึงมาดีนะห์) โปรดทราบ ฉันเคยเล่าเรื่องดังกล่าวให้พวกท่านฟังแล้วใช่ไหม? ผู้ฟังก็ตอบว่า ?ใช่?... (รายงานโดยมุสลิม อบูดาวุท และตีรมีซีย์) 

อัพเดทล่าสุด